สวัสดีครับนี่คือ การเขียนกระทู้แรกในพันทิปของผมที่จริงจะเขียนมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ไม่ทราบว่าการจะเพิ่มรูปภาพในกระทู้ได้ต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชนชนก่อนฮ่าๆ ตอนนี้ยืนยันยันเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกเลยว่าผมกับแฟนเป็นคนที่ชอบเที่ยวชอบเดินทางพอรู้ว่ามีเวลาว่างเมื่อไหร่เป็นอันวางแผนเที่ยวแน่นอน ส่วนใหญ่แล้วเกือบทั้งหมดเราใช้พันทิปเป็น guideline ในการท่องเที่ยวของผมกับแฟนตลอดเลยไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว,วิธีการเดินทาง,ที่พัก,ร้านอาหารเป็นต้น จึงตัดสินใจว่าเอาว่ะในเมื่อเราก็ใช้กระทู้ของสมาชิกท่านอื่นเป็น guideline ในการเที่ยวของเราเลยอยากรีวิว+อัพเดท เพื่อเป็นแนวทางหรือข้อระวัง เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยหรือไม่มีประโยชน์เลยก็ได้ฮ่าๆ (*ปล.จำชื่อหาดไม่ค่อยได้แล้ว มือใหม่ขออภัยถ้าผิดพลาดประการใดนะครับ)
   วันแรก (15.มี.ค.60) ไปขึ้นรถตู้ที่หมอชิต2 *จริงๆพึ่งรู้ว่าเขาย้ายจากหมอชิตไปอยู่หมอชิต2กันหมดแล้วซื้อตั๋วรถตู้ของคิวรถรุ่งเรืองคนละ92บาทได้รอบเดินทางบ่าย2


      รถตู้ไปถึงตรงแหลมบาลีฮายเลยตอนเวลา 5 โมงกว่าๆ เลยทำให้ได้ขึ้นเรือข้ามฝั่งรอบ6โมงซึ่งเป็นรอบสุดท้ายแต่ก็ถือว่าโชคดีอย่างน้อยก็ได้ข้ามฝั่งเพราะเราชำระค่าที่พักไปเรียบร้อยแล้วถ้าพลาดนี่เสียดายแย่เลย และนี่คือเรือข้ามฟากของเรานะครับ       ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาทีพอไปถึงท่าหน้าบ้านเวลาเกือบจะ1ทุ่มเราก็โทรหาที่พักให้ออกมารับที่พักของเราคือ @Kohlarn Resort นะครับ(คือตอนแรกว่าจะรีวิวห้องพักด้วยแต่ด้วยความเหนื่อยและขี้เกียจเลยไม่ได้ถ่ายรูปห้องพักเลย)ที่เลือกที่นี่เพราะว่ามีมอเตอร์ไซต์ให้ยืมตอนแรกมีโปรโมชั่นอาหารเช้ากับดำน้ำด้วยแต่เราไม่แน่ใจเรื่องเวลาและความยืดหยุ่นในการเที่ยวจึงไม่เอาพอถึงที่พักก็รู้สึกประทับใจนะเพราะมันเงียบเหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆและพี่คนที่มารับก็ให้กุญแจมอเตอร์ไซค์พอเราเก็บของอะไรเสร็จก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปที่ร้าน ครัวเฉลียงลม ด้วยเพราะเป็นร้านแนะนำพอไปถึงก็โหบรรยากาศ พูดได้ว่าเท้าติดน้ำทะเลเลยก็ว่าได้ถ้าเลือกโต๊ะติดทะเลจัดว่าดีม๊ากเรื่องของบรรยากาศ    

    มื้อนั้นสั่งปูนิ่มพริกไทยดำ,หอยแมงภู่,ต้มยำกุ้ง อยากบอกว่าน้ำจิ้มเด็ดดวงมากเลยอ่า ต้มยำกุ้งก็แซ่บถึงใจได้กุ้งหลายตัวมาก สำหรับรสชาติเราให้ผ่านเลยครับบวกกับบรรยากาศแล้วสมเหตุสมผลกับราคาไม่แพงครับ พอทานข้าวเสร็จประมาณเกือบ3ทุ่มเราก็กลับเข้าที่พักจบสำหรับวันแรกครับ
    วันที่สอง (16.มี.ค.60) เราตื่นกันประมาณ8โมงเลยออกไปทานอาหารเช้ากันร้านเจ๊จุ๋ม



     พอทานอาหารกันเสร็จก็ไปเล่นน้ำกันทันทีหาดแรกที่ไปคือ หาดตาแหวน (สิ่งที่เจอคือเส้นทางบนเกาะช้างพูดคำแรกที่เห็นเลยว่า *เ_ี้ย* โหดมากคือก็เคยอ่านมาบ้างแล้วว่าเส้นทางบนเกาะล้านโหดพอมาเจอจริงก็สุดยอดอย่างที่เขาว่า อันนี้พูดได้เลยว่าสำหรับคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ไม่แข็งนั้นอย่าเสี่ยงเด็ดขาดไม่คุ้มอย่างที่สุดเพราะทางนั้นมันชันมากและแคบมากใครที่หัดขับหรือไม่แข็งห้ามเลยขอเตือน) พอไปถึงหาดตาแหวนจอดรถเสร็จปุ๊บเดินไปที่หาดเจอกับมวลมหาประชาชนชาวจีน ราวกับเขาเหมาหาดไว้เลย คือคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจีน ก็ได้คุยกับคนในพื้นที่แถวนั้นเขาบอกเวลานี้ถึงประมาณบ่าย2เป็นเวลาของเขาเพราะเขาจัดทัวร์กันมา ถ้าจะผิดก็ผิดที่เราจังหวะเราพลาดเอง เขาบอกถ้าเราไปซัก6โมงเช้าหรือหลังบ่าย3โมงแล้วหาดจะเงียบมาก


     หลังจากนั้นก็มาอีกหาดนึงจำชื่อหาดไม่ได้แต่ทางลงแคบและชันมากคือต้องกำเบรคตลอดเวลาแล้วทางเดินลงก็ชันอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะหาดทองหลาง เช่นเดิมครับท่านผู้ชมแน่นเหมือนเดิมเลยเดินเล่น5นาทีซื้อมะพร้าว1ลูกแล้วก็ไปต่อเลยครับ


   หาดต่อไปคือ หาดตายายครับขับรถมาถึงก็ไม่ค่อยมีรถเลยนะมีมอเตอร์ไซค์ไม่เกิน15คัน มีป้ายเขียนพื้นที่ส่วนบุคคลเปิดเป็นเวลาประมาณนี้ พอเดินลงไปก็พบกับความสงบอย่างแท้จริงคือมีฝรั่งนอนอาบแดดเป็นคู่ๆไม่กี่คู่แล้วก็คนไทยถ่ายรูปกันไม่กี่คน ทางขวามือจะเป็นทางเดินไปได้อีกเหมือนกับเป็นหาดเล็กๆอีกหาดนึงตอนแรกมีคนอยู่4-5คนซักพักเขาก็ไปกัน เราเลยตัดสินใจเล่นน้ำกันที่หาดนี้แหละ

      พอถ่ายรูปเล่นน้ำกันหนำใจก็กลับที่พักจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเจอน้องหมาที่รีสอร์ทชื่อไรไม่รู้เราเรียกมันว่า"ขนุน"พี่คนขับรถบอกว่าตามันฟางมองไม่ค่อยเห็นแต่เราก็เข้าไปเล่นกับมันได้ง่ายมากน่ารักจริงๆเลย


     พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ถามพี่ผู้หญิงเจ้าของรีสอร์ทหรือพนักงานก็ไม่ทราบ เรื่องดำน้ำดูปะการังคือยังไม่เคยดำน้ำเลยอยากลอง เลยถามราคาพี่เขาบอกว่าคนละ200บาทจ่ายที่พี่ได้เลยเดี่ยวพี่จัดการให้ได้รอบบ่าย2 ระหว่างรอไปดำน้ำเลยออกไปอะไรทานกันไปเจอกับร้านพิซซ่าร้านนึงน่าจะเป็นร้านเดียวในเกาะที่เป็นโฮมเมดจึงจัดไปพิซซ่าทะเลเพิ่มชีส รสชาติออกมาอร่อยนะเจ้าของร้านชื่อพี่(ตัวอักษรหลังA)อัธยาศัยดีมากชวนคุยนู่นนี่นั่นแนะนำสถานที่ให้พี่เขาบอกคนไทยมาทานน้อยส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง ส่วนตัวแล้วแนะนำเลยครับถ้าไปเกาะล้านลองดู


     จากนั้นก็กลับที่นอนรอเวลาดำน้ำพอเวลาบ่ายโมงครึ่งพี่ผู้หญิงเขาก็มาตามโดยให้พนักงานขับรถพาไปโดยเราก็ขับมอเตอร์ไซค์ตามไปซึ่งก็อยู่ตรงท่าหน้าบ้านนั่นแหละ คือมีคนรอเราอยู่แล้วพอถึงเวลาบ่าย2เขาก็เรียกขึ้นเรือเรือก็คล้ายๆกับเรือข้ามฝั่งนั่นแหละโดยมีนักท่องเที่ยวอื่นด้วยประมาณ20กว่าคนระหว่างทางเขาก็สอนเรื่องการใส่อุปกรณ์นู้นนี่นั่นพอถึงที่ เขาก็ถามว่าใครว่ายน้ำไม่เป็นมั่งเขาจะมีพนักงานช่วยจับห่วงยางแล้วพาวนดูปะการังส่วนตัวผมนั้นก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พอลงไปจริงๆเสื้อชูชีพ,ตีนกบ,ทุ่นผูกเฃือกมันเพียงพอแล้วสำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็น
   สรุปสนุกมากการดำน้ำดูปะการังบนผิวน้ำไม่ได้เก็บภาพมาเลยเพราะไม่ได้เอากล้องไปแต่บนเรือเขามีล๊อคเกอร์ให้ใช้ด้วยสำหรับคนที่อยากฝากของ นอกจากการดูปะการังแล้วเขายังมีสไลเดอร์กับเรือคายัคด้วย โดยส่วนตัวแล้วผมว่าคนละ200บาทนั้นคุ้มนะใช้เวลาประมาณ1ชม. ขากลับนั้นเรือไม่สามารถไปจอดตรงท่าหน้าบ้านได้เนื่องจากลมฝั่งนั้นแรงจึงมาจอดส่งเราอีกฝั่งน่าจะหาดตาแหวนโดยมีรถสองแถวมารอรับไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ พอกลับมาถึงรีสอร์ทประมาณ4โมงกว่าๆอาบน้ำแล้วออกไปร้านมาหารักบรรยากาศนั้นก็โอเคเหมือนกับที่เคยเห็นในรีวิวส่วนรสชาติอาหารสำหรับเราก็ระดับนึงแต่สำหรับคนอื่นอาจจะโดนใจ


     ต่อไปก็ขับรถเล่นเลือกจุดชมวิวกังหันลมพูดได้เลยแม่เจ้าโว้ยทางสุดยอดอลังการงานชันมาก


     ตื่นมาอีกทีจะ3ทุ่มแล้วจึงออกไปหาอะไรทานตอนแรกจะไปทานร้านพวงพยอมกันแต่พอไปถึงร้านปิด3ทุ่มกว่าๆจึงกลับไปที่ร้านครัวเฉลียงลมโดยคืนนี้เปลี่ยนจากปูนิ่มพริกไทยดำเป็นกุ้งเผาแทนไม่ได้เก็บภาพเลยเพราะเพลียมากอารมณ์แบบไม่เอาอะไรแล้ว ทานเสร็จประมาณ4ทุ่มครึ่งก็กลับไปนอนจบคืนที่สอง
     วันที่สาม (17.มี.ค.60) ตื่น7โมงรีบไปหาอาหารเช้ากินแล้วจะไปเก็บภาพวิวก่อนกลับกันและร้านอาหารเช้าของเราคือบ้านมะนาวเป็นรีสอร์ทแต่มีร้านอาหารด้วยมีน้องแมวออกมาต้อนรับด้วยแต่น่าจะมาขอจอยของกินมากกว่าฮ่าๆ


     อาหารที่สั่งคือสปาเก็ตตี้กับปีกไก่ย่างรสชาติโอเคเลยราคาไก่สูงไปนิดแต่ก็ได้อยู่


     หลังจากนั้นก็ขับรถเก็บภาพวิวกันครับ


    เก็บภาพวิวเสร็จก็กลับที่พักรอ check out ทางรีสอร์ทได้มาส่งเราที่ท่าหน้าบ้านก่อนจะไปขึ้นเรือข้ามฟากกลับเลยแวะจัดของหวานซักหน่อยก็ใกล้ๆร้านพิซซ่านั่นล่ะ


   ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะครับพอดีตัวอักษรมันถึง10000แล้ว