สวัสดีค่ะ
เราเป็นหนึ่งคนที่ชอบใช้รถเมล์ในการเดินทาง เพราะว่าสะดวกและเสียค่าใช้จ่ายไม่เยอะ และด้วยนิสัยชอบนั่งเบาะหลังสุดเราเลยได้เรื่องค่ะ
วันนั้นเรานั่งรถเมล์ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ซักพักก็จอดรับผู้โดยสารที่ป้ายค่ะ เรานั่งฟังเพลงก็ไม่ได้สนใจหันออกไปมองนอกหน้าต่างตามที่เคยทำ ซักพักมีคนมาจิ้มๆที่แขนเราค่ะ เป็นผู้ชาย วัยกลางคน หน้าตาดูใจดี ยิ้มให้เรา เค้าถามว่า
"รถคันนี้ถึงสนามหลวงมั้ย" เราก็ตอบไปว่าถึงค่ะ ตอบเสร็จก็หันมาหน้าต่างเหมือนเดิม เขาก็จิ้มเราอีก
"ถามว่าไปเที่ยวที่ไหน" เราก็ตอบว่าไปเรียนค่ะ เค้าก็ถามเราต่อ "เรียนที่ไหน" เราก้็อบว่าเรียนที่... คือด้วยลักษณะเค้าดูใจดีแล้วก็ไม่มีพิษมีภัยเราก็ตอบไปแล้วหันกลับมามองกระจกเหมือนเดิม
ซักพักเค้าก็จิ้มอีกแล้วก็ถามว่า "คนเยอะมั้ย" เราก็งง เค้าก็บอกแบบว่าคนเรียนแบบเราเยอะมั้ยงี้ค่ะ เราก็เริ่มเอะใจแต่ก็ตอบไป เค้าก็ถามเราต่อว่าเลิกเย็นมั้ย เราก็เห็นท่าไม่ดีก็เลยโกหกไปว่าเที่ยงๆงี้ค่ะ เค้าก็อ่อๆ แล้วก็เอามือมาจับไหล่เราค่ะแล้วถามว่าเสื้อข้างหลังเปื้อนอะไร เราก็ตอบไปว่าเสื้อคณะ
หลังจากนั้นเราก็หยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนเลยค่ะ พอเราวางเค้าก็เอามือมาจับหัวเราค่ะ เราก็ตกใจหันไปมอง เค้าก็ยังยิ้มปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ แล้วก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ คราวนี้ลูบหัวเราเลยค่ะ เราก็เขยิบหนี แต่ด้วยความนั่งติดหน้าต่างค่ะไปไหนไม่ได้ ก็โทรหาเพื่อนอีกค่ะ
ทีนี้เค้าเอามือมาลูบผมเหมือนจะเอาผมทัดหูเราน่ะค่ะ เราทนให้ไปถึงมหาวิทยาลัยไม่ไหว กดกริ่งลงเลยค่ะ จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีว่าสั่นไปหมดไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ได้รับบทเรียนเลยค่ะ บางคนที่หน้าตาใสซื่อนี่ความจริงอาจจะน่ากลัวกว่าคนบางคนอีก
ฝากเตือนภัยเพื่อนๆทุกคนด้วยนะคะ ใครมีประสบการณ์น่ากลัวอะไรบนรถเมล์ก์มาแชร์กันค่ะ จะได้ระวังตัวกันมากขึ้น สำหรับเราตอนนี้คงไม่กล้านั่งเบาะหลังไปอีกนานเลยค่ะ
เตือนภัย! สาวๆที่ชอบนั่งเบาะหลังสุด
เราเป็นหนึ่งคนที่ชอบใช้รถเมล์ในการเดินทาง เพราะว่าสะดวกและเสียค่าใช้จ่ายไม่เยอะ และด้วยนิสัยชอบนั่งเบาะหลังสุดเราเลยได้เรื่องค่ะ
วันนั้นเรานั่งรถเมล์ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ซักพักก็จอดรับผู้โดยสารที่ป้ายค่ะ เรานั่งฟังเพลงก็ไม่ได้สนใจหันออกไปมองนอกหน้าต่างตามที่เคยทำ ซักพักมีคนมาจิ้มๆที่แขนเราค่ะ เป็นผู้ชาย วัยกลางคน หน้าตาดูใจดี ยิ้มให้เรา เค้าถามว่า
"รถคันนี้ถึงสนามหลวงมั้ย" เราก็ตอบไปว่าถึงค่ะ ตอบเสร็จก็หันมาหน้าต่างเหมือนเดิม เขาก็จิ้มเราอีก
"ถามว่าไปเที่ยวที่ไหน" เราก็ตอบว่าไปเรียนค่ะ เค้าก็ถามเราต่อ "เรียนที่ไหน" เราก้็อบว่าเรียนที่... คือด้วยลักษณะเค้าดูใจดีแล้วก็ไม่มีพิษมีภัยเราก็ตอบไปแล้วหันกลับมามองกระจกเหมือนเดิม
ซักพักเค้าก็จิ้มอีกแล้วก็ถามว่า "คนเยอะมั้ย" เราก็งง เค้าก็บอกแบบว่าคนเรียนแบบเราเยอะมั้ยงี้ค่ะ เราก็เริ่มเอะใจแต่ก็ตอบไป เค้าก็ถามเราต่อว่าเลิกเย็นมั้ย เราก็เห็นท่าไม่ดีก็เลยโกหกไปว่าเที่ยงๆงี้ค่ะ เค้าก็อ่อๆ แล้วก็เอามือมาจับไหล่เราค่ะแล้วถามว่าเสื้อข้างหลังเปื้อนอะไร เราก็ตอบไปว่าเสื้อคณะ
หลังจากนั้นเราก็หยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนเลยค่ะ พอเราวางเค้าก็เอามือมาจับหัวเราค่ะ เราก็ตกใจหันไปมอง เค้าก็ยังยิ้มปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ แล้วก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ คราวนี้ลูบหัวเราเลยค่ะ เราก็เขยิบหนี แต่ด้วยความนั่งติดหน้าต่างค่ะไปไหนไม่ได้ ก็โทรหาเพื่อนอีกค่ะ
ทีนี้เค้าเอามือมาลูบผมเหมือนจะเอาผมทัดหูเราน่ะค่ะ เราทนให้ไปถึงมหาวิทยาลัยไม่ไหว กดกริ่งลงเลยค่ะ จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีว่าสั่นไปหมดไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ได้รับบทเรียนเลยค่ะ บางคนที่หน้าตาใสซื่อนี่ความจริงอาจจะน่ากลัวกว่าคนบางคนอีก
ฝากเตือนภัยเพื่อนๆทุกคนด้วยนะคะ ใครมีประสบการณ์น่ากลัวอะไรบนรถเมล์ก์มาแชร์กันค่ะ จะได้ระวังตัวกันมากขึ้น สำหรับเราตอนนี้คงไม่กล้านั่งเบาะหลังไปอีกนานเลยค่ะ