ตอนนี้เรามีเอคโคโน่เข้ามาดูแลแล้ว ในอนาคตคงจะดีขึ้นนะครับ เรามาสรุปผลงานนัดล่าสุดที่แพ้ซาอุ0-3 กันดีกว่าครับ
1. ซาอุเขามาเก็บตัวที่ประเทศไทยเป็นอาทิตย์ ซึ่งซาอุเขาไม่เคยทำมาก่อน แสดงให้เห็นว่า โค้ชมาไวต์ ไม่ประมาทเลยและรัดกุมสุดๆ แต่โค้ชไทยไม่รู้และคิดว่าเขาจะบุกใส่เราแบบบ้าคลั่งให้เราสวนกลับ เลยเรียกนักเตะเพื่อจะเล่นแผน3-5-2 เท่านั้น โดยการตัดปีกธรรมชาติออก ทั้งนูรูล รุ่งรัตน์ มาสุขและธนา ซึ่ง2ใน4คนนี้จะต้องติดเข้ามาแทนประกิตและอ้วน บีจี ที่เล่นในระดับเอเชียไม่ได้ เมื่อมาไวต์สั่งให้ซาอุรัดกุม ไม่ผลีผลามบุกสักวินาทีเดียว แผน3-5-2 มีแต่จะรอโดน ควรเปลี่ยนไปเล่นแผน4-3-3หรือ4-3-1-2 เพื่อออกปีกแตกโซนรับซาอุ แต่มองไปที่ม้านั่งสำรอง มีปีกเทพ2ท่าน ดังนั้นไม่ต้องไปโทษใคร โค้ชต้องโทษตัวเองที่ไม่เรียกปีกมาติดทีม
2. เป็นการที่โค้ช ฟาน มาไวต์สอนซิโก้ถึงระดับความเคี่ยวในการคุมทีมว่าความสามารถโค้ชคนละระดับ(รวมถึงสอนคนไทยด้วย) ซาอุ ชื่อชั้นต่างจากเราเยอะแบบห่างชั้นมาก แต่เขาไม่บุกใส่แบบผลีผลามเลย ดึงแทคติกเล่นรับเกือบจะตลอดครึ่งหลังเพื่อให้เราบุก เปรียบเทียบกับไทยเจออินโด ซึ่งระดับใกล้เคียงกันมากกว่าไทยกับซาอุอีก แต่ก็บุกใส่อินโดแบบหลังบ้านลอย จึงไปแพ้คาอินโดในรอบชิงAFFนัดแรก ซึ่งถ้าไทยทำแบบที่ซาอุทำ แฟนบอลไทย(บางคนด่าตายว่าเล่นไม่ดีอะไรเทือกนี้) ซึ่งผมเป็นแฟนอิตาลีมาทั้งชีวิต อยากจะบอกว่าแผนการแบบให้เขาบุกใส่ แล้วเราไปตั้งรับ ไม่ใช่เราอ่อนกว่า แต่เป็นการเล่นหวังผล (แต่ไม่ใช่เมื่อ5-6ปีที่แล้วที่โดนบุกจนโงหัวไม่ขึ้น อันนั้นไม่ใช่แทคติก อันนั้นคือโดนพับสนามบุกจริงๆ)
3. เรามาถูกทางแล้ว ตั้งแต่ดูคัดเลือกฟุตบอลโลกเจอกับซาอุมา ผมไม่เคยเห็นซาอุดูเกรงไทยก่อนเกมส์มากขนาดนี้ ซึ่งผมสัมผัสได้ แต่เหมือนโค้ชเราจะไม่รู้จึงมีรายชื่อ23คนแบบที่เห็น
4. ต้องยอมรับความจริงว่านักเตะไทยห่างชั้นจากซาอุจริงๆ คนที่เล่นในระดับเอเชียและค้าแข้งที่ไหนก็ได้ในเอเชีย(ถ้าตัวใหญ่และหนา) คือเจครับ ออกบอลจ่ายบอลได้เปรียบตลอด แต่เพื่อนเล่นต่อไม่ได้ ซึ่งวิธีการบีบช่องว่างความต่างชั้นให้แคบลง คือวิ่งให้เยอะ และต้องฟิตมากกว่าทีมตรงข้าม แต่นัดนี้ความฟิตก็สู้ไม่ได้ คนไม่มีบอลยิ่งไม่วิ่งหาช่อง ทำให้ยิ่งไปกันใหญ่เลย
5. อยากให้โค้ชและคนไทยได้ดูเกมส์ยูโรครั้งที่ผ่านมาคู่อิตาลี-เยอรมัน (ไม่ใช่ดูแต่อังกฤษ สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส) เยอรมันชุดที่แข็งแกร่งมาก พบกับอิตาลีชุดที่ขี้เหร่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่โยอัคคิม เลิฟ แกดูออก และทำให้เยอรมันไม่กล้าบุกใส่อิตาลี อิตาลีก็ได้ตั้งรับ จำลองรูปแบบแบบเดียวกับที่เราพบซาอุเลย ซาอุเป็นเยอรมัน ไทยเป็นอิตาลี โดยเยอรมันจ่ายบอลเร็วและแม่นกว่าซาอุมากๆๆ ส่วนไทยจ่ายบอล บีบพื้นที่แย่กว่าอิตาลีมากๆๆๆๆ ไปหาดูเกมส์คู่นี้ย้อนหลัง ว่าอิตาลีใช้วิธีแตกโซนทีมที่จ่ายบอลสั้นแม่นๆอย่างเยอรมันได้ยังไง ไม่ให้รูปเกมส์เป็นรองมากๆ และเมื่อดูจากสถิติหลังเกมส์นั้น เยอรมันจ่ายบอลสำเร็จมากกว่าอิตาลีเกือบเท่าตัว แต่อิตาลีวิ่งเยอะกว่าเยอรมันเฉลี่ยคนละกว่า 2 กิโลเมตร นั่นคือแทคติกที่เลิฟและคอนเต้ใช้ครับ ทำให้ชื่อชั้น ตัวผู้เล่น ระบบทีมเป็นรอง แต่รูปเกมส์สูสีกันมาก แล้วจะรู้ว่าทำไมเยอรมันไม่กล้าบุกใส่อิตาลีในเกมส์นั้น ในเมื่อนักเตะเป็นรองสิ่งที่ต้องเสริมเข้าไปคือแทคติกที่เหมาะสมครับ
*เป็นความคิดของโค้ชคีย์บอร์ดคนนึง ผิดพลาดส่วนไหน ไม่ถูกใจใครก็แนะนำได้ครับ เพราะผมเชื่อว่าที่เราๆมาเถียงกัน มาให้เหตุผล มาแย้งกัน ทุกๆคนก็หวังดีต่อทีมฟุตบอลไทยทั้งนั้น ผมคิดแบบนี้นะ*
สรุปแทคติกนัดล่าสุดที่แพ้ซาอุโดยโค้ชคีย์บอร์ดที่หวังดีต่อทีมฟุตบอลไทย
1. ซาอุเขามาเก็บตัวที่ประเทศไทยเป็นอาทิตย์ ซึ่งซาอุเขาไม่เคยทำมาก่อน แสดงให้เห็นว่า โค้ชมาไวต์ ไม่ประมาทเลยและรัดกุมสุดๆ แต่โค้ชไทยไม่รู้และคิดว่าเขาจะบุกใส่เราแบบบ้าคลั่งให้เราสวนกลับ เลยเรียกนักเตะเพื่อจะเล่นแผน3-5-2 เท่านั้น โดยการตัดปีกธรรมชาติออก ทั้งนูรูล รุ่งรัตน์ มาสุขและธนา ซึ่ง2ใน4คนนี้จะต้องติดเข้ามาแทนประกิตและอ้วน บีจี ที่เล่นในระดับเอเชียไม่ได้ เมื่อมาไวต์สั่งให้ซาอุรัดกุม ไม่ผลีผลามบุกสักวินาทีเดียว แผน3-5-2 มีแต่จะรอโดน ควรเปลี่ยนไปเล่นแผน4-3-3หรือ4-3-1-2 เพื่อออกปีกแตกโซนรับซาอุ แต่มองไปที่ม้านั่งสำรอง มีปีกเทพ2ท่าน ดังนั้นไม่ต้องไปโทษใคร โค้ชต้องโทษตัวเองที่ไม่เรียกปีกมาติดทีม
2. เป็นการที่โค้ช ฟาน มาไวต์สอนซิโก้ถึงระดับความเคี่ยวในการคุมทีมว่าความสามารถโค้ชคนละระดับ(รวมถึงสอนคนไทยด้วย) ซาอุ ชื่อชั้นต่างจากเราเยอะแบบห่างชั้นมาก แต่เขาไม่บุกใส่แบบผลีผลามเลย ดึงแทคติกเล่นรับเกือบจะตลอดครึ่งหลังเพื่อให้เราบุก เปรียบเทียบกับไทยเจออินโด ซึ่งระดับใกล้เคียงกันมากกว่าไทยกับซาอุอีก แต่ก็บุกใส่อินโดแบบหลังบ้านลอย จึงไปแพ้คาอินโดในรอบชิงAFFนัดแรก ซึ่งถ้าไทยทำแบบที่ซาอุทำ แฟนบอลไทย(บางคนด่าตายว่าเล่นไม่ดีอะไรเทือกนี้) ซึ่งผมเป็นแฟนอิตาลีมาทั้งชีวิต อยากจะบอกว่าแผนการแบบให้เขาบุกใส่ แล้วเราไปตั้งรับ ไม่ใช่เราอ่อนกว่า แต่เป็นการเล่นหวังผล (แต่ไม่ใช่เมื่อ5-6ปีที่แล้วที่โดนบุกจนโงหัวไม่ขึ้น อันนั้นไม่ใช่แทคติก อันนั้นคือโดนพับสนามบุกจริงๆ)
3. เรามาถูกทางแล้ว ตั้งแต่ดูคัดเลือกฟุตบอลโลกเจอกับซาอุมา ผมไม่เคยเห็นซาอุดูเกรงไทยก่อนเกมส์มากขนาดนี้ ซึ่งผมสัมผัสได้ แต่เหมือนโค้ชเราจะไม่รู้จึงมีรายชื่อ23คนแบบที่เห็น
4. ต้องยอมรับความจริงว่านักเตะไทยห่างชั้นจากซาอุจริงๆ คนที่เล่นในระดับเอเชียและค้าแข้งที่ไหนก็ได้ในเอเชีย(ถ้าตัวใหญ่และหนา) คือเจครับ ออกบอลจ่ายบอลได้เปรียบตลอด แต่เพื่อนเล่นต่อไม่ได้ ซึ่งวิธีการบีบช่องว่างความต่างชั้นให้แคบลง คือวิ่งให้เยอะ และต้องฟิตมากกว่าทีมตรงข้าม แต่นัดนี้ความฟิตก็สู้ไม่ได้ คนไม่มีบอลยิ่งไม่วิ่งหาช่อง ทำให้ยิ่งไปกันใหญ่เลย
5. อยากให้โค้ชและคนไทยได้ดูเกมส์ยูโรครั้งที่ผ่านมาคู่อิตาลี-เยอรมัน (ไม่ใช่ดูแต่อังกฤษ สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส) เยอรมันชุดที่แข็งแกร่งมาก พบกับอิตาลีชุดที่ขี้เหร่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่โยอัคคิม เลิฟ แกดูออก และทำให้เยอรมันไม่กล้าบุกใส่อิตาลี อิตาลีก็ได้ตั้งรับ จำลองรูปแบบแบบเดียวกับที่เราพบซาอุเลย ซาอุเป็นเยอรมัน ไทยเป็นอิตาลี โดยเยอรมันจ่ายบอลเร็วและแม่นกว่าซาอุมากๆๆ ส่วนไทยจ่ายบอล บีบพื้นที่แย่กว่าอิตาลีมากๆๆๆๆ ไปหาดูเกมส์คู่นี้ย้อนหลัง ว่าอิตาลีใช้วิธีแตกโซนทีมที่จ่ายบอลสั้นแม่นๆอย่างเยอรมันได้ยังไง ไม่ให้รูปเกมส์เป็นรองมากๆ และเมื่อดูจากสถิติหลังเกมส์นั้น เยอรมันจ่ายบอลสำเร็จมากกว่าอิตาลีเกือบเท่าตัว แต่อิตาลีวิ่งเยอะกว่าเยอรมันเฉลี่ยคนละกว่า 2 กิโลเมตร นั่นคือแทคติกที่เลิฟและคอนเต้ใช้ครับ ทำให้ชื่อชั้น ตัวผู้เล่น ระบบทีมเป็นรอง แต่รูปเกมส์สูสีกันมาก แล้วจะรู้ว่าทำไมเยอรมันไม่กล้าบุกใส่อิตาลีในเกมส์นั้น ในเมื่อนักเตะเป็นรองสิ่งที่ต้องเสริมเข้าไปคือแทคติกที่เหมาะสมครับ
*เป็นความคิดของโค้ชคีย์บอร์ดคนนึง ผิดพลาดส่วนไหน ไม่ถูกใจใครก็แนะนำได้ครับ เพราะผมเชื่อว่าที่เราๆมาเถียงกัน มาให้เหตุผล มาแย้งกัน ทุกๆคนก็หวังดีต่อทีมฟุตบอลไทยทั้งนั้น ผมคิดแบบนี้นะ*