[CR] สีรองพื้นปูนมีเพียง >> สีรองพื้นปูนใหม่ & สีรองพื้นปูนทับสีเก่าเท่านั้นหรือ ?



     ก่อนที่จะเข้าเรื่องของหัวข้อรีวิว "สีรองพื้นปูน"  ขอเกริ่นเรื่องระบบสี และหน้าที่ (คุณสมบัติ) ของสีรองพื้นให้เข้าใจเป็นพื้นฐานก่อน เพื่อจะได้เข้าใจง่ายขึ้นและลึกซึ้งขึ้น  >>   โดยทั่วๆไปจะเข้าใจว่ามีเพียงว่าทาสีรองพื้นกับทาสีทับหน้าเท่านั้น  ซึ่งไม่ได้มีเพียงเท่านี้  ในงานระบบสีนั้นจะมีสีอยู่ 3 ขั้นตอน คือ
     :-  สีรองพื้น  (Primer)
     :-  สีชั้นกลาง  (Undercoat)
     :-  สีทับหน้า  (Top Coat)

     แต่ด้วยในระบบสีทาอาคาร (Decorative Paint) แทบทั้งหมดแทบจะไม่มีขั้นตอนในสีชั้นกลาง (Undercoat)  ที่เห็นจะพอมีก็ในระบบสีน้ำมันทาพื้นผิวไม้ กล่าวคือ  สีรองพื้นจะเป็น "สีรองพื้นไม้ป้องกันยางไม้ / Aluminium Wood Primer", สีชั้นกลางก็จะเป็น "สีรองพื้นไม้กันเชื้อรา / Universal Undercoat หรือ Wood Undercoat"  และสีทับหน้าก็คือ "สีน้ำมัน / High Gloss Enamel"  ดังนั้นต่อไปก็ขอข้ามสีชั้นกลาง & สีทับหน้าไปก่อน  เพื่อกล่าวถึงสีรองพื้นตามหัวข้อรีวิว  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


     สีรองพื้น (Primer)  :  หมายถึงสีชั้นแรกสุดในระบบงานสีพื้นผิวนั้นๆ เช่น สีรองพื้นกันสนิม, สีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง และสีรองพื้นไม้อลูมิเนียม (ป้องกันยางไม้)  โดยทั่วไปสีรองพื้นจะมีคุณสมบัติเด่น / ลักษณะเฉพาะ  คือ  มีการ "ยึดเกาะดีกับพื้นผิว" นั้นๆ, "ป้องกันปัญหาของเนื้อวัสดุ" ที่จะมีปฏิกิริยาหรือมีผลกับความคงทนของสีทับหน้า เช่น  ป้องกันสนิมในงานเหล็ก, ป้องกันยางไม้ในงานไม้ และป้องกันความเป็นด่างในงานปูน-คอนกรีต  และหากมีคุณสมบัติในการ "ลดความสิ้นเปลืองของสีทับหน้า" ได้ด้วยยิ่งดี  


     ในงานทาสีผนังปูนฉาบ การเลือกสีรองพื้นให้เหมาะสม เพื่อให้การทาทับหน้ายึดเกาะกับผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคงทนนานหลายๆปีเท่าที่ควรจะเป็น  โดยทั่วๆไปสีรองพื้นปูนจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ  "สีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง / Acrylic Alkali Resisting Primer"  และ  "น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า / Contact Primer"  ที่มักเรียกกันจนย่อเป็น "สีรองพื้นปูนเก่า"   โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งานต่างกัน กล่าวคือ

     >>>  สีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง :  โดยทั่วไปจะเป็น "สูตรน้ำ"  ซึ่งมีกาวเป็นอะครีลิค 100% (100% Acrylic Resin)  ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความเป็นด่าง (Alkali) ได้ดี  รวมทั้งให้การยึดเกาะได้ดีเยี่ยมบนผนังปูน  เนื้อสีเป็นสีขาว จึงทำให้ประหยัดสีทับหน้าไปในตัว  โดยควรทาหลังจากการฉาบปูนทิ้งไว้อย่างน้อย 4 สัปดาห์  เพื่อให้ความเป็นด่างลดลง & ความชื้นในปูนฉาบลดลงด้วย (ไม่เกิน 14%)  โดยทั่วไปผู้ผลิตจำหน่ายกำหนดให้ทา 1 เที่ยว  แต่ไม่ควรทิ้งให้สีรองพื้นตากแดดตากฝนนานเกินไป ควรทาสีทับหน้าภายใน 2-3 สัปดาห์  
     อนึ่งควรเลือกใช้สีรองพื้นปูนใหม่ให้ถูกรุ่นกับสีทับหน้า ตามที่ผู้ผลิตจำหน่ายกำหนดไว้  เพราะบางครั้งช่างก็ใช้รองพื้นยี่ห้อตามที่ถูกกำหนดมา แต่ไปเลือกใช้สีรองพื้นปูนใหม่สลับรุ่นไป (ยี่ห้อหนึ่งๆ จะมีสีรองพื้นปูนใหม่กันด่าง หลายรุ่น คู่กับสีทับหน้าแต่ละรุ่น)  ซึ่งพบว่าบ่อยครั้งที่ช่างสีมักจะใช้เรื่องนี้ไปหลอกใช้กับผู้ว่าจ้าง เพราะผู้ว่าจ้างไม่ทราบในรายละอียดตรงนี้ หรือหากมีการทักท้วงก็จะอ้างว่าก็เป็นยี่ห้อที่ตกลงกันไว้

                       
                 

     >>>  น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า :  โดยทั่วไปเดิมจะเป็น "สูตรน้ำมัน"  ที่มีลักษณะเป็นสีใส  เหลวพร้อมใช้งาน  มีกลิ่นค่อนข้างแรง (ฉุน)  เหมาะกับงานผนังปูนที่ผ่านการทาสีมาแล้ว  ด้วยเป็นสีที่มีคุณสมบัติในการแทรกซึมได้ดีเยี่ยม โดยจะแทรกซึมผ่านเข้าไปในเนื้อฟิล์มสีเดิม (ที่หลงเหลืออยู่หลังการเตรียมพื้นผิว >> ขัดล้าง หรือฉัดล้าง)  เพื่อเข้าไปฟื้นฟูสภาพฟิล์มสีเดิม  รวมทั้งน้ำยารองพื้นบางส่วนยังแทรกซึมผ่านฟิล์มสีเดิมเข้าสู่เนื้อปูน เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะให้สีเดิมยึดเกาะผนังได้แข็งแรงขึ้น ไม่หลุดล่อนออกมาภายหลังการทาสีทับหน้าปรับปรุงใหม่ไปแล้ว

                             

หมายเหตุ :  กรณีพื้นผิวไม้เทียม (Fiber Cement Board) หรือ ไม้อัดซีเมนต์ (Wood Cement Board)  ที่จะทาสีน้ำอะครีลิคนั้น แนะนำให้เลือกใช้รองพื้นเป็น "สีรองพื้นปูนทับสีเก่า"  หรือไปเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับพื้นผิวชนิดนี้ที่มีผู้ผลิตจำหน่ายสีบางรายทำออกมาโดยเฉพาะแล้ว  อาทิ  TOA : FiberCement Shield, Nippon Paint : Fiber Cote  หรือ  Captain : FiberCement Shield เป็นต้น  


     ต่อมามีผู้ผลิตจำหน่ายหลายๆยี่ห้อ ได้เริ่มออกผลิตภัณฑ์สีรองพื้นปูนเก่าเป็นชนิด "สูตรน้ำ"  ที่ใช้งานง่ายกว่า แห้งเร็วกว่า (ทาสีทับหน้าได้เร็วกว่า)  และกลิ่นอ่อนมาเป็นทางเลือกให้กับช่างสี & เจ้าของบ้าน ที่ต้องการหลีกเลี่ยงจากปัญหาเรื่องกลิ่นฉุนของสูตรน้ำมันดั้งเดิม  (แต่หากเทียบประสิทธิภาพแล้ว สูตรน้ำมันจะมีคุณภาพมากกว่า  ดังนั้นสูตรน้ำจึงน่าจะเหมาะกับงานผนังภายในมากกว่า)

                             

     อนึ่งมักพบคำถามหนึ่งอยู่เสมอๆว่า "ผนังเดิม สียังดูสภาพก็ดีอยู่ ไม่มีปัญหา จำเป็นต้องทารองพื้นปูนเก่าหรือไม่ ?"  >>  หากสีเดิมเป็นสีเกรดดี และใช้งานมาไม่นานมาก ก็พออนุโลมจะไม่ทารองพื้นก็ได้  แต่หากไม่ทราบคุณภาพ/ยี่ห้อสีเดิม หรือสีผ่านการใช้งานมานาน ก็ควรทารองพื้นปูนเก่าจะมั่นใจกว่าว่าสีจะไม่หลุดล่อนมาภายหลังทาสีใหม่ไป  หรือเราอาจจะไม่แน่ใจในคุณภาพการยึดเกาะ (Adhesion) ของฟิล์มสีเดิม ก็มีการทดสอบง่ายๆด้วยตนเอง โดยใช้คมมีดคัตเตอร์กรีดฟิล์มสีเดิมเป็นรูปกากบาท (X) ยาวประมาณ 1-2 นิ้ว (Cross-Cut)  > ใช้สก๊อตเทปปิดทับ รีดด้วยนิ้วมือ แล้วลองดึงเทปออกดู หากฟิล์มสีหลุดออกมาตรงจุดตัดโดยง่าย ก็แปลว่าฟิล์มสีเดิมยึดเกาะไม่ดี (ควรทำจุดทดสอบหลายๆจุด)  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้  ดังนั้นลักษณะนี้ควรรองพื้นก่อนด้วย "น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า" จำนวน 1 เที่ยว โดยงานภายในควรเลือกใช้ชนิด "สูตรน้ำ"  และเลือกใช้ชนิด "สูตรน้ำมัน" สำหรับงานภายนอก



     ปัจจุบันในงานปูนนั้น มีสีรองพื้นอีกประเภทหนึ่งที่มีผู้ผลิตจำหน่ายสีหลายๆราย ได้ออกมาตอบสนองการใช้งานได้ทั้งปูนเก่า (ผ่านการทาสีมาแล้ว) และปูนฉาบใหม่ (ที่ยังไม่เคยทาสี)  นิยมเรียกกันว่า "สีรองพื้นอเนกประสงค์" หรือ Fresh Concrete Primer  ที่โดดเด่นตรงที่มีคุณสมบัติในการทาบนผนังปูนใหม่ที่เพิ่งฉาบปูนไปเพียง 2-3 วันได้ (โดยไม่จำเป็นต้องรอปูนเซ็ทตัว 4 สัปดาห์ ตามที่เกริ่นข้างต้น)  จึงเหมาะกับงานที่เร่งการทำงาน  รวมทั้งงานต่อเติมบ้านที่อาจจะมีทั้งปูนเก่า & ปูนใหม่ผสมผสานกัน  จะได้เลือกใช้สีรองพื้นเพียงชนิดเดียว  โดยสีรองพื้นชนิดนี้มีเนื้อเป็นสีขาว และส่วนใหญ่จะเป็นสูตรน้ำมัน (ยกเว้น Jotun)  อาทิ  TOA : Quick Primer, ICI : Dulux Weathershield Power Plus, Captain : Perfex Primer,  Jotun : Ultra Primer และ Nippon Paint : Express Kote เป็นต้น

                             
ชื่อสินค้า:   สีทาบ้าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่