สวัสดีค้าบ วันนี้จะพาไปเที่ยวพักร้อนไม่ไกลจากกรุงเทพ ที่โรงแรมเซ็นทารา อาซัวร์ พัทยา (Centara Azure Hotel Pattaya) เป็นโรงแรมเปิดใหม่ สดๆ ร้อนๆ เมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง ซึ่งโรงแรมตกแต่งในสไตล์เก๋ๆ แนว Underwater World บรรยากาศในโรมแรมจะเป็นสีม่วงๆ น้ำเงินๆ ให้ความรู้สึกเย็นสบายเหมือนอยู่ใต้มหาสมุทร มั่นใจว่าต้องถูกอกถูกใจคนรักทะเลแน่นอน เอาล่ะ อย่ารีรอ ตามมาดูเลยดีกว่า
หลังจากฝ่าความร้อนจากกรุงเทพมาถึงพัทยา เมื่อก้าวเข้าไปในโรงแรมปุ๊บ พนักงานก็เสิร์ฟ Welcome drink ซึ่งเป็นน้ำมะนาวสูตรเฉพาะของโรงแรม มีกิมมิคเป็นไซรัปสีน้ำเงินอยู่ก้นแก้ว คนๆ ให้เข้ากันนิดนึงแล้วค่อยดื่มนะ ได้เครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับนั่งตากแอร์ เช็ดไม้เช็ดมือด้วยผ้าเย็นระหว่างรอเช็กอิน ชื่นใจดีจริงๆ
ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อยแล้ว ขึ้นห้องได้!
สำหรับวันนี้ เราได้ห้อง Deluxe Pool View เลือกเป็นเตียง King Size จะได้นอนแผ่ร่างได้เต็มที่
ซึ่งความพิเศษของห้องประเภทนี้คือความโปร่งและมีขนาดกว้างขวาง (21-25 ตรม.)
โอ้ยยยย เห็นเตียงนุ่มๆ อยากทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับไปเล้ยยย
ส่วนใครที่มากับเพื่อน หรืออยากนอนแยกเตียง สามารถเลือกเป็น Twin bed ได้ด้วย
เอ็นจอยกับเตียงนุ่มๆ จนหนำใจแล้ว มาดูอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องกันบ้างดีกว่า
เริ่มที่จอทีวี มาแบบใหญ่ๆ ให้ดูละครได้แบบชัดๆ
ถัดมาก็เป็นกระจกกับเคาน์เตอร์ไว้วางของเล็กๆ น้อยๆ พอให้แต่งหน้าทำผมได้กรุบกริบ
อีกมุมเป็นเซ็ตชา กาแฟ มาม่าคัพก็มีบริการนะจ๊ะ
มาที่ตู้เสื้อผ้ากันบ้าง เปิดเข้าไปดู เจอตู้เซฟ ไดร์เป่าผม รองเท้าสลิปเปอร์ เสื้อคลุมอาบน้ำ ถุงใส่ผ้าเปียก
และที่กรี๊ดคือ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ คือใหญ่มากกก แบบที่ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นผ้าเช็ดตัว นึกว่าเป็นผ้าห่ม ฮ่าๆ
ในส่วนของการควบคุมไฟภายในห้อง สามารถทำได้ง่ายๆ จากแท็บเล็ตที่อยู่ข้างเตียง
นอกจากนั้นยังสามารถตั้งสัญญาณไฟหน้าประตู เพื่อเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาด หรือตั้งไม่ให้รบกวนได้ด้วย
ไปดูห้องน้ำกันบ้างดีกว่า ซึ่งภายในห้องจะแบ่งห้องน้ำเป็น 3 ส่วน คือ อ่างล้างหน้า
มีอุปกรณ์ครบครันทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สำลี คอตตอนบัด หวี ตะไบเล็บ มีดโกนและครีมโกนหนวด
น้ำยาบ้วนปาก ครีมทาผิว เรียกว่าแทบไม่ต้องพกอะไรมาจากบ้านเลย
ส่วนต่อมาเป็นห้องอาบน้ำ มีทั้งแบบ ฝักบัวและ Rain shower ภายในห้องมีแชมพู ครีมนวดผม และครีมอาบน้ำกลิ่นดอกบัว
ซึ่งโดยส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มาก มันไม่ได้หอมฟุ้งนะ แต่มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกดี ชอบๆ
และส่วนสุดท้ายคือห้องส้วม เป็นระบบไฟอัตโนมัติ เดินผ่านเซ็นเซอร์ปุ๊บ ไฟติดปั๊บ ตอนกลางคืนไม่ต้องควานหาสวิตช์ไฟให้ยุ่งยากด้วย
นอกระเบียงมีชุดเก้าอี้ให้นั่งเล่นชมวิว รับลมเย็นๆ หรือจะเอาไว้นั่งมองหนุ่มๆ สาวๆ เล่นน้ำก็เพลินไปอีก
อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าที่นี่นอกจากจะเหมาะกับคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อนในบรรยากาศชิลล์ๆ เหมือนอยู่ใต้ทะเลแล้ว
ยังเหมาะอย่างยิ่งกับการพาเด็กๆ มาเที่ยว ซึ่งทางโรงแรมก็มีห้อง Family room เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัวด้วย
ภายในห้องจะมีเตียง Double 2 เตียงและประตู connect เปิดไปอีกห้องนึงได้ด้วย
อ้อ ห้อง Family room จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่ห้องอาบน้ำ ห้องส้วม และอ่างล้างมือจะอยู่รวมกันเลย
มาดูห้องอาหารกันบ้าง เริ่มที่ห้อง Atlantis restaurant ซึ่งเป็นห้องอาหารหลัก อยู่ด้านหน้า จุดเด่นคือตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องอาหาร
ตกแต่งด้วยปะการัง มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา ให้บรรยากาศแบบอะควาเรียมเลยล่ะ มีปลากระเบน 2 ตัว ชอบเอาท้องมาแนบกระจก
เห็นส่วนตาและปากแล้วเหมือนมันกำลังส่งยิ้มให้เลย เท่าที่สังเกต ห้องอาหารค่อนข้างได้รับความสนใจจากเด็กๆ อย่างมาก
เรียกว่า นั่งกินข้าวไปด้วย ดูปลาไปด้วย สนุกสนานตื่นเต้นกันใหญ่
ทานข้าวไปด้วย ชมปลาไปด้วย เพลิดเพลินดีเหมือนกันนะ
พูดถึงไลน์อาหารเช้า มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง ซีเรียล ให้เลือกอิ่มกันได้ตามใจชอบ
วาร์ปมาดูบรรยากาศห้องอาหารช่วงเย็นกันบ้าง สังเกตการตกแต่งแสงไฟในช่วงค่ำ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ แฮะ
แสงไฟจากตู้ปลาตัดกับความมืดด้านนอก ช่วยขับให้ตู้ปลาสวยขึ้นไปอีก เป็นสีม่วงๆ น้ำเงินๆ สว่างไปทั่วห้องอาหารเลย
มีไวน์เย็นๆ ด้วยนะ เป็นโปรโมชั่นชิมไวน์ 5 แก้ว 390 บาท
วันที่เข้าพักตรงกับวันเสาร์พอดี ซึ่งในช่วงค่ำที่ห้องอาหารจะจัด BBQ Buffet & Funky Jazz คือมีบาร์บีคิวเสริมนอกเหนือไปจากไลน์อาหารเย็นปกติ สามารถเลือก หมู ไก่ เนื้อ และเห็ด ให้พนักงานย่างให้ได้ พร้อมกับจิบไวน์ไปด้วย เป็นมื้อค่ำที่ไม่หวือหวามาก แต่ก็ถือว่าจบวันได้อย่างสวยงาม
มาดูฝั่งขนมหวาน เราชอบเยลลี่นุ่มๆ ด้านบนมีแก้วมังกรกับกีวีด้วย
ระหว่างนั่งทานอาหาร ดูปลาในตู้ ก็ฟังดนตรี Jazz สดๆ ไปด้วยนะ โอ๊ย บรรยากาศดี๊ดี บอกเลย
และแล้วก็มาถึงจุดเด่นของโรงแรม นั่นคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ กว้าง และยาวด้วย ว่ายไปกลับนี่มีเหนื่อยอ่ะ
เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม สามารถพาเด็กๆ มาเล่นได้เกือบทั้งวัน เพราะรอบด้านมีตึกของโรงแรมบังอยู่ แทบจะไม่โดนแดดส่องเลย
มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย เด็กๆ ชอบมาก เห็นเล่นกันเสียงดัง สนุกสนานกันใหญ่ แถมน้ำก็ไม่ลึกเกินไป (ลึกสุดประมาณ 140 เซนติเมตร)
บริเวณสระมีไลฟ์การ์ดคอยดูแลอยู่ และมีห่วงยางชูชีพอยู่รอบสระด้วย สบายใจได้ในระดับหนึ่งเลยนะ
สระยาวมาก มีพื้นที่เยอะ เห็นบางครอบครัวเอาลูกบอลมาเล่นในน้ำด้วย เด็กๆ สนุกจนไม่อยากขึ้นจากสระ
ในส่วนของสไลเดอร์นั้น ผู้ใหญ่อย่างเราก็แอบขึ้นไปเล่นด้วย ฮ่าๆ รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
หรือถ้าผู้ใหญ่ไม่อยากลงเล่นน้ำ ในส่วนนี้ก็มีบาร์เล็กๆ ซ่อนอยู่ใต้น้ำตกชื่อว่า Splash Pool Bar
เผื่อเอาไว้สั่งค็อกเทลและเครื่องดื่มเย็นๆ จิบเพลินๆ ริมสระก็ฟินไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ที่อยากแนะนำคือ in room dining เพราะครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กๆ จะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อเด็กๆ เล่นน้ำเสร็จจะหิวโซกันสุดๆ
ซึ่งระหว่างจัดแจงอาบน้ำล้างตัว เราสามารถสั่งอาหารมาทานได้ จะทานที่ริมสระ ที่ห้องอาหาร Atlantis restaurant
หรือให้มาเสิร์ฟถึงห้องเลยก็ได้ เรียกว่าเล่นน้ำเสร็จปุ๊บ อาหารพร้อมเสิร์ฟทันที
มาที่เมนูกันบ้าง ในรูปจะเป็นเมนูแนะนำของทางโรงแรม มีทั้งซี่โครงหมูอบตะไคร้ ไทเกอร์พรอนสลัด
ผัดไทย (กุ้งตัวใหญ่เวอร์) และสเต็กปลาแซลมอน ตกแต่งมาสวยงาม น่าทานสุดๆ
ซูมทีละจาน เริ่มที่ซี่โครงหมูอบตะไคร้ ซี่โครงหมูย่างพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ไม่เผ็ดจนเกินไป กินกับตะไคร้ทอดที่โรยมา หูยย น้ำลายสอเลย
ไทเกอร์พรอนสลัดก็เลิศไม่แพ้กัน มีกุ้งไทเกอร์พรอนตัวใหญ่ใส่มาให้ 2 ตัว มีมะม่วงสุกชิ้นเล็กๆ มาเสริมรสเปรี้ยวด้วยนะ รสชาติเข้ากันดี
ผัดไทยที่มาพร้อมกับกุ้งตัวใหญ่มาก ใหญ่จริงๆ ปกติกินผัดไทยที่อื่นมีแต่กุ้งตัวเล็ก เจอไซส์บิ๊กแบบนี้เข้าไป ฟินเลย
ท้ายสุดและสุดท้ายกับเมนูที่ประทับใจที่สุด สเต็กปลาแซลมอน เนื้อปลาไม่แข็งเกินไป รสชาติดี มันบดก็อร่อย เอาว่าทานจนเกลี้ยงจานเลย
ใครชอบบรรยากาศใต้ท้องทะเลหรืออยากหาที่พักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกแห่งหนึ่งเลยนะ หรือจะพาครอบครัวมาเที่ยวก็เหมาะดี รับรองว่าเด็กๆ ต้องชอบฟีลลิ่งแบบอะควาเรียมของที่นี่แน่นอน รีวิวครั้งหน้าจะพาไปที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะ
ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวต่อได้ที่
https://www.facebook.com/paiteawkunmai
[SR] +++เตรียมชุดว่ายน้ำให้พร้อม แล้วไปสนุกสดชื่นที่เซ็นทารา อาซัวร์ พัทยา โรงแรมเปิดใหม่ สไตล์ Underwater World+++
หลังจากฝ่าความร้อนจากกรุงเทพมาถึงพัทยา เมื่อก้าวเข้าไปในโรงแรมปุ๊บ พนักงานก็เสิร์ฟ Welcome drink ซึ่งเป็นน้ำมะนาวสูตรเฉพาะของโรงแรม มีกิมมิคเป็นไซรัปสีน้ำเงินอยู่ก้นแก้ว คนๆ ให้เข้ากันนิดนึงแล้วค่อยดื่มนะ ได้เครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับนั่งตากแอร์ เช็ดไม้เช็ดมือด้วยผ้าเย็นระหว่างรอเช็กอิน ชื่นใจดีจริงๆ
ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อยแล้ว ขึ้นห้องได้!
สำหรับวันนี้ เราได้ห้อง Deluxe Pool View เลือกเป็นเตียง King Size จะได้นอนแผ่ร่างได้เต็มที่
ซึ่งความพิเศษของห้องประเภทนี้คือความโปร่งและมีขนาดกว้างขวาง (21-25 ตรม.)
โอ้ยยยย เห็นเตียงนุ่มๆ อยากทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับไปเล้ยยย
ส่วนใครที่มากับเพื่อน หรืออยากนอนแยกเตียง สามารถเลือกเป็น Twin bed ได้ด้วย
เอ็นจอยกับเตียงนุ่มๆ จนหนำใจแล้ว มาดูอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องกันบ้างดีกว่า
เริ่มที่จอทีวี มาแบบใหญ่ๆ ให้ดูละครได้แบบชัดๆ
ถัดมาก็เป็นกระจกกับเคาน์เตอร์ไว้วางของเล็กๆ น้อยๆ พอให้แต่งหน้าทำผมได้กรุบกริบ
อีกมุมเป็นเซ็ตชา กาแฟ มาม่าคัพก็มีบริการนะจ๊ะ
มาที่ตู้เสื้อผ้ากันบ้าง เปิดเข้าไปดู เจอตู้เซฟ ไดร์เป่าผม รองเท้าสลิปเปอร์ เสื้อคลุมอาบน้ำ ถุงใส่ผ้าเปียก
และที่กรี๊ดคือ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ คือใหญ่มากกก แบบที่ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นผ้าเช็ดตัว นึกว่าเป็นผ้าห่ม ฮ่าๆ
ในส่วนของการควบคุมไฟภายในห้อง สามารถทำได้ง่ายๆ จากแท็บเล็ตที่อยู่ข้างเตียง
นอกจากนั้นยังสามารถตั้งสัญญาณไฟหน้าประตู เพื่อเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาด หรือตั้งไม่ให้รบกวนได้ด้วย
ไปดูห้องน้ำกันบ้างดีกว่า ซึ่งภายในห้องจะแบ่งห้องน้ำเป็น 3 ส่วน คือ อ่างล้างหน้า
มีอุปกรณ์ครบครันทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สำลี คอตตอนบัด หวี ตะไบเล็บ มีดโกนและครีมโกนหนวด
น้ำยาบ้วนปาก ครีมทาผิว เรียกว่าแทบไม่ต้องพกอะไรมาจากบ้านเลย
ส่วนต่อมาเป็นห้องอาบน้ำ มีทั้งแบบ ฝักบัวและ Rain shower ภายในห้องมีแชมพู ครีมนวดผม และครีมอาบน้ำกลิ่นดอกบัว
ซึ่งโดยส่วนตัวชอบกลิ่นนี้มาก มันไม่ได้หอมฟุ้งนะ แต่มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกดี ชอบๆ
และส่วนสุดท้ายคือห้องส้วม เป็นระบบไฟอัตโนมัติ เดินผ่านเซ็นเซอร์ปุ๊บ ไฟติดปั๊บ ตอนกลางคืนไม่ต้องควานหาสวิตช์ไฟให้ยุ่งยากด้วย
นอกระเบียงมีชุดเก้าอี้ให้นั่งเล่นชมวิว รับลมเย็นๆ หรือจะเอาไว้นั่งมองหนุ่มๆ สาวๆ เล่นน้ำก็เพลินไปอีก
อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าที่นี่นอกจากจะเหมาะกับคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อนในบรรยากาศชิลล์ๆ เหมือนอยู่ใต้ทะเลแล้ว
ยังเหมาะอย่างยิ่งกับการพาเด็กๆ มาเที่ยว ซึ่งทางโรงแรมก็มีห้อง Family room เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัวด้วย
ภายในห้องจะมีเตียง Double 2 เตียงและประตู connect เปิดไปอีกห้องนึงได้ด้วย
อ้อ ห้อง Family room จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่ห้องอาบน้ำ ห้องส้วม และอ่างล้างมือจะอยู่รวมกันเลย
มาดูห้องอาหารกันบ้าง เริ่มที่ห้อง Atlantis restaurant ซึ่งเป็นห้องอาหารหลัก อยู่ด้านหน้า จุดเด่นคือตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องอาหาร
ตกแต่งด้วยปะการัง มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมา ให้บรรยากาศแบบอะควาเรียมเลยล่ะ มีปลากระเบน 2 ตัว ชอบเอาท้องมาแนบกระจก
เห็นส่วนตาและปากแล้วเหมือนมันกำลังส่งยิ้มให้เลย เท่าที่สังเกต ห้องอาหารค่อนข้างได้รับความสนใจจากเด็กๆ อย่างมาก
เรียกว่า นั่งกินข้าวไปด้วย ดูปลาไปด้วย สนุกสนานตื่นเต้นกันใหญ่
ทานข้าวไปด้วย ชมปลาไปด้วย เพลิดเพลินดีเหมือนกันนะ
พูดถึงไลน์อาหารเช้า มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง ซีเรียล ให้เลือกอิ่มกันได้ตามใจชอบ
วาร์ปมาดูบรรยากาศห้องอาหารช่วงเย็นกันบ้าง สังเกตการตกแต่งแสงไฟในช่วงค่ำ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลจริงๆ แฮะ
แสงไฟจากตู้ปลาตัดกับความมืดด้านนอก ช่วยขับให้ตู้ปลาสวยขึ้นไปอีก เป็นสีม่วงๆ น้ำเงินๆ สว่างไปทั่วห้องอาหารเลย
มีไวน์เย็นๆ ด้วยนะ เป็นโปรโมชั่นชิมไวน์ 5 แก้ว 390 บาท
วันที่เข้าพักตรงกับวันเสาร์พอดี ซึ่งในช่วงค่ำที่ห้องอาหารจะจัด BBQ Buffet & Funky Jazz คือมีบาร์บีคิวเสริมนอกเหนือไปจากไลน์อาหารเย็นปกติ สามารถเลือก หมู ไก่ เนื้อ และเห็ด ให้พนักงานย่างให้ได้ พร้อมกับจิบไวน์ไปด้วย เป็นมื้อค่ำที่ไม่หวือหวามาก แต่ก็ถือว่าจบวันได้อย่างสวยงาม
มาดูฝั่งขนมหวาน เราชอบเยลลี่นุ่มๆ ด้านบนมีแก้วมังกรกับกีวีด้วย
ระหว่างนั่งทานอาหาร ดูปลาในตู้ ก็ฟังดนตรี Jazz สดๆ ไปด้วยนะ โอ๊ย บรรยากาศดี๊ดี บอกเลย
และแล้วก็มาถึงจุดเด่นของโรงแรม นั่นคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ กว้าง และยาวด้วย ว่ายไปกลับนี่มีเหนื่อยอ่ะ
เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม สามารถพาเด็กๆ มาเล่นได้เกือบทั้งวัน เพราะรอบด้านมีตึกของโรงแรมบังอยู่ แทบจะไม่โดนแดดส่องเลย
มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย เด็กๆ ชอบมาก เห็นเล่นกันเสียงดัง สนุกสนานกันใหญ่ แถมน้ำก็ไม่ลึกเกินไป (ลึกสุดประมาณ 140 เซนติเมตร)
บริเวณสระมีไลฟ์การ์ดคอยดูแลอยู่ และมีห่วงยางชูชีพอยู่รอบสระด้วย สบายใจได้ในระดับหนึ่งเลยนะ
สระยาวมาก มีพื้นที่เยอะ เห็นบางครอบครัวเอาลูกบอลมาเล่นในน้ำด้วย เด็กๆ สนุกจนไม่อยากขึ้นจากสระ
ในส่วนของสไลเดอร์นั้น ผู้ใหญ่อย่างเราก็แอบขึ้นไปเล่นด้วย ฮ่าๆ รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
หรือถ้าผู้ใหญ่ไม่อยากลงเล่นน้ำ ในส่วนนี้ก็มีบาร์เล็กๆ ซ่อนอยู่ใต้น้ำตกชื่อว่า Splash Pool Bar
เผื่อเอาไว้สั่งค็อกเทลและเครื่องดื่มเย็นๆ จิบเพลินๆ ริมสระก็ฟินไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ที่อยากแนะนำคือ in room dining เพราะครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กๆ จะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อเด็กๆ เล่นน้ำเสร็จจะหิวโซกันสุดๆ
ซึ่งระหว่างจัดแจงอาบน้ำล้างตัว เราสามารถสั่งอาหารมาทานได้ จะทานที่ริมสระ ที่ห้องอาหาร Atlantis restaurant
หรือให้มาเสิร์ฟถึงห้องเลยก็ได้ เรียกว่าเล่นน้ำเสร็จปุ๊บ อาหารพร้อมเสิร์ฟทันที
มาที่เมนูกันบ้าง ในรูปจะเป็นเมนูแนะนำของทางโรงแรม มีทั้งซี่โครงหมูอบตะไคร้ ไทเกอร์พรอนสลัด
ผัดไทย (กุ้งตัวใหญ่เวอร์) และสเต็กปลาแซลมอน ตกแต่งมาสวยงาม น่าทานสุดๆ
ซูมทีละจาน เริ่มที่ซี่โครงหมูอบตะไคร้ ซี่โครงหมูย่างพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ไม่เผ็ดจนเกินไป กินกับตะไคร้ทอดที่โรยมา หูยย น้ำลายสอเลย
ไทเกอร์พรอนสลัดก็เลิศไม่แพ้กัน มีกุ้งไทเกอร์พรอนตัวใหญ่ใส่มาให้ 2 ตัว มีมะม่วงสุกชิ้นเล็กๆ มาเสริมรสเปรี้ยวด้วยนะ รสชาติเข้ากันดี
ผัดไทยที่มาพร้อมกับกุ้งตัวใหญ่มาก ใหญ่จริงๆ ปกติกินผัดไทยที่อื่นมีแต่กุ้งตัวเล็ก เจอไซส์บิ๊กแบบนี้เข้าไป ฟินเลย
ท้ายสุดและสุดท้ายกับเมนูที่ประทับใจที่สุด สเต็กปลาแซลมอน เนื้อปลาไม่แข็งเกินไป รสชาติดี มันบดก็อร่อย เอาว่าทานจนเกลี้ยงจานเลย
ใครชอบบรรยากาศใต้ท้องทะเลหรืออยากหาที่พักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกแห่งหนึ่งเลยนะ หรือจะพาครอบครัวมาเที่ยวก็เหมาะดี รับรองว่าเด็กๆ ต้องชอบฟีลลิ่งแบบอะควาเรียมของที่นี่แน่นอน รีวิวครั้งหน้าจะพาไปที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะ
ติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวต่อได้ที่ https://www.facebook.com/paiteawkunmai
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น