ความตั้งใจจริงๆของทริปนี้คืออยากไปชมบรรยากาศ Light up ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เพราะติดใจจากที่เห็นในรูปนี่มันสวรรค์ชัดๆ เมื่อทุนพร้อมคนพร้อม กลางปีที่แล้วก็จัดการจองตั๋วเครื่องบินไปลง Nagoya กันเลย ส่วนวันที่เลือกเอาช่วง Light up วันสุดท้ายตามตาราง Shirakawago Winter Light Up ของปี 2016 ซึ่งก็น่าจะประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. 2560 พอดี จากนั้นก็เริ่มทำทริปและเลือกบ้านพัก Gassho House ไปพลางๆ ระหว่างรอประกาศแจ้งข้อมูล Shirakawago Winter Light Up 2017 ช่วงเดือนสิงหาคม

แต่ก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งปีนี้กลายเป็นปีอาถรรพ์ซะได้ เพราะหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยของหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะมีการประชุมวางแผนจัดระเบียบรถที่จะเข้าไปงาน Light upใหม่เพื่อความปลอดภัย กว่าจะประกาศระเบียบใหม่และวันที่จัดงานได้ก็ปาเข้าไปเดือน พ.ย. http://www.tiewyeepoon.com/hot-topics/news/shirakawago-lightup/ ซึ่งถือว่าช้ามาก และที่แย่ไปกว่านั้นคือปี 2017 งานจะจัดแค่ 6 วัน และวันสุดท้ายคือวันที่ 6 ก.พ. 2560 วรั้ยยต่ายแร้ววว จองตั๋วไว้วันที่ 10 ก.พ. อ่ะ แล้วไฮไลท์ของทริปนี้จะเหลืออัลลัย??? ในเมื่อโชคไม่เข้าข้างแต่ชีวิตยังต้องเดินต่อ ถึงแม้ช่วงที่ไปจะไม่ได้ดู Light Up ไหนๆได้ไปทั้งทียังไงก็ต้องได้นอนในบ้าน Gassho house ให้ได้ซักครั้งในชีวิต เดินหน้าจองที่พักที่ชิราคาวาโกะผ่าน https://www.japaneseguesthouses.com และ Booking.com สรุปว่าเต็มทุกที่ ทำไงดี หาข้อมูลต่อจนเจอว่าแถว Gokayama  ยังมีหมู่บ้านมรดกโลกอีกที่ คือหมู่บ้าน Ainokura  เลยรีบจองบ้านพักผ่านเว็บ http://www.japanican.com  อย่างไว เลือกบ้าน Yomoshiro เพราะดูจากแผนที่แล้วบ้านหลังนี้เดินใกล้ที่สุด

ต่อไปคือซื้อพาส Takayama Hokuriku Pass http://touristpass.jp/en/takayama_hokuriku บัตรเบ่งสำหรับเที่ยวแถบนี้ สามารถใช้ขึ้นรถด่วน JR รถบัส Nohi และ Kaetsuno ได้ไม่จำกัดรอบ ที่พักพร้อม พาสพร้อมจากนั้นก็นับวันรอเดินทางได้เลย