สินค้า : Hibiclens
ขนาด : 4 oz ( 118 มล.)
ราคา : 5.99 USD + tax ( รวม ๆ แล้วประมาณ 230 บาท)
สถานจำหน่าย : ผมซื้อที่ Target แต่จริง ๆ มีขายทั่วไป Walmart , Walgreens 9ล9

ส่วนผสมหลักที่ออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์ : 4% w/v chlorhexidine gluconate
Inactive ingredients : Fragrance, isopropyl alcohol 4%, purified water, Red 40 และอื่น ๆ
ค่า PH 5.0 - 6.5

ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะครับ
1. ตอนเด็ก ๆ ผมไม่มีสิวครับ ถ้ามีก็เม็ดสองเม็ด ช่วงนั้น กินอิ่ม นอนหลับ กิจวัตรประจำวันเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ บ้าพลัง

2. พอโตขึ้นมาหน่อย ระดับอุดมศึกษา ผมก็ไม่ค่อยมีสิว ไม่มีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ครีมเคิมไม่ได้ใช้อะไรมาก ช่วงนั้น กิมอิ่ม นอนหลับ กิจวัตรประจำวันก็มีการเคลื่อนไหวร่างกายเยอะ

3. พออายุ 30 สิวเริ่มมา เพราะติดซีรีส์เกาหลี ดูข้ามวันข้ามคืน อาหารการกินก็ไม่เหมือนตอนอยู่เมืองไทย การนอนก็ไม่ดีเวลาไม่แน่นอนอันนี้เนื่องมาจากงานที่ทำ พอวันหยุดก็ติดซีรีส์เกาหลี เล่นเน็ตทั้งวันทั้งคืน การเคลื่อนไหวร่างกายก็เริ่มน้อยลงอย่างมาก ฟิตเนสไม่เข้าเลย

ตอนนั้นกลับกทม ไปแผนกผิวหนังของโรงพยาบาลแห่งนึง ขนาดเป็นรพ.เอกชน แต่รอคิวนานมาก ไปคุยกับตจแพทย์และบอกขอเร็วสุด หมอก็เลยทำ เลเซอร์สิวอุดตัน ตอนทำเจ็บมาก เจ็บจนน้ำตาเล็ด หลังทำหน้าเยินไป 1 อาทิตย์ ระหว่างนั้นออกไปไหนไม่ได้เลย แรก ๆ ต้องล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า และทาครีมที่หมอให้มา พอสักพักใช้ที่ล้างหน้าอ่อน ๆ ได้ หลังครบอาทิตย์ไปเก็บรอยโดยฉายแสง หมอบอกว่าถ้าแสงสัก 5 ครั้งหน้าจะใสกิ๊งเลย แต่ผมไม่มีเวลาเลยทำแค่ครั้งเดียว แต่แค่ครั้งเดียวหน้าก็เนียนเรียบใสกิ๊งแล้ว

สรุป 10 ปีที่แล้วไปทำเลเซอร์สิวอุดตัน จ่ายไป 10,000 บาท แต่เบิกประกันได้ เพราะสิวเป็นโรคไม่ใช่ความงาม

เวลาผ่านไป สิวก็เริ่มกลับมาอีก เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล (นั่นคือ กิน + นอน + เคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ดี) สิวก็เริ่มกลับมา ทีละเม็ดสองเม็ด เพิ่มเป็นหลายเม็ด ตรงนี้หาย ตรงโน้นขึ้น ผมก็ต้องรักษาไปตามอาการ เพราะไม่มีเวลาไปเลเซอร์สิวอุดตัน

Benzoyl peroxide , Clindamycin , Isotretinoin  และตัวยาในกลุ่มอื่น ๆ ทั้งรูปแบบกินและทา ผมใช้มาเยอะแล้ว แต่มันก็เหมือนเดิม ตรงนี้หาย ตรงโน้นขึ้น บางทีทายาสิว และ/หรือ กินยาสิว จนผิวแห้งปากลอก ก็ต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ แต่พอทาไปทามาสิวก็ขึ้นมาอีก

หรือไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์และแสง พวก IPL, vbeam , smooth beam, Yag และ Fraxel ผมก็ไปทำเพื่อรักษาสิว(ทางอ้อม) หรือเพื่อรักษารอย
อันนี้ไม่รู้เกี่ยวกับเลเซอร์ที่ไปทำมาไหม แต่ตอนนี้สภาพผิวแย่มาก โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แพ้ (ซึ่งก่อนทำเลเซอร์ สุขภาพผิวหน้าโอเคอย่างมาก ยกเว้นที่สิวขึ้น) ที่แอ๊ดวานซ์เพิ่มขึ้นมาอีกคือ บางทีถ้านอนไม่พอ ตื่นขึ้นมาจะคัน ๆ หน้า และพอสักพักจะเริ่มเป็นผื่นแดง ๆ และจะมีหนองเม็ดเล็ก ๆ 20-30 เม็ดขึ้นมาที่หน้า ต้องใช้พวกยาเสตียรอยทา พอผื่น + หนองหาย ก็ไม่ทิ้งรอยอะไรไว้เลย

ปล.
1. ส่วนใหญ่ผมจะหาหมอผิวหนัง (ตจแพทย์) และจะดูว่าจบจากโรงเรียนแพทย์อะไร ถ้าไปต่อสกินที่ต่างประเทศจะดูว่าจบจากระดับโลกไหม และจะดูว่าเครื่องเลเซอร์เป็นของที่ไหน ตรงตามงานวิจัย(ที่ได้มาจากส่วนกลาง)ไหม
2. จากประสบการณ์ส่วนตัว เลเซอร์ ให้ผลที่เลวร้ายกับตัวเองมาก
3. ปัญหาผิวพรรณ ค่าใช้จ่ายเยอะมาก (แม้ผมจะเบิกได้ แต่บางทีก็ขี้เกียจไปโรงพยาบาล ตัวอย่างเช่น ที่ผมอยู่เนี่ยเฉพาะค่าแพทย์ก็ 1,500 - 3,000 บาทแล้ว บางทีหลังจากพบแพทย์แล้ว แพทย์สั่งตัวยา clindamycin มาให้ทา คือแบบ เฮลโหล... ผมซื้อข้างนอกได้เองไหม ขวดละไม่ถึงร้อยบาท ไม่ต้องเสียค่ารถไปกลับโรงบาล นี่ผมต้องเสียค่ารถไปกลับไปหาคุณเพื่อให้สั่ง clindamycin มาทาสิวเนี่ยน๊ะ  และนอกจากนั้นวงเงินในบัตรประกันสำหรับผู้ป่วยนอกก็ถูกหักไปอีก บางทีผมก็เลยขี้เกียจไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาล บางครั้งกลับไทยก็เข้าคลินิกความงามทั่ว ๆ ไป แล้วก็จ่ายเงินเอง ส่วนพวก Fraxel , smooth beam , ipl อะไรพวกนี้เบิกไม่ได้อยู่แล้ว ที่ผมเคยทำก็ต้องจ่ายเอง)


เอาล่ะ มาเข้าสู่ Hibiclens กันครับ

จากนั้นก็รู้จัก Hibiclens ครับ สูตรของ Hibiclens อันนี้เป็นตัวน้ำยาทำความสะอาดผิวพรรณ ส่วนผสมหลักคือ คอเฮ็กซิดีน 4% ซึ่งอันนี้จะเป็น Disinfectant + antiseptic นอกจากนั้นก็มีทั้งน้ำหอม และแอลกอฮอล์เลย แถมใส่สีมาด้วย  (ปกติแล้วผมจะเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ และน้ำหอม รวมถึงน้ำมันหอมระเหยหลายตัว แต่นี่มีครบเลย)

ไอ้ตัว คอเฮ็กซิดีนเนี่ย ปกติแพทย์จะใช้ทำความสะอาดผิวพรรณของผู้ป่วย รวมถึงทำความสะอาดมือของแพทย์เองก่อนการผ่าตัด และใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด

ผมก็อ่านจากเว๊ปของ hibiclens เอง รวมถึง acne.org และอีกหลาย ๆ เว๊ปเลย เค้าก็บอกว่า hibiclens ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้ล้างหน้าน๊ะ (ในเว๊ปของ hibiclens เค้าก็บอกว่า อย่าให้เข้าตา หู จมูก และอย่าให้โดนอวัยวะสืบพันธ์ http://www.hibiclens.com/retail/s/faqs ) แต่ก็มีหลายคนเอา Hibiclens มาล้างหน้าแล้วบอกว่า work มาก สิวหาย และที่สำคัญหน้าไม่เยินด้วย  และผมก็เห็นมีคนบอกว่า derm บางคนก็แนะนำให้ใช้ hibiclens ล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว

อเมซิ่งขนาดนี้ ผมก็อดใจไม่ไหวสิครับ เลยไปหามาลอง

สรุปการใช้
ถ้าเป็นตอนเช้า ผมจะเช็ดหน้าด้วย cleansing ก่อน จากนั้นเอาน้ำเปล่าล้าง cleansing ออกไป และก็เอา Hibiclens มาล้างหน้าต่อ ทิ้งไว้สักนาทีสองนาทีจากนั้นก็ล้างออก (ระวังอย่าให้เข้าตา จมูก ปาก และโดนกะจู๋)

ผมก็ใช้มาสัก 1 อาทิตย์ได้แล้ว สรุปคือ หน้าไม่ breakout ไม่แห้ง รูขุมขนไม่ขยายใหญ่ แต่สิวลดลงมาก สิวที่แดง ๆ เตรียมจะขึ้น สิวที่กด ๆ แล้วเจ็บ ก็ค่อย ๆ หายไป ส่วนตรงหน้าผากที่ชอบมีเม็ดเล็ก ๆ ก็แทบมองไม่เห็น เอามือจับหน้าแล้วเนียนเรียบเลย (ข้อเสียคือ จะอยากเอามือจับหน้าบ่อย ๆ เพื่อปลื้มปริ่มกับความเนียนเรียบของหน้าที่กลับมาอีกครั้ง) คือตอนนี้แฮปปี้กับผลิตภัณฑ์มากครับ เลยไปซื้อมาเพิ่มอีก 2 ขวด

ถ้าใครอยากจะใช้ตาม ผมแนะนำให้ศึกษาข้อมูลดี ๆ ก่อนนะครับ แต่สำหรับผมมันเวิร์คมาก ๆ ดีกว่าครีม/เจล/โฟมล้างหน้าหลายตัวที่เคยใช้มาเลย

สำหรับคนที่เป็นสิว ผมก็ขอให้เจอหมอที่ดี และ/หรือ เจอผลิตภัณฑ์ที่เวิร์คสำหรับคุณนะครับ (รวมถึงราคามิตรภาพด้วย)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ และขอให้มีความสุขในวันนี้นะครับ

เฮ้ย....

มีเพิ่ม
1. carmex อันนี้แพ็คละ 3 หลอด ตกหลอดละ 1 ดอลล์ ก็ใช้ดีครับ ใช้แล้วมีกลิ่นเหมือนยาหน่อย ๆ
2. Neutrogena ราคาประมาณ 5 ดอลล์ อันนี้เห็นส่วนผสม 2% salicylic acid เลยซื้อมาลอง สรุปตอนนี้เอามาใช้เป็นเจลอาบน้ำแทน