ข้อสอบ O-NET ม.3 ไม่สามารถวัดความรู้ที่แท้จริงในตัวเด็กได้เลย

ผลสอบ O-net ม.3 พึ่งประกาศไปเมื่อหลายวันมานี้ มีหลายเรื่องดราม่ามากมาย มีข่าวออกว่าคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า50%ทุกวิชา มีเด็กมากมายที่ทั้งดีใจและเสียใจในคะแนนของตัวเอง วันนี้ผมจะมาพูดสองประเด็นในเรื่องโอเน็ตม.3 ที่ผมอยากเล่าให้ฟัง

1.ผู้อำนวยการแจกให้เงินเด็กเป็นแรงจูงใจให้เด็กสอบ
ขอเท้าความไปเมื่อปีที่แล้ว มีเด็กสองคนจากโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษแห่งหนึ่งได้รับเงินคนละ10000บาทจากผู้อำนวยการหลังจากสอบโอเน็ตระดับชั้นม.3ได้คะแนนเต็มในวิชาคณิตศาสตร์และออกข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศ(ในขณะที่รร.อื่นไม่ออกข่าว)
ทำให้ปีนี้ เด็กที่อยู่ในโรงเรียนแห่งนั้นทุกคนที่คิดว่าตัวเองมีโอกาสได้บ้าง ต่างตั้งใจทำข้อสอบเต็มที่ ทบทวนหลายรอบเพื่อหวังเงิน10000บาทจากท่านผู้อำนวยการ
จนปีนี้ เมื่อโอเน็ตประกาศผลออกมา วิชาคณิตศาสตร์มีคนได้เต็มเกือบ10คน ได้ท็อปวิทยาศาสตร์ระดับภาค1คน และท็อปภาษาอังกฤษอีก1คน ผู้อำนวยการก็ให้เงินคนละ10000บาทเช่นกัน ก็ต้องยอมรับว่า เงินมีผลมากที่ทำให้เด็กอยากทำข้อสอบ
และยังมีเด็กหลายคนได้คะแนน 96.8 93.6 ทำนองนี้มากมาย ผิดไปคนละข้อสองข้อ ถือว่าช่วยยกระดับโรงเรียนได้ดีทีเดียว
ดังนั้น ถ้าคุณยังเห็นว่าข้อสอบนี้ช่วยวัดความรู้ในตัวเด็กละก็ ผิดทันที เพราะถ้ารร.ไม่ทำอย่างนี้ เด็กหลายคนก็ไม่อยากทำ ถ้าไม่มีแรงจูงใจ เด็กไม่รู้จะสอบไปเพื่ออะไร ไม่มีผลต่อตัวเขาอยู่แล้ว และเด็กทุกรู้ว่า ครูจัดติวโอเน็ตกันเยอะเพื่อให้เด็กได้คะแนนดีๆ ทำเพื่อชื่อเสียงโรงเรียน ไม่ได้ทำเพื่อตัวเขาเองอยู่แล้ว แล้วจะทำไปทำไม ต่อม.4ก็เข้าโรงเรียนเดิม ก็ไม่มีปัญหาอะไร งั้นจะตั้งใจทำไปทำไม?

2.ข้อสอบมีข้อคลุมเครือทุกปี (ข้อนี้ ใครไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร)
ปีที่แล้วในรร.เดิมมีเด็กสองคนได้คะแนนเต็มในวิชาคณิตศาสตร์ และมีอีกประมาณ5คนที่ผิดไป1ข้อ(ข้อเดียวกัน)อดเงิน10000บาทไป นั่นอาจเป็นความสะเพร่าของพวกเขา
แต่ในปีนี้ เด็กที่เป็นห้องคิงห้องควีนของรร.นี้ต่างตั้งใจมาก(เพื่อเงิน10000บาทนั่นแล่ะ) จนเมื่อประกาศผล มีเด็กเป็นสิบคนได้คะแนนเต็มในวิชาคณิตศาสตร์(+ท็อปของภาคในวิชาวิทย์+อังกฤษ)ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว และก็ยังมีอีกเป็น20คนที่ผิดไป1-2ข้อ(ข้อเดียวกัน)โดยโจทย์ที่เด็กผิดข้อนั้นถามหาพื้นที่ผิวธรรมดาๆ โดยถามพื้นที่ผิวของหลังคาโดมเป็นทรงผ่าครึ่งทรงกระบอกตามยาว โดยเด็กที่ผิดข้อนั้น หาพื้นที่ผิวด้านบนของครึ่งทรงกระบอก แต่รวมพื้นที่ผิวข้างซึ่งเป็นครึ่งวงกลมไปรวมด้วย(โจทย์ให้รูปมา) ส่วนนี้ทำให้เด็กสับสนและอดเงิน10000ไป
ข้อนี้อาจต้องโทษตัวเด็กเองที่อ่านโจทย์ไม่รอบคอบ แต่กรณีนี้ดันเกิดขึ้นทุกปี โดยเด็กผิดไป1-2ข้อ ในข้อเดียวกัน(และตัวเลือกเดียวกัน)

ดังนั้นจากสองประเด็นนี้ ข้อสอบไม่สามารถวัดความรู้ที่แท้จริงในตัวเด็กได้เลย ต้องมีเงิน10000มาล่อ หรืออะไรก็แล้วที่รร.พอจะทำ(แม้ความจริงปีที่แล้วผอ.ให้เป็นรางวัลสำหรับเด็กสองคนนั้นเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าปีนี้เด็กคิดไปเองว่าเต็มแล้วจะต้องได้ แต่ผอ.ก็ให้เป็นรางวัลเช่นเดิม) เพื่อทำให้ระดับรร.ยกสูงขึ้น ส่วนเด็กรร.อื่นที่ผอ.ไม่ให้รางวัลตอบแทนแบบนี้(อาจจะให้แค่1000-2000)ก็ได้คะแนนน้อย วัดอะไรไม่ได้ เพราะเด็กไม่ได้ตั้งใจที่จะทำ

*และข้อสอบโอเน็ตมันดูง่ายมากในสายตาเด็กห้องคิงควีน(ในขณะที่เด็กห้องอื่นอาจทำได้แค่เกินค่าเฉลี่ยมานิดๆ หรือบางคนไม่ทำเลย)
**ไม่ได้บอกว่าการที่ผอ.มาจ่ายเงิน10000เพื่อซื้อเด็กให้ตั้งใจทำข้อสอบเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพียงแค่ต้องการพูดเปรียบเทียบ
***หลายคนบอกว่า ข้อสอบโอเน็ตนั้นยาก แต่ความจริงนั้นข้อสอบไม่ได้ยากเวอร์จนเกินความรู้ แต่เด็กไม่รู้ว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อสอบไปเพื่ออะไร เด็กไม่รู้จักนำสิ่งที่เรียนมาประยุกต์ใช้(ต้องโทษระบบการศึกษาด้วย) ทำให้คะแนนออกมาไม่ดี
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่