ทำไมทอมดี้ เลสเบี้ยน หรือเกย์ ไม่เป็นที่ยอมรับในสายตาผู้ใหญ่ส่วนหนึ่งในสังคม

สวัสดีค่ะ เราแทนตัวเองว่าธีร์ล่ะกันเนอะะ กระทู้แรกผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ

มันเป็นข้อสงสัยหนึ่งที่เราสงสัยมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ว่าทำไมเพศที่สามมักไม่ได้การยอมรับจากสังคมส่วนหนึ่งที่เรียกว่า "ผู้ใหญ่"
เริ่มจากเรื่องของเราเลยล่ะกัน เราเป็นทอมค่ะ มีแฟนเป็นดี้(แต่ก็เคยคบผู้ชายมาก่อนนะ)แทนชื่อว่าบีล่ะกันนะคะ จะได้เข้าใจตรงกัน
เราเป็นนักเรียนม.4ค่ะ นักกีฬาโรงเรียนคนหนึ่ง ฝีมือก็ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ถือว่าอยู่รั้งท้าย ส่วนบีเป็นเด็กม.2 อายุก็ห่างกันสองปี

เรื่องมันเกิดขึ้นตอนเราแข่งงานกีฬาสีภายในค่ะ เราอยู่สีเขียว ส่วนน้องบีอยู่สีม่วง แต่เวลาซ้อมกีฬาสีก็ซ้อมแบบทุกสีรวมกันแหละค่ะ
ตอนนั้นเราอยู่ม.3 เป็นกัปตันของสีนี้ ก็เลยต้องรับหน้าที่ในการฝึกน้องเล่นบาส เราอยู่ในส่วนของการเลี้ยงกับรุ่นน้องที่เป็นทอมอีกคน
รู้สึกว่ามีคนมอง แต่ก็นะ ทำเป็นตัวอย่างให้น้องดู ใครก็ต้องมองแหละ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักค่ะ ประเด็นมันอยู่ที่ตอนเราแข่งบาส

มันเป็นช่วงควอเตอร์ท้ายๆ ที่ต่างฝ่ายเริ่มหมดแรง เราเลี้ยงลูกออกมาจากกลุ่มคนที่รุมแย่งกันแล้วมาอีกฝั่งเพื่อจะเลย์อัพทำแต้ม
แต่เราล้ามาเพราะไม่ได้หยุดเล่นเลยตั้งแต่ควอเตอร์แรกๆ เลยเลย์ไม่ขึ้น แต่ตอนที่เราวิ่งไปนั้นเราได้ยินเสียงผู้หญิงกลุ่มหนึ่งพูดกัน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

นั่นแหละแรงบันดาลใจในการซ้อมบาสของเราครั้งต่อไป เราตามหาคนๆนี้มาเป็นปีเพื่อจะขอบคุณคนๆนั้นที่เป็นจุดกำเนิดแรงบันดาลใจ
จนมาวันหนึ่งช่วงต้นปีนี้มีการแข่งขันกีฬาจังหวัด เราถูกจับเข้ามาแข่ง เดินเข้ามาในสนามซ้อมวันแรกก็เจอรุ่นน้องที่ไม่คุ้นหน้าสามคน
เหมือนจะมาคัดตัวโรงเรียน หนึ่งในนั้นคือบีค่ะ พอเราเดินเข้ามาน้องก็เรียก "พี่ธีร์!!" เราก็งงๆ รู้จักเราด้วยหรอ เพราะเราก็ไม่ใช่คนดัง
ของโรงเรียนซะด้วย แต่มีช่วงนึงที่ดังเพราะสอบติดทุนเรียนต่อต่างประเทศ ก็เลยคิดว่าน้องบีรู้จักเพราะแบบนี้ น้องชอบมาแกล้งเรา
มาป้วนเปี้ยนแถวเรา จนเราก็เริ่มหวั่น เราซ้อมด้วยกันทุกวัน แล้วน้องก็แกล้งเราทุกวัน แถมโรงเรียนเราเล่นพี่รหัสน้องรหัสไง
ถ้าเทียบกับสายเรา เราก็ประมาณว่ายายรหัสไง พวกกลุ่มนี้ก็จะเรียกเราว่ายาย -.- เราก็ไม่ซี แต่มีวันนึงโดนแกล้งจนเผลอเรียกว่า
"ไอ้เด็ก..." เราพูดแล้วเราก็แอบยิ้มนะ จนมาวันนึงก่อนแข่งสักอาทิตย์สองอาทิตย์ น้องบีก็ทักแอดเฟสและทักแชทเรามา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตอนนั้นยอมรับว่าหวั่นๆกับน้องบีแล้ว เวลาซ้อมพาสบอลงี้(ภาษาทั่วไปก็ส่งลูก) ถ้าน้องยังไม่พาสแล้วมาต่อแถวใหม่ก็จะแกล้งพักเหนื่อย
พอน้องมาถ้าไม่มีคู่ก็จะรีบวิ่งไปต่อ แต่ถ้ามีคู่ก็ต่อจากน้องไม่ก็นั่งต่ออีก 5555 เวลาซ้อมก็จะไปป้วนเปี้ยนแถวน้องบีแหละ ไปคอยแกล้ง คอยป่วน
จนวันนึงคุยไลน์กันแล้วเราก็หลุดปากพูดไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สุดท้ายก็ได้คุยจนรู้ว่าน้องบีคือคนที่เราตามหาในวันนั้น น้องเล่าเหตุการณ์เป็นเรื่องราวตรง แถมพี่เจที่สนิทกันที่อยู่สีเดียวน้องบี
ก็รู้จักและสนิทน้องบีมาระยะหนึ่งแล้ว พี่เค้าสังเกตมาเห็นว่าตอนซ้อมน้องบีก็ชอบแอบมองเราตลอด ข้อมูลตรงกัน ความรู้สึกตรงกัน
ต่างคนต่างรอกันมาเป็นปี ก็เลยตัดสินใจขอคบ เริ่มกันดีแค่ไหนแต่ปัญหามันไม่เลือกเกิดหรอกค่ะ โดยเฉพาะปัญหาที่เพศที่สามหลายๆคู่
ต้องเจอแน่นอน นั่นก็คือ...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปัญหาใหญ่ระดับชาติปัญหาหนึ่งเลย แม่น้องบีพูดกับน้องว่าเราเป็นน่ารัก ดูเป็นคนดี ดูเป็นเด็กเรียน ถ้าจะคบก็ไม่ห้าม แต่พอมาวันหนึ่ง
หลังจากครบรอบหนึ่งเดือน ช่วงปิดเทอมวันแรกๆ แม่ขอให้เลิกเพราะรับไม่ได้ เรื่องนี้เราโอเค เราเข้าใจ ว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง
แม่พูดแบบนี้ทุกวัน แล้วบีก็ร้องไห้ทุกวัน ร้องต่อหน้าแม่ ร้องกับเรา บางทีกลัวเราไม่สบายใจก็แอบร้องคนเดียว จนวันหนึ่งแม่บังคับบี
ด้วยการขู่ว่าจะยึดโทรศัพท์ และให้บีย้ายโรงเรียน เราพยายามจะทำความเข้าใจแม่ของบี แต่มีประโยคที่เราไม่เข้าใจคือ...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เราเข้าใจว่าแม่ทุกคนเป็นห่วงลูก แต่เราไม่เข้าใจว่าบทนิยามความรักบทไหน มนุษย์คนไหนที่อยากคบกับใครแล้วคบๆเลิกๆ
ไม่มีหรอก ทุกคนล้วนอยากเจอความรักจริงๆ ที่คบแล้วอยากให้จบที่คนนี้คนเดียว คบกันจนแต่งงาน มีชีวิตครอบครัว

เพศที่สามไม่ได้เป็นปัญหาของสังคมในปัจจุบัน คนเก่ง คนดี สร้างประโยชน์เพื่อชาติก็มีเยอะแยะ
ไม่ได้มีผลต่อระบบนิเวศหรือการสร้างมลพิษ มลภาวะใดๆบนโลกแตกต่างกับชายหญิงทั่วไปเลยค่ะ

เราควรทำอย่างไรให้พ่อแม่บียอมรับเราคะ? (อยากได้มุมมองคำตอบหลายมุมมองทั้งพ่อแม่ สังคม และเพศที่สามค่ะ)
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ อมยิ้ม01
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ในความคิดขอพ่อแม่หนูคิดว่า เค้าอาจคาดหวังอยากให้เราเป็นไปตามเพศภาพของเรา แบบเกิดมาดป็นผู้ชายพ่อแม่หลายคนก็คาดหวังอยากให้ลูกเป็นทหาร ตำรวจ และหนูคิดว่าเพศที่สามหลายคนคนแรกในครอบครัวที่สามารถรับเรื่องนี้ได้ก็คือ'แม่'ส่วนคนที่รับเรื่องนี้ได้ยากก็คือ'พ่อ'ที่แม่รับได้เพราะเค้าเขาใจเราว่าเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้ แต่เราเป็นคนดีได้ ถึงเราจะเกิดมามีเพศที่ไม่เหมือนคนอื่นแต่เราก็เป็นคนดีได้ ส่วนพ่อก็อาจเป็นเพราะเค้าคาดหวังกับเรามาก เค้าเลยต้องการเวลาสักนิดในการทำใจและยอมรับความเป็นจริง และบางคนที่พ่อแม่ไม่ยอมรับก็หนีออกจากบ้านมา การที่คุณหนีออกมามันทำให้พ่อแม่เป็นห่วงมาก ถึงแม้เราจะเป็นเพศที่สามแต่ลูกอย่างไรก็ตัดไม่ขาดสายใยของคำว่าครอบครัวมันแน่นหนาเกินกว่าใครจะทำลาย เพียงเราแค่ต้องใช้เวลาและพิสูจน์ตัวเองว่าถึงเราจะเกิดมาเป็นแบบนี้เราก็สามารถดูแลท่านได้ ดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของใคร

และเรื่องการแต่งงานมีลูกหนูคิดว่าเรารับเลี้ยงเด็กที่ถูกทอดทิ้งเอาก็ได้นิค่ะ ถือดป็นการทำบุญและช่วยลดทรัพยากรมนุษย์อีกด้วย
เพียงแต่ทุกอย่างตเองการเวลา เวลาและการกระทำเท่านั้นที่เป็นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะการที่เราพูดแต่ไม่ทำมันก็พิสูจน์อะไรไม่ได้
ความรักไม่ได้กำหนดว่าหญิงชายต้องรักกันเท่านั้น ไม่ว่าจะอยูในสถานะภาพใดก็สามารถรักกันได้
หากหนูพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมต้องขอโทษด้วยนะคะ😊
สู้ๆๆค่ะ✌✌
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่