เรื่องเล่าประสบการณ์เมื่อใกล้ถึง เบญจเพส

ย่างเข้า 25
การเริ่มต้น ความคิด และ ตัดสินใจ
หลังจากที่ผ่านคืนวันแห่งรางร้ายและมิตรภาพแห้งความสุข  ผมยังต้องมาเครียดอีก เพราะเรื่องไรนะหลอ คือ เลือกไม่ถูกไงว่าจะเริ่มงานที่ไหน ปั๊ดโธ!!! (เหมือนจะดี โฮ่ๆๆๆ) ยิ้มทิ้ง+++ กับชีวิตตกงาน แต่เลือกงานเนี๊ยยากกว่า ถถถ ชีวิตช่างโหดร้ายไปอีก สรุปแล้วผมเลือกที่ทำงานที่สามารถขับรถไปกลับบ้านได้ ดีกว่าคือเป็นเลขาให้กับพ่อของเพื่อนผม เมื่อย่ามก้าวเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์  2560 ผมก็ได้งานใหม่ พรข้อที่ 2 ประสบผลสำเร็จ แต่ แต่ แต่ แต่ แต่ งานที่ผมทำนั้นคืองานตรวจสอบการทุจริตของคนในองค์กร ซึ่งแน่นอนว่า  ว้าย....ตั้ยแล้ว.......... ผมเชื่อว่า คนทุกคน คงไม่ชอบหรือเกียด ที่จะให้ใครเข้าไปก้าวก่ายในชีวิตของตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งผมนี้และคือคนที่โดนรังเกียด ฮ่าๆ (อันนี้ผมคิดไปเองนะ ผมก็ไม่รู้หลอกว่าเค้าเกียดผมรึป่าว) แต่เอาวะงานก็คือหน้าที่ๆ จะต้องยอมรับและรับผิดชอบนึกถึงอนาคตเข้าไว้ โดยเฉพาะ เงินเงินเงิน ไม่ค่อยหน้าเลือดเท่าไหร่หลอกดีออก แต่ก็นะ การทำงานก็ต้องมีกระทบกระทั่งกับบ้าง ส่วนตัวผมแล้ว ผมเป็นคนที่เข้าสังคมง่าย โอ๊ะลืมบอกไป ผมไม่ได้ใช้เส้นสายเข้านะครับ คือวันที่ผมไปสมัครงานผมก็สอบเข้าและสอบโปรแกรมพื้นฐานคอมพิวเตอร์เหมือนคนปกติทั่วไป จนถึงรอบที่สันภาษณ์ ผมก็เข้าสัมภาษณ์โดยที่ไม่ได้มีพ่อเพื่อนมานั่งกำกับแต่อย่างใด ผมสัมภาษณ์ทั่วไปกับฝ่าย HR เป็นไปด้วยดีและกำลังจะนัดวันเริ่มงาน แต่แล้วพ่อของเพื่อนผมก็ปรากฏตัวขึ้น  และเดินตรงดิ่งพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาทางผม และรอยยิ้ม หยุดลงตรงที่โต๊ะสัมภาษณ์แล้วบอกว่า
พ่อ : เป็นไงบ้าง สัมภาษณ์ผ่านมั้ย?
จนท. : กำลังนัดวันเวลาเริ่มงานคะ
พ่อ : เด็กคนนี้เป็นเพื่อนของลูกผมเอง สั่งตรงเข้ามาจาก ออฟฟอร์ด เลยนะเดียวให้ไปประจำอยู่กับผม (ฮ่าๆ ผมยิ้มทำตัวไม่ถูกและ จนท. ก็งง พอๆกันกับผม)
จนท. : อ่าวจริงหรอคะ ทางหนูจะรับไว้ฝั่งหนูเช่นกัน (และแล้วศึกชิงตัวก็กำลังจะเริ่ม)
พ่อ : เพื่อนลูกผมเอง เข้าชื่อ...ยิ้ม.... เนี่ย ไม่เชื่อถามเค้าสิว่ารู้จักลูกผม หรือผมมั้ย?( ด้วยความที่ จนท.ยังไม่อยากเชื่อเท่าไหร่จึงได้ถามผมไปอีกว่า จริงหรอ แหม.....ขนาดนี้แล้วยังไม่จริงก็บ้าและ คิดในใจนะ เพราะเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออกฮ่าๆ)
จนท. : ค่ะ งั้นให้ไปประจำฝั่งบอส แต่ว่าขอเวลาว่างมาช่วยปรึกษาด้านการตลาดโปรโมทแบร์นหน่อย(งานเก่าผมอยู่ฝ่ายการตลาดนะครับแล้วตอนสัมภาษณ์เค้าก็ถามผมเลยเล่าพอคร่าวๆ แล้วทางบริษัทก็กำลังโปรโมทแข่งขันกับคู่แข่งพอดีเลยอยากให้มาช่วยหาช่องทางโปรโมทนะครับ)
หลังจากนั้นสงครามแย่งชิงก็จบลงเอยด้วยดีและพ่อก็มาบอกตอนหลังว่า พ่ออยากให้เค้ารู้ว่าเรามีความสามารถจริง เลยไม่อยากใช่เส้นหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยว ก็ต้องรอให้ผ่านก่อนจึงจะเข้าไปรับตัว หา............ทำกันหยั่งนี้เลย ลึกซึ่ง มากเลยครับพ่อ ซึ่งจริงๆแล้ว พ่อเป็นคนที่ลึกซึ่งจริงๆนะครับ ปัจจุบันที่ผมทำงานอยู่ การที่พ่อจะทำอะไรซักอย่างมองขาดมาก ไม่เคยตกหล่นแม้แต่น้อยเลย คาราวะเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่