[CR][SR] (อินดี้แบกเป้เที่ยว)6คืนกับการแบกเป้ไปคนเดียวเที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์-หนองคาย-อุดรด้วยเงิน7000บาท

สวัสดีครับทุกท่านอันนี้เป็นกระทู้แรกของผมที่จะมาเล่าประสบการณ์แบกเป้ไปเที่ยวคนเดียวในประเทศเพื่อนบ้านครับ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยให้ด้วยนะจ๊ะ.......เดินทางเมื่อวันที่15มีนาคม60-22มีนาคม60



ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่าทริปนี้ผมใช้เวลาคิดตัดสินใจอยู่......."ชั่วโมงก่อนการเดินทางเท่านั้น"
เป็นการเที่ยวแบบไม่มีแบบแผน เที่ยวแบบไม่รู้ว่าจะกินไหนนอนไหน รู้แค่ว่าใจอยากไปวังเวียงพร้อมกะมีเงินติดตัวอยู่ 7000บาท
อยากแบกเป้ไปเที่ยวคนเดียว(ปกติก็ไปคนเดียว) ทริปนี้รูปที่ถ่ายมาจากไอโฟนล้วนๆนะครับภาพอาจไม่สวยไงต้องขอโทษด้วยครับ
เรามาเริ่มเลยละกันนะครับ กระทู้นี้จะเหมือนผมเล่าการไปเที่ยวให้เพื่อนๆได้ฟังละกันนะครับ มีทั้งทริคและข้อมูลแน่นๆ
(โดยเฉพาะขาเมา)มิควรพลาดครับบอกเลย 5555อมยิ้ม21 พร้อมแล้วไปกันเลยครับ
*อินดี้แบกเป้เที่ยว


        



ผมเริ่มการเดินทางด้วยรถไฟฟรีที่สถานีบางซื่อยิงยาวไปยั่นหนองคาย รถไฟมาถึง 21.06น. ถึงหนองคาย 08.35น.


ซึ่งเวลาเหลือๆยังไงก็ไปถึงอุดรก่อน 8.30นแน่นอนทันซื้อตั๋วขึ้นรถสาย อุดร-วังเวียง ที่อ่านมาค่าตั๋วจะอยู่ที่ 320บาทยิงยาวไปวังเวียงเลยครับ แต่คุณต้องมี พาสสปอตร์นะครับ ของสำคัญเลยถ้าไม่มีคุณไปวังเวียงไม่ได้นะครับ แล้วรถไฟก็มาตามเวลาที่นัดไว้เป๊ะๆ ขึ้นสิครับรออะไร เดินไปจับจองหาที่นั่งได้เรียบร้อยก็เตรียมตัวเปิดหาข้อมูลการเดินทางครั้งนี้จากรีวิวพันทิป และเว็ปต่างๆเพราะว่าการมาครั้งนี้ผมนี้ไม่มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่าง รู้แค่ว่าใจสั่งมาให้มาให้ได้ อ่านไปอ่านมาสักพักมีแม่กะเด็กสาวเดินมาที่นั่งพร้อมกับทำหน้างงๆแล้วก็บอกกะผมว่า...."ขอโทษนะโต๊ะตัวนี้ใช่ที่นั่งตามตั๋วรึเปล่า" พร้อมกะยื่นให้ผมดู เวงละสรุปคือที่นั่งเราไม่ได้ระบุเลขไว้ ง่ายๆเลยคือเตรียมตัวหาที่นั่งใหม่นะจ๊ะ มาจะถึงรังสิตละ ไม่เป็นไรเดินหาที่นั่งใหม่ต่อไป เดินไปเดินมาไปเจอตู้เสบียงที่นั่งเหลือๆเยอะแยะเราก็แบกเป้มานั่งกำลังชิลๆกะบรรยากาศ เจ้าหน้าที่บนรถไฟเดินมาแจ้งว่า...."ขอโทษนะหนุ่มตู้เสบียงนั่งได้ถึงแค่เที่ยงคืน" (เวงกำรอบ2) หันไปมองทั้งตู้หลับกันหมดแล้ว ทำไงละทีนี้เดินหาต่อไป จนสุดท้ายก็ได้ที่นั่งสักที แต่จะเรียกว่าที่นั่งหรือที่นอนดีนะลองดูตามภาพนะครับ


ตั๋วนอนVIP



หลังจากที่ได้ที่นอนVIPแล้วผมก็ทำการอ่านข้อมูลแล้วนอนพักตั้งนาฬิกาปลุกกะว่าตื่นมาล้างหน้าสัก7โมงเพื่อเตรียมตัวถึงอุดรประมาณไม่เกิน8โมง
แต่แล้วเรื่องเวงกำที่3กำลังตามมาคือ......"รถไฟวิ่งช้าดีเลเวลาไปเกือบ1.30ชั่วโมง" รถไฟถึงอุดรเวลา9.15 น. ซึ่งไม่ทันรถสายอุดร-วังเวียงละ รถอุดร-วังเวียงจะวิ่งแค่วันละรอบโดยขายตั๋ว7.00น. รถจะออกจากท่ารถเวลา8.30น.นะครับ  ตกรถเป็นที่เรียบร้อย งั้นไม่เป็นไรใช้แผนสองแทนอ่านทริคเดินทางต่อเขาบอกให้ไปลงที่หนองคายก็ไปไดังั้นโอเคเราลุยเลยไปต่อ



สรุปผมถึงสถานีหนองคายเวลา 10.30น. ก็เดินงงๆจะไปยังไงหว่า และแล้วก็เหมือนมีนางฟ้ามาโปรดคือแม่ลูกคู่ที่ผมลุกให้นั่งเขาเดินมาถามว่า"จะไปด่านข้ามแดนใช่ไหม?" ตามมานี้เดี๋ยวพี่พาไป อย่าไปรถสกายแลปคนเดียวเหมาแพง ไอ้เราก็ใจง่ายใครว่าไงก็เอา เดินตามเขาไปหน้าสถานี เราได้พบกับรถสองแถว1คันจอดอยู่ข้างๆ ผู้คนในพื้นที่จะมานั่งรถสองแถวนี้กันครับ ราคาจะถูก
รถสองแถวคันนี้ได้พามาส่งที่ด่านพร้อมกับบอกว่า....."ลุงมาส่งฟรีนะเที่ยวให้สนุกนะไอ้หลานชาย" คุณพระช่วยหลังจากเรื่องบนรถไฟมีความโชคดีเข้ามาละครับ รีบเดินเข้าด่านเอกสารเตรียมพร้อม ระหว่างที่กรอกข้อมูลเอกสารใบข้ามแดนเหมือนนางฟ้ามาโปรด รถทัวร์อุดร-วังเวียงที่ผมไปไม่ทันเมื่อเช้ามาจอดอยู่ตรงหน้า วิ่งไปถามเลยสิครับจะรออะไรละ แล้วก็ช่างโชคดีที่วันนี้มีที่นั่งเหลือ ไม่ลำบากละได้นั่งรถต่อเดียวไปวังเวียงละ เตรียมตัวข้ามไปฝั่งลาว กันครับ



หลังจากเราข้ามมาฝั่งลาวเป็นที่เรียบร้อยรถทัวร์ได้จอดให้เราลงด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งเรา เราต้องกรอกเอกสารทางฝั่งลาวอีกรอบ ซึ่งใบรอบนี้จะเป็นภาษาลาวแต่มีอังกฤษอยู่ด้านล่าง ใครที่ไม่ถนัดจะมีคนรับจ้างเขียนให้อยู่ซึ่งราคาก็ไม่เบาครับ 20 บาทไทย คุณพระ!!!เขียนกระดาษใบเดียว 20 บาท ระดับผมแล้วไม่ต้องพูดถึง เขียนเองสิครับภาษาอังกฤษเราแน่นๆอยู่ละ หยิบโทรศัพท์เปิดgoogleแปลภาษารอละ 555555+ กรอกเสร็จเราก็ต้องมาต่อแถวยื่นใบพร้อมพาสสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ เพื่อขอวีซ่าเข้าเมือง วีซ่ามีอายุ30วันนะครับ หลังจากที่ผ่านด่านมาแล้วคราวนี้เราก็เดินไปซื้อบัตรเข้าเมือง วันธรรมดาจะราคา5บาทแต่ถ้าเป็นวันหยุดจะ 50บาท ได้บัตรมาก็เสียบเหมือนเราขึ้นรถไฟฟ้าเลยครับ หลังผ่านจากประตูมารู้สึกภูมิใจละ ในที่สุดเราก็ได้มาเที่ยวต่ายิงประเทศแบบเต็มตัวครั้งแรกในชีวิตเลย ตื่นเต้นๆ ยืนดูนี้นู้นเพลินจนลืมแลกเงิน รถก็จะออกละต้องรีบไปแลกเงิน ผมได้แลกเงินทั้งหมด 7000บาทไทยไปแลกเงินกีบมาได้มาทั้งหมดราวๆประมาณ 1,650,000 งานนี้เราจะใช้เงินล้านหกเที่ยวแล้ว รู้สึกรวยไงไม่รู้ 55555555

คำแนะนำควรเอาเงินไทยแลกเงินกีบให้เยอะๆเพราะถ้าใช้เงินไทยที่นั่นคุณขาดทุน

ที่นี้จะมีแบงค์2แสน5หมื่น2หมื่น1หมื่น5พัน2พัน1พันแล้วก็500นะครับ



หลังจากที่รถได้ออกจากด่านมาเราก็นั่งมองข้างหน้าต่างสิ่งที่ตกใจก็คือ..."รถที่นี้จะวิ่งเลนไม่เหมือนบ้านเรา"คือเขาจะวิ่งเลนขวาบ้านเราวิ่งเลนซ้าย นั่งมองไปก็แปลกดีเหมือนกันครับนั่งดูไปก็เคลิ้มหลับแต่ทางนี้ไม่น่าชวนหลับเพราะเป็นดินถนนนี้หาความเรียบได้ยากนั่งไปได้ประมาณ2ชั่วโมงกว่าเราก็มาจอดพักรถ 30 นาที ที่นี้เป็นจุดจอดรถจุดเดียวระหว่างทางที่เราจะไปวังเวียง เราก็ได้ทำการซื้อซิมเพราะซิมที่เราใช้ไม่มีสัญญานดับตั้งแต่ออกจากด่านมาได้สักพัก ซิมที่นี้เขาขายราคา 30,000กีบ ตีเป็นเงินไทยก็ 126บาท (1บาท=236กีบ) ที่ได้มาจะเป็นซิมเน็ตพร้อมบัตรเติมเงิน 10,000กีบใช้เติมเพื่อสมัครโปรเน็ต หลังจากซื้อเสร็จเราก็เดินมากินข้าวสั่งข้าวผัดหมูไป1จานถามราคาดูราคา 19,000 ตีเป็นเงินไทยก็ 80 บาท โอ้วราคาไม่ธรรมดาเลย ระหว่างที่กินกำลังจะเปิดน้ำขวดที่ตั้งมาให้ไอ้เราก็อยากรู้ว่าฟรีไหม คำตอบก็คือไม่ฟรี 5,000กีบจร้า และแล้วสายตาก็หันไปเห็นตู้น้ำอยู่แอบมุมๆ พร้อมภาษาลาวพออ่านคาดเดาได้ว่าฟรี รออะไรเดินไปกดสิครับ งานฟรีพี่ชอบ 555

จุดพักรถทานข้าวซื้อซิม 30นาที


หลังจากทานข้าวเสร็จรถก็ออกจากที่จอดพักและวิ่งไปอีกราวๆ 2ชั่วโมงในที่สุดเวลาประมาณ15.00น  เราก็มาถึงวังเวียงแล้วครับ รถได้จอดที่ท่าจอดข้างนอก หลังจากเดินลงรถ คนขับได้บอกว่าถ้าจะกลับวันไหนควรซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าก่อนเลย วันยังไม่ต้องระบุก็ได้รู้วันเดินทางกลับแล้วค่อยมาบอกแล้วจะมีรถไปรับถึงที่พักเพื่อมาขึ้นรถที่ท่า ตอนแรกก็คิดว่าเออดีนะเดี๋ยวซื้อไว้เลย แต่เนื่องจากเห็นคนซื้อกันเยอะไปหมดเราเองก็ไม่รีบเลยช่างมันเดินขึ้นรถไปนั่งรอออก ซึ่งรถนี้จะพาเราเข้าไปในตัวเมืองวังเวียงฟรีครับ

รถที่จะนำเราไปสู่ตัวเมืองวังเวียงฟรีครับ



หลังจากที่รถได้พาเรามาจอดที่ถนนวังเวียงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเดินหาที่พักครับ ที่พักที่นี้จะมีหลายแบบหลายสไตร์อยู่ที่เราจะเดินไปหาได้แบบไหน ผมนี้ใช้เวลาในการเดินหาอยู่เกือบชั่วโมงจนสุดท้ายเราก็มาได้ที่พักอยู่ติดริมน้ำบรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ (คือดีอะ) ข้อแนะนำคือเราไม่ควรจองที่พักล่วงหน้าในเว็ปนะครับเราควรเดินหาดูเองจะดี อยากรู้ที่ไหนดีgoogleถามดูแล้วค่อยเดินไปถามราคาครับได้ราคาถูกกว่าแถมยังต่อรองได้ ตัวผมได้ที่พัก จําปาลาวบังกะโล (champa lao bungalow) คิดว่าทุกคนพอจะรู้จักนะครับที่พักเขาสวยจริงๆ เป็นแนวๆโฮมสเตย์แต่พักเป็นห้องๆ ผมได้ห้องในราคา 70,000กีบ (296บาท) ราคานี้รับได้เลยเสียดายถ้ามีคนมาด้วยงานนี้หาร2ตกแค่คนละ 150บาทเองครับ ถูกกว่าโรงแรมม่านรูดที่กรุงเทพสะอีก 5555555+

บรรยากาศที่พักครับ



หลังจากที่เราได้ที่พักเป็นที่เรียบร้อยคราวนี้ก็คงต้องหาอะไรรองท้องละได้เวลาเดินออกไปหาที่กิน(เบยลาว) ผมตามทางมาเรื่อยๆจนในที่สุดเราก็ได้พบกะสะพานไม้เล็กๆที่มีคนเดินข้ามไปมาและมีรถมอเตอร์ไซค์ขับข้ามกันบ้าง จุดนี้น่าจะเป็น1จุดในวังเวียงที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปกันครับ เพราะมีร้านนั่งกินริมแม่น้ำซอง บรรยากาศนี้ไม่ต้องพูดถึงทั้งเย็นสบายอากาศดีน้ำใสมากครับ แต่ควรระวังคือน้ำที่นี้ไหลแรงมากถ้าว่ายน้ำไม่เป็นควรหาชูชีพไว้นะครับ

สะพานไม้ริมแม่น้ำซองบรรยากาศดีมากครับ



หลังจากที่นั่งชิลๆซดเบยลาวอยู่ริมน้ำเราก็ได้พบกะกลุ่มคนไทยมาเที่ยวกัน 5 คน นั่งคุยกันไปมาสรุปก็คือง่ายๆ ผมขอไปด้วยนะ 55555 เพราะไม่มีเพื่อนเที่ยว ในวังเวียงนี้นักท่องเที่ยว 40%จะเป็นชาวเกาหลี(สวยน่ารักมากกกก) 30%จะเป็นฝรั่ง(สายเมาแบ็กแพกมา) 20%จะเป็นคนไทย (มาเป็นกลุ่มๆอาจมีน้อยคนที่จะมาคนเดียวแบบเรา) 10%ก็จะเป็นชาวลาวและประเทศเพื่อนบ้านผสมกันไป หลังจากเราได้นั่งคุยกะเพื่อนชาวไทยผมก็ได้ชวนไปนั่งต่อที่ซากุระบาร์(คอเหล้าห้ามพลาดเลยครับที่นี้) เพราะที่นี้เป็น1ในสถานที่ห้ามพลาดถ้ามาวังเวียงไม่งั้นคุณจะมาไม่ถึง ประเด็นคือมีฟรีดื่ม 1 ชั่วโมง(20.00น.-21.00น.) รีบไปสิครับรออะไร ของฟรีมีหรอจะพลาด 555555

ซากุระบาร์ร้านที่มีเหล้าให้กินฟรี อิอิ



พอมาถึงร้านเราก็ดื่มกันไป บรรยากาศในร้านจะมีชาวต่างชาติเยอะมากครับ ที่นี้จะโต๊ะให้เล่นเบียร์ปอง คิดว่าเพื่อนๆน่าจะพอรู้จักกันนะครับ เกมส์กีฬาของขาเมา 55555 หลังจากเล่นๆไปกะเพื่อนชาวไทยสุดท้าย เราก็ได้มารู้จักกะเพื่อนชาวเกาหลีมากันเป็นคู่น่ารักดีครับ เรื่องภาษาของผมไม่ต้องพูดถึงแน่นๆครับบอกเลย มั่วแน่นๆ พูดได้บ้างไม่ได้บ้างเน้นใช้ท่าทางการแสดงออก และแล้วเราก็ได้ชวนเขาเล่นเบียร์ปอง งานนี้ไทยปะทะเกาหลี เรายอมที่ไหนละครับ จัดไปดิแพ้จ่ายค่าเบียร์ 20,000กีบ(84บาท) ผลสรุปออกมาคือ "ผมแพ้ครับ" 55555 แย่จังแต่ไม่เป็นไรได้เพื่อนใหม่มาอีก 2 คนถือว่าคุ้มสุดท้ายคืนนั้นเราก็แฮงค์เอ้าสนุกสุดๆอยู่ที่ซากูระบาร์ ร้านปิดเที่ยงคืนเดินกลับห้องนอนพักผ่อน ถือว่าเป็นการมาวังเวียงในคืนแรกที่น่าจดจำสำหรับผมเลยครับ  


เมาละเตรียมตัวกลับบ้านนอนได้

ชื่อสินค้า:   ลาว (เวียงจันทน์-วังเวียง)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่