Dolomites Italy
MISURINA & BRAIES LAKE ทะเลสาบข้ามกาลเวลา
Lago di MIsurina
Lago di Braies
May 2015 ในวันที่อากาศหนาวเย็น แต่เราและอันเดรดันตัดสินใจว่าจะขึ้นเขากัน เพราะเคยเห็นว่าแถบด้านเหนือของเมืองที่เราอยู่ มีเส้นทางที่จะขับไปแอลป์ด้านที่ติดกับออสเตรียได้ ไม่ไกล ไม่สมบุกสมบันมาก เพราะขี้เกียจบุกป่าฝ่าดงขึ้นเขา ด้วยไม่ได้เป็นพวกแอดเวนเจอร์เท่าไร เที่ยวกันแต่วัง แต่ วัด และมิวเซียม , แต่ที่นี่คงขับรถไปชิลๆ สบายๆและเราก็ไปกัน
ออกจากบ้านกันแต่เช้ามืด แต่เริ่มมีแสงแล้วไปตามเส้นทางถนนหลวงออกนอกเมือง จากวิเชนซ่า ไป เบลลูโน่ ไม่เคยมีใครขับไปแต่เราตามแผนที่ไปได้ไม่ยาก เพราะช่วงถนนใหญ่ก็ไม่มีตรอกซอยอะไร แค่ว่าตามป้ายบอกทางให้ถูก ไม่หลงไปเวโรน่าก็พอ เราไปได้สองทางคือไปทาง Bolzano ก็ได้ จะไปถึง Bries Lake ก่อน แต่ว่าอันเดรจะขับไปทาง Bellunoซึ่งจะเป็นทางที่สั้นกว่า และจะไปถึง Misurina Lake ก่อนจากนั้นค่อยต่อไป Braies Lake ค่ะ
ขับไปเรื่อยๆจากถนนเล็กสู่ไฮเวย์ จากไฮเวย์ลอดอุโมงไปเป็นสิบๆอุโมงค์ ถนนค่อยๆเป็นเนินขึ้นสูงไปเรื่อยๆแบบช้าๆไม่หักโหม ขับตามกันไป 2 คัน ของครอบครัวน้องชาย 1 คัน ของอันเดร 1 คันในรถมีเรา นุ่ม และอันเดร เราก็ถ่ายรูปตามเส้นทางไปเรื่อยๆ พอลอดอุโมงมากมายไปสักพักก็เริ่มตื่นเต้น เพราะเริ่มมองเห็นภูเขาใหญ่ๆ เทือกเขาแอลป์อันยาวเหยียดโอบล้อมยุโรปจากสวิส มาถึงมิลาน มาถึงที่ชายแดนอิตาลี่ตัดกับเยอรมันตรงนี้ เป็นเขตของหินทีมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร แถบนี้เป็นหินโดโลไมท์ เราเรียกภูเขาแอลป์ตรงนี้ว่า Dolomiti หรือ Dolomites ในภาษาอังกฤษ มีความสวยแบบเท่ๆแตกต่างจากแถบสวิสที่ดูโรแมนติค หวานๆ นั่น ขนาดภูเขายังสัมผัสได้อารมณ์กันเป็นเรื่องเป็นราว ก็มันจริงนิ ลองดูเอานะคะ
โบสถ์เล็กๆระหว่างทาง คนแถวนี้พูดภาษาเยอรมันกัน
ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็เข้ามาอยู่ในเขตเทือกเขา ที่โดนโอบล้อมไปด้วยภูเขาใหญ่ๆที่ในชีวิตไม่เคยพบเจอมาก่อน เป็นอารมณ์ที่เหมือนกับเรา คนตัวเล็กๆตื่นตะลึงไปกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่เหนือคำว่าสวย แต่มันมหัศจรรย์ ป่าแถบนี้เป็นป่าโปร่ง มีต้นสนส่วนมาก ต้นสนหลากหลายพันธุ์สูงเตี้ยใหญ่เล็ก คงรวมกันอยู่ที่นี่นับร้อยพันธุ์ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปตามทางแล้วก็ลอดอุโมงค์อีก ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านทราวิโซ จนถึงตัวเมือง
Belluno เมืองน่ารักบนความสูงที่มีแอลป์ล้อมรอบ ไม่ว่าจะขับรถไปตรงไหนของเมือง ก็จะมีแอลป์อยู่ในสายตาตลอดเวลา และไม่ใช่แบบไกลๆนะ แบบใกล้ๆจนเหมือนอยู่ตรงจมูกนี่เอง มันน่าอยู่มาก อากาศบริสุทธิ์ ผู้คนที่อยู่อาศัยพูดภาษาเยอรมันกันทั้งนั้น จนนึกว่านี่คืออิตาลี่หรือเยอรมันหรือออสเตรียกันแน่นะ
จากเมือง Belluno ขับต่อไปเพื่อไปยัง
Misurina Lake พอจะใกล้ถึงละ เริ่มทางเล็กลงและมีหลายทางแยก แล้วก็หลงครับท่าน จอดรถถามชาวบ้านภาษาอิตาลี่สำเนียงเยอรมันฟังยากชะมัด แต่พวกอันเดรเค้าเข้าใจกัน ถอยรถกลับไปอีกทาง ขับไปไม่นานก็ถึงลานกว้างๆมีทะเลสาบใสสะท้อนสิ่งต่างๆบนพื้นดินรวมทั้งผืนฟ้าลงไปในน้ำ ที่นี้งียบสงบจริงๆในฤดูนี้ พอเปิดประตูออกมาก็สัมผัสความหนาวบนเขากันได้อย่างจริงจรัง ขาแข็งทันที ต้องไปกากาแฟอุ่นๆกับครัวซองร้อนๆทานในร้านอาหารริมทะเลสาบกันหน่อย แต่ดูเหมือนร้านรวง รวมทั้งโรงแรมจะปิดเกือบหมด ดีที่ยังเปิดอยู่ร้านนึง หลังจากนั้นก็เริ่มเดินไปรอบๆทะเลสาบ ชมความงาม สูดอากาศดีๆไม่มีมลพิษและบันทึกความทรงจำ
ด้านบนเขายังมีหิมะอยู่บ้าง บรรยากาศสงบ เย็น วันนั้นยังไม่ติดลบ แค่ 1 - 2 องศาเท่านั้น ในฤดูนี้ที่เราไป หน้าสกีหมดแล้ว เพราะหิมะละลายจนเหลือแค่ผิวบางๆของหิมะด้านล่าง ด้านบนก็ไม่เยอะจนเล่นสกีได้ ต้องมาช่วงเดือน ธันวาคม จนถึงกุมภาพันธ์ จึงจะมีหิมะหนาค่ะ
เคยไหมได้ไปสถานที่หนึ่งแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนสถานที่บนโลกนี้ หรือเหมือนกับว่ามันมหัศจรรย์อย่างกับอยู่อีกมิติหนึ่ง ยังไงยังงั้น แม้มือและขาจะเกือบเยือกแข็ง แต่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ในชีวิตไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้ ทำให้เราพากันเดินเล่นไปรอบๆทะเลสาบ เพื่อซึมซับความสวยงาม ความเย็น อากาศบริสุทธ์จริงๆที่สูดได้เต็มปอด เดินไปจนรอบโดยไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะแต่ละมุมมองของทะเลสาบล้วนสวยงาม และมีอะไรให้ดูเล่นเหมือนเดินไปในป่าผสมกับสวนสาธารณะ ไม่เหนื่อยและไม่เบื่อเลย ธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนจริงๆ. ได้ชาร์ตแบตเต็มที่มาก
จาก
Lago di Misurina เราก็ขับรถต่อไปอีกสักพัก ไม่ไกลกันมาก มีทะเลสาบอีกที่ที่สวยงามไม่แพ้กัน ขับรถมาตามหุบเขาใหญ่ตื่นตาตื่นใจเช่นเคย แล้วเราก็มาถึง
Lago di Braies ภาษาอิตาลี่เขาออกเสียงว่า
บรายเอส ที่นี่เหมือนกับเขาเอาสีเขียวเวอริเดี้ยนผสมสีเทอร์คอยซ์มาย้อมทะเลสาบยังไงยังงั้น สีสันช่างจัดจับใจ เราไม่มีความรู้เรื่องแร่ธาตุ แต่รู้เรื่องสี ดังนั้นก็จินตนาการไปได้หลากหลายจริงๆ วันนั้นเค้ามีจัดงานแต่งงานที่กระท่อมริมทะเลสาบด้วย น่ารักจริงๆ ที่นี่มีโบสถ์เล็กๆน่ารัก ละมีเรือให้พายเล่น หน้าร้อนน่าจะลงเล่นได้ แต่วันที่เราไป เพิ่งจะสปริง จึงยังหนาวอยู่พอสมควร ดูภาพกันดีกว่าค่ะ
ภูเขา ทะเลสาบใสเย็นอยู่ตรงหน้า ฟินมากๆ
โบสถ์น้อยๆน่ารัก ตามแบบฉบับอิตาลี่เขาล่ะ
** บ้านหลังเก่าๆที่เค้าจัดพิธีแต่งงาน ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่ให้ความหมายกับจิตใจและความรู้สึกมากๆ**
ที่นี่ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากความงดงามยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เหมาะแก่การพักผ่อนและสูดอากาศที่สดชื่นให้ชุ่มปอด เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามเหนือกาลเวลาจริงๆ แต่ละฤดูมีความงามที่แตกต่างกันไป หินผาที่มีลักษณะแตกต่างจากแถบสวิส ที่นี่แปลกตาแบบเท่ๆ ยากที่จะลบเลือนไปจากใจ เราประทับใจเทือกเขาทางเหนือของอิตาลี่พอๆกับประทับใจงานศิลปะที่นี่เลยทีเดียว
ถ้ามีเวลามาแถวอิตาลี่ทางเหนือ หรือเยอรมันตอนใต้ ลองแวะมาสูดอากาศกันนะคะ
********* Photo BY : Sarah Somz & Andrea Dalla Bona ***********
[CR] ท่องไปในอิตาลี่ ตอน DOLOMITI แอลป์ฝั่งอิตาลี่ - เยอรมัน
Lago di MIsurina
Lago di Braies
May 2015 ในวันที่อากาศหนาวเย็น แต่เราและอันเดรดันตัดสินใจว่าจะขึ้นเขากัน เพราะเคยเห็นว่าแถบด้านเหนือของเมืองที่เราอยู่ มีเส้นทางที่จะขับไปแอลป์ด้านที่ติดกับออสเตรียได้ ไม่ไกล ไม่สมบุกสมบันมาก เพราะขี้เกียจบุกป่าฝ่าดงขึ้นเขา ด้วยไม่ได้เป็นพวกแอดเวนเจอร์เท่าไร เที่ยวกันแต่วัง แต่ วัด และมิวเซียม , แต่ที่นี่คงขับรถไปชิลๆ สบายๆและเราก็ไปกัน
ออกจากบ้านกันแต่เช้ามืด แต่เริ่มมีแสงแล้วไปตามเส้นทางถนนหลวงออกนอกเมือง จากวิเชนซ่า ไป เบลลูโน่ ไม่เคยมีใครขับไปแต่เราตามแผนที่ไปได้ไม่ยาก เพราะช่วงถนนใหญ่ก็ไม่มีตรอกซอยอะไร แค่ว่าตามป้ายบอกทางให้ถูก ไม่หลงไปเวโรน่าก็พอ เราไปได้สองทางคือไปทาง Bolzano ก็ได้ จะไปถึง Bries Lake ก่อน แต่ว่าอันเดรจะขับไปทาง Bellunoซึ่งจะเป็นทางที่สั้นกว่า และจะไปถึง Misurina Lake ก่อนจากนั้นค่อยต่อไป Braies Lake ค่ะ
ขับไปเรื่อยๆจากถนนเล็กสู่ไฮเวย์ จากไฮเวย์ลอดอุโมงไปเป็นสิบๆอุโมงค์ ถนนค่อยๆเป็นเนินขึ้นสูงไปเรื่อยๆแบบช้าๆไม่หักโหม ขับตามกันไป 2 คัน ของครอบครัวน้องชาย 1 คัน ของอันเดร 1 คันในรถมีเรา นุ่ม และอันเดร เราก็ถ่ายรูปตามเส้นทางไปเรื่อยๆ พอลอดอุโมงมากมายไปสักพักก็เริ่มตื่นเต้น เพราะเริ่มมองเห็นภูเขาใหญ่ๆ เทือกเขาแอลป์อันยาวเหยียดโอบล้อมยุโรปจากสวิส มาถึงมิลาน มาถึงที่ชายแดนอิตาลี่ตัดกับเยอรมันตรงนี้ เป็นเขตของหินทีมีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร แถบนี้เป็นหินโดโลไมท์ เราเรียกภูเขาแอลป์ตรงนี้ว่า Dolomiti หรือ Dolomites ในภาษาอังกฤษ มีความสวยแบบเท่ๆแตกต่างจากแถบสวิสที่ดูโรแมนติค หวานๆ นั่น ขนาดภูเขายังสัมผัสได้อารมณ์กันเป็นเรื่องเป็นราว ก็มันจริงนิ ลองดูเอานะคะ
ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็เข้ามาอยู่ในเขตเทือกเขา ที่โดนโอบล้อมไปด้วยภูเขาใหญ่ๆที่ในชีวิตไม่เคยพบเจอมาก่อน เป็นอารมณ์ที่เหมือนกับเรา คนตัวเล็กๆตื่นตะลึงไปกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่เหนือคำว่าสวย แต่มันมหัศจรรย์ ป่าแถบนี้เป็นป่าโปร่ง มีต้นสนส่วนมาก ต้นสนหลากหลายพันธุ์สูงเตี้ยใหญ่เล็ก คงรวมกันอยู่ที่นี่นับร้อยพันธุ์ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปตามทางแล้วก็ลอดอุโมงค์อีก ขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านทราวิโซ จนถึงตัวเมือง Belluno เมืองน่ารักบนความสูงที่มีแอลป์ล้อมรอบ ไม่ว่าจะขับรถไปตรงไหนของเมือง ก็จะมีแอลป์อยู่ในสายตาตลอดเวลา และไม่ใช่แบบไกลๆนะ แบบใกล้ๆจนเหมือนอยู่ตรงจมูกนี่เอง มันน่าอยู่มาก อากาศบริสุทธิ์ ผู้คนที่อยู่อาศัยพูดภาษาเยอรมันกันทั้งนั้น จนนึกว่านี่คืออิตาลี่หรือเยอรมันหรือออสเตรียกันแน่นะ
จากเมือง Belluno ขับต่อไปเพื่อไปยัง Misurina Lake พอจะใกล้ถึงละ เริ่มทางเล็กลงและมีหลายทางแยก แล้วก็หลงครับท่าน จอดรถถามชาวบ้านภาษาอิตาลี่สำเนียงเยอรมันฟังยากชะมัด แต่พวกอันเดรเค้าเข้าใจกัน ถอยรถกลับไปอีกทาง ขับไปไม่นานก็ถึงลานกว้างๆมีทะเลสาบใสสะท้อนสิ่งต่างๆบนพื้นดินรวมทั้งผืนฟ้าลงไปในน้ำ ที่นี้งียบสงบจริงๆในฤดูนี้ พอเปิดประตูออกมาก็สัมผัสความหนาวบนเขากันได้อย่างจริงจรัง ขาแข็งทันที ต้องไปกากาแฟอุ่นๆกับครัวซองร้อนๆทานในร้านอาหารริมทะเลสาบกันหน่อย แต่ดูเหมือนร้านรวง รวมทั้งโรงแรมจะปิดเกือบหมด ดีที่ยังเปิดอยู่ร้านนึง หลังจากนั้นก็เริ่มเดินไปรอบๆทะเลสาบ ชมความงาม สูดอากาศดีๆไม่มีมลพิษและบันทึกความทรงจำ
ด้านบนเขายังมีหิมะอยู่บ้าง บรรยากาศสงบ เย็น วันนั้นยังไม่ติดลบ แค่ 1 - 2 องศาเท่านั้น ในฤดูนี้ที่เราไป หน้าสกีหมดแล้ว เพราะหิมะละลายจนเหลือแค่ผิวบางๆของหิมะด้านล่าง ด้านบนก็ไม่เยอะจนเล่นสกีได้ ต้องมาช่วงเดือน ธันวาคม จนถึงกุมภาพันธ์ จึงจะมีหิมะหนาค่ะ
เคยไหมได้ไปสถานที่หนึ่งแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนสถานที่บนโลกนี้ หรือเหมือนกับว่ามันมหัศจรรย์อย่างกับอยู่อีกมิติหนึ่ง ยังไงยังงั้น แม้มือและขาจะเกือบเยือกแข็ง แต่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ในชีวิตไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้ ทำให้เราพากันเดินเล่นไปรอบๆทะเลสาบ เพื่อซึมซับความสวยงาม ความเย็น อากาศบริสุทธ์จริงๆที่สูดได้เต็มปอด เดินไปจนรอบโดยไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะแต่ละมุมมองของทะเลสาบล้วนสวยงาม และมีอะไรให้ดูเล่นเหมือนเดินไปในป่าผสมกับสวนสาธารณะ ไม่เหนื่อยและไม่เบื่อเลย ธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนจริงๆ. ได้ชาร์ตแบตเต็มที่มาก
จาก Lago di Misurina เราก็ขับรถต่อไปอีกสักพัก ไม่ไกลกันมาก มีทะเลสาบอีกที่ที่สวยงามไม่แพ้กัน ขับรถมาตามหุบเขาใหญ่ตื่นตาตื่นใจเช่นเคย แล้วเราก็มาถึง Lago di Braies ภาษาอิตาลี่เขาออกเสียงว่า บรายเอส ที่นี่เหมือนกับเขาเอาสีเขียวเวอริเดี้ยนผสมสีเทอร์คอยซ์มาย้อมทะเลสาบยังไงยังงั้น สีสันช่างจัดจับใจ เราไม่มีความรู้เรื่องแร่ธาตุ แต่รู้เรื่องสี ดังนั้นก็จินตนาการไปได้หลากหลายจริงๆ วันนั้นเค้ามีจัดงานแต่งงานที่กระท่อมริมทะเลสาบด้วย น่ารักจริงๆ ที่นี่มีโบสถ์เล็กๆน่ารัก ละมีเรือให้พายเล่น หน้าร้อนน่าจะลงเล่นได้ แต่วันที่เราไป เพิ่งจะสปริง จึงยังหนาวอยู่พอสมควร ดูภาพกันดีกว่าค่ะ
ที่นี่ไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากความงดงามยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เหมาะแก่การพักผ่อนและสูดอากาศที่สดชื่นให้ชุ่มปอด เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามเหนือกาลเวลาจริงๆ แต่ละฤดูมีความงามที่แตกต่างกันไป หินผาที่มีลักษณะแตกต่างจากแถบสวิส ที่นี่แปลกตาแบบเท่ๆ ยากที่จะลบเลือนไปจากใจ เราประทับใจเทือกเขาทางเหนือของอิตาลี่พอๆกับประทับใจงานศิลปะที่นี่เลยทีเดียว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น