[CR] เที่ยวญี่ปุ่นด้วย JR TOKYO Wide Pass อย่างไรให้คุ้มค่า

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกด้วย JR TOKYO Wide Pass ราคา10000 เยน(สามารถใช้ได้3วันติดต่อกัน) เคยอ่านรีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่นมา มีที่แนะนำว่าจะใช้ Tokyo Wide Pass ยังไงให้คุ้ม เลยซื้อใช้และวางแผนเที่ยวดู ตามมาดูนะว่าคุ้มไหม


15 มกราคม 2560 เดินทางถึงนาริตะ เวลาประมาณ1ทุ่ม ไปซื้อ JR TOKYO Wide Pass กับแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า จะใช้Passวันที่ 16,17,18 มกราคม ให้เค้าพริ้นตั๋วที่จอง สำหรับวันพรุ่งนี้(ตั๋วชินคันเซนแบบมีที่นั่ง จากโตเกียวไปยูซาว่า และจากยูซาว่ากลับโตเกียว) จะเดินทางไปโตเกียวกับรถไฟรอบแรก ออฟฟิทเจอาร์ยังไม่เปิด ให้ศึกษาเส้นทางต่อกับ Hyperdia นะ


จากนั้นก็ให้ไปจับจองที่นอนฟรี บริเวณ North waiting area จะเป็นห้องที่เงียบสงบ มีห้องน้ำสะอาด โซฟานุ่มๆ พร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอดเวลา ยิ่งดึกก็ยิ่งมายืนเฝ้าเป็นพิเศษ ตอนดึกๆจะหนาวหน่อย ต้องใส่เสื้อกันหนาว


16 มกราคม 2560 เริ่มเดินทางท่องเที่ยวและใช้Pass นั่งรถไฟเจอาร์เข้าเมือง รอบแรกเวลา 6.55 น. ถึงโตเกียวเวลา 8.25 น. ระหว่างทางที่เดินไปต่อชินคันเซน ก็จะซื้อเบนโตะไปทาน เป็นมื้อเช้าบนชินคันเซนด้วย ได้นั่งชินคันเซนรอบเวลา 8.52 น.


นั่งชินคันเซนรุ่นMAX จองที่นั่งชั้น2จะเห็นวิวชัดกว่า


โตเกียวไม่มีวีแววว่าหิมะจะตก ชินคันเซนออกนอกเมืองมามาเรื่อยๆ ก่อนถึงยูซาว่าประมาณ3ป้าย ชินคันเซนลอดอุโมงค์ยาวมาก พอออกจากอุโมงค์ ก็ขาวโพลนไปด้วยหิมะ ยิ่งใกล้ยูซาว่าเท่าไร หิมะก็ยิ่งตกหนัก แบบไม่ลืมหูลืมตาเลย ได้เจอบรรยายกาศแบบนี้ บอกได้สองคำ สุดยอด


ถึงยูซาว่า เวลา 10.30 น. ซื้อตั๋วกอนโดล่ากับฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์


มีเวลาชื่นชมบรรยากาศ 5-6 ชม. พอแล้วสำหรับมาเที่ยวครั้งนี้ ดูหิมะตกจนอิ่มเลย แอบไปเล่นหิมะกับเค้าด้วย ยืนดูเฉยๆไม่ได้จริงๆ ลืมตัวปล่อยแก่ไปเต็มที่ ในใจก็คิดว่า ขออย่าให้เจอใครที่รู้จักเลย


หนาวๆอย่างนี้ ต้องราเมงคนละชาม เลือกที่นั่งตามใจชอบได้เลย จะด้านที่มองเห็นหิมะตกก็ได้ หรือที่มีคนเล่นสกีก็แล้วแต่...
ทานเสร็จก็เดินขึ้นไปชั้น2 ดื่มกาแฟร้อนๆ ต่อด้วยซุปข้าวโพดร้อนๆ นั่งพักผ่อน ชมวิวแบบ 180 องศา อยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้เลย


ออกไปเดินเล่นอีกสักรอบก่อนกลับ


เวลา 16.17 น.นั่งชินคันเซนกลับสถานีโตเกียว ถึงเวลา 17.40 น. แวะออฟฟิศเจอาร์ก่อน ให้เค้าพริ้นตั๋วของวันที่17 และของวันที่18ด้วยเลย(ที่นี้สามารถพริ้นล่วงหน้าได้หลายวัน แต่ที่แอร์พอร์ตพริ้นได้แค่1วัน) เรื่องตั๋วเรียบร้อย ก็เดินทางไปโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีเจอาร์อาสากุซะบาชิ(เดิน5นาที) ถึงที่พักเช็คอินเสร็จเวลา 18.30 น. นั่งรถไฟเจอาร์ไปเที่ยวชินากาว่า ใช้เวลาเดินทางไป 20นาที


ที่สถานีชินากาว่า เป็นสถานีที่ใหญ่แห่งหนึ่ง มีผู้คนมากมาย เดินไปมาไม่แพ้โตเกียว เดินออกนอกสถานียามค่ำคืน มีร้านราเมงตามรายทาง เดินเล่นบริเวณใกล้สถานี หามื้อเย็นทาน กลับสถานีอาสากุซะบาชิ ใช้เวลา20นาที ถึงที่พักไม่ดึกมาก ยังพักผ่อนได้เต็มที่ เตรียมตัวลุยต่อพรุ่งนี้ (ไม่มีค่าใช้จ่ายของการเดินทางเพิ่ม)


17 มกราคม 2560 นั่งรถไฟเจอาร์รอบเวลา 5.18 น.จากสถานีอาซากุสะบาชิ ถึงสถานีคาวากุจิโกะเวลา 8.00 น.(รถไฟตรงมามาก)


จากนั้นก็เดินหาร้านเช่าจักรยาน ได้ร้านซึ่งอยู่ตรงข้ามสถานีคาวากุจิโกะ พอได้จักยานกับแผนที่มา ปั่นมุ่งหน้าไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีเวลาปั่นจักรยานเล่นประมาณ 4ชม.


มื้อเช้าคือข้าวห่อสาหร่ายปลาแซลมอน นั่งทานกันที่สวนสาธารณะระหว่างทาง


วันนี้แดดดีมาก ลมอ่อนๆ แต่อากาศก็ยังหนาวอยู่ดี โดยรวมท้องฟ้าแจ่มใสสุดๆ ทำให้มองเห็นฟูจิซังชัดเจนและยิ่งใหญ่เหลือเกิน


เวลาใกล้เที่ยง เอาจักรยานไปคืนร้านเช่า ไปเดินเล่นสำรวจบริเวณใกล้ๆสถานี ซื้อเสบียงไปทานเป็นมื้อเที่ยงบนรถไฟ รถไฟออกจากสถานีคาวากุจิโกะเวลา 12.29 น. ถึงสถานี OTSUKIเวลา 13.24 น. ต่อรถไฟด่วนแบบจองที่นั่งรอบเวลา 14.04 น.(ที่เจ้าหน้าที่พริ้นตั๋วให้เมื่อวาน) ใช้เวลา 28นาที ถึงสถานีHACHIOJIเปลี่ยนขบวนรถ ไปสถานีSAKURAGICHOถึงเวลา 15.44 น.


ถึงโยโกฮาม่าแล้ว ยังมีแสงแดด ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ เดินเล่นถ่ายรูปแถวท่าเรือก่อน


ตั้งใจไว้ว่า จะมาหาราเมงทานเป็นมื้อเย็น ที่พิพิธภัณฑ์ราเมง


และต่อด้วยนั่งชิงช้าสวรรค์ ชมบรรยากาศยามค่ำคืน ของท่าเรือโยโกฮาม่าสัก1รอบ เสร็จลงมาเวลา 19.30น. ไปเดินเล่นที่ท่าเรือต่ออีก บรรยายกาศหนาว และโรแมนติกกว่าตอนเย็น


เดินทางกลับไปขึ้นรถไฟเจอาร์ ที่สถานีSAKURAGICHOไปยังสถานีอาสากุซะบาชิ เข้าที่พัก (ไม่มีค่าใช้จ่ายของการเดินทางเพิ่ม)


18 มกราคม 2560 นั่งรถไฟเจอาร์รอบเวลา 5.44 น. ไปสถานีUENO ต่อชินคันเซ็น ไปสถานีUTSUNOMIYA ใช้เวลา 49นาที ถึงเวลา 7.15 น. รอขึ้นรถไฟท้องถิ่นไปสถานีเจอาร์นิกโก้ ไปถึงรถไฟมาจอดรออยู่แล้วแต่ยังไม่ออก จะออกเวลา 7.41น.


ถึงเวลา 8.25น. เดินเล่นแถวสถานีไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีนิกโก้TOBU


ไปซื้อตั๋วรถบัส ขึ้นไปเที่ยวยูโมโตะออนเซ็น (ตั๋ว 3000เยน ขึ้นลงฟรีทุกป้ายใช้ได้3วัน)


ตามแผน เราจะแวะชมน้ำตกเคกอนกันก่อน ลงรถจากป้ายจอดรถ เดินย้อนกลับไปไม่ไกล จะมีป้ายบอก หาไม่ยาก แต่จะมีหิมะตกลงมาบังป้าย  ต้องคอยสังเกตเอา


พอไปถึง ก็จะเห็นภาพนี้อยู่ตรงหน้า(ลงลิฟไปชั้นล่างสุด ค่าตั๋ว550เยน) ชั้นบนก็สามารถดูได้เหมือนกันฟรี แต่ไม่สะใจ ถ้าไปช่วงหน้าร้อนโอกาสเห็นจะน้อยยิ่งตอนฝนตก  หมอกจะลงมองอะไรไม่เห็นเลย หน้าหนาวหายห่วงเห็นชัวร์


หลังจากที่ชมน้ำตกจนพอใจ ตอนกลับ ให้เดินเลยป้ายรถบัสของน้ำตกเคกอน ตรงไป ที่ป้ายจอดรถของทะเลสาบจูเซ็นจิ อยู่ห่างกันไม่ไกล สามารถเดินได้ เดินเล่นชมวิว รอรถบัสที่ป้ายทะเลสาบจูเซ็นจิได้เลย


หน้าหนาวภาพจะเป็นแบบนี้ เดินลำบากแต่วิวสวยมาก หิมะเพิ่งตกใหม่ๆนุ่มๆ


ต่อไปเป็น แผนเดินป่าระยะสั้น จุดลงจากรถบัส เลยป้ายน้ำตกริวชูมา1ป้าย แล้วเดินย้อนลงกลับไปทางน้ำตกริวซู ก็จะเจอป้ายจอดรถบัสพอดีประมาณ1กม. น่าจะใช่นะ  ใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมง เพราะหิมะสูงถึงหัวเข่า มีเจ้าหน้าที่ทำทางเดินไว้ ให้เดินตามรอยไปเรื่อยๆ(อันนี้ไม่มีป้ายบอก คิดเอง เป็นวิธีที่ไม่ให้หลงป่า) เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกมากๆเหมือนกัน สงสัยอ๊อกซิเจนจะน้อย หายใจไม่ค่อยออก เดินไปก็รู้สึกว่าเหนื่อยง่าย


ถึงจุดหมายปลายทางสักที ยูโมโตะออนเซ็น หมู่บ้านเงียบสงบบนหุบเขา เราต้องได้ออนเซ็นก่อน ไม่งั้นไม่กลับ แต่ก่อนอื่นได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว หาที่ทานมื้อเที่ยงกันก่อน เราเดินหาจนเจอที่หลบภัยหนาวชั้นดี มันก็คือสถานีรอรถบัสนั้นเอง ส่วนเสบียง ที่เป็นอาหารกลางวันคือเบนโตะ ที่ซื้อมาจากสถานีรถไฟเมื่อเช้านี้ ช่วงหน้าหนาว โรงแรม ร้านค้าต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิดกิจการชั่วคราว รวมทั้งห้องน้ำสาธารณะ ก็ปิดให้บริการเช่นกัน เพราะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาน้อย เวลาเข้าห้องน้ำที ก็ขอเข้ากับร้านค้าที่ยังเปิดให้บริการอยู่(เกรงใจแต่ห้องน้ำสาธารณะปิดสนิท ปกคลุมไปด้วยหิมะ)


เดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบๆ บนเขานี้ก็มีทะเลสาบด้วย คือทะเลสาบยูโมโตะ จากนั้นก็เจอ โรงแรมที่เปิดให้บริการออนเซ็นแบบส่วนตัว ดีใจมาก ตอนบ่ายสามก็ได้เข้าออนเซ็น 45นาที(4000เยน) ห้องสวย กว้างขวาง เห็นวิวด้านนอก เข้าได้ไม่เกิน7คน


เดินออกมาตัวเบาเลย กลับไปที่สถานีหลบภัยหนาว ไปนั่งรอรถบัส เตรียมตัวลงจากภูเขายูโมโตะออนเซ็นกันดีกว่า ยิ่งใกล้มืดอากาศที่ว่าหนาวมากแล้ว ก็ยิ่งหนาวขึ้นไปกันใหญ่ เริ่มไม่ไหวกันแล้ว


กลับลงมาจากเขายูโมโตะออนเซ็น ถึงสถานีเจอาร์นิกโก้เวลา 18.30น. ด้านล่างตอนนี้มืดสนิทแล้ว เราไปหามื้อเย็นทานก่อนกลับ(กำลังหิว) ตั้งใจว่าจะมาทานราเมงร้อน แต่หาร้านไม่เจอ มืดก็มืด หนาวก็หนาว พอดีบริเวณใกล้ๆ มีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ขายผลไม้ และอาหารสดๆราคาไม่แพง โดยเฉพาะชูชิที่นี้ถูกแถมยังลดราคาอีก ได้ทั้งสตอเบอร์รี่ลูกเล็ก แต่หวานมาก ถูกมาก กล้วยหอมกำลังลดราคา ชูชิก็จัดมาแพ็คใหญ่ อร่อยมาก(อยู่ไทยไม่ทานเลย มาถึงที่ีต้องจัด) ใครมาต้องแวะไปซื้อให้ได้นะ


ถึงเวลากลับ นั่งรถไฟไปสถานีUTSUNOMIYA เพื่อไปต่อชินคันเซน กลับสถาน UENO ต่อรถไฟเจอาร์ไปสถานีอาสากุซะบาชิ กลับเข้าพัก (Passใช้ได้ถึงสถานีนิกโก้นะ)


จบการใช้Passวันนี้นะ ถ้ายังไม่กลับบ้านกัน สามารถซื้อPassนี้ได้มากกว่า1ใบ หรือจะเป็นPassแบบอื่นก็ได้ ถ้าวางแผนดีๆและซื้อจากสนามบินก็ประหยัดได้มาก ขอขอบคุณทุกการติดตาม
ชื่อสินค้า:   JR TOKYO Wide Pass
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่