พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง
บทประพันธ์/บทละครโทรทัศน์ : เอกลิขิต
ผู้กำกับ : อดุลย์ บุญบุตร
ผลิตโดย: ทีวีซีน
นักแสดงนำ: โป๊บ ธนวรรธน์ / มิว นิษฐา / น้องรถบัส ภคพล
10 ปี หลังจากที่เคยดูอุ้มรัก ที่ออนแอร์ตอนปี 2549 ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณเอกลิขิตพล็อตเรื่องขึ้นมาเอง และได้การถ่ายทอดระดับเทพของคู่ขวัญ แอน+เคน ก็ทำให้ละครที่ได้แรงบันดาลใจตอนภรรยาตั้งครรภ์ของผู้แต่ง สมจริงจนเข้าไปนั่งในใจคนดูอย่างเต็มหัวใจ
คุณเอกลิขิตกล่าวไว้ในคำนำว่า ถ้าอุ้มรัก คือ บันทึกภาคการตั้งครรภ์ของภรรยา พ่อยุ่ง...ลุงไม่ว่าง ก็เป็นเหมือนบันทึกพัฒนาการในการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 5-6 ขวบ แต่ไม่ใช่ภาคต่อของอุ้มรัก
พ่อยุ่ง...ลุงไม่ว่าง เป็นละครที่กำลังถ่ายทำในปี 2560 โดยทีวีซีน และถูกเขียนเป็นนวนิยายแบบรูปเล่มไปพร้อมๆกัน เพิ่งจะวางขายแบบ pre-sale ก่อนเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือที่กำลังจะถึง ให้น้ำหนักในการเดินเรื่องในโทนโรแมนติก-ดราม่า แบบนิยายครอบครัว บทคอมเมดี้จะมาเป็นสถานการณ์และคาแรคเตอร์ของพระเอกที่จะทำให้คนอมยิ้มได้ แต่ไม่ใช่ละครคอมเมดี้จ๋าอย่างที่ชื่อเรื่องทำให้คิดเป็นอย่างนั้นเลย เดาว่าบทละครโทรทัศน์ที่คุณเอกลิขิตเขียนเองด้วยคงจะปรับให้มีความคอมเมดี้มากกว่าในตัวนิยายค่ะ
ในเมื่อนิยายเพิ่งจะวางขายแบบ pre-sale เลยยังไม่ขอสปอยด์เนื้อเรื่องมากนะคะ
เรื่องย่อสั้นๆจากปกหลัง:
ลุงเต็ง พิชิตศึก: ครีเอทีฟหนุ่มไฟแรง เจ้าของรายการสารคดีสั้น 1 นาที ที่ตั้งท่าจะเจ๊งอยู่รอมร่อ เป็นผู้ชายอ่อนโยน อบอุ่น มีความรับผิดชอบ รักใครรักจริง รักแล้วแสดงออกเลย ไม่เก็บเอาไว้ อารมณ์ดี ชอบยิงมุขฝืดๆ ชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุข จนบางครั้งเล่นใหญ่โอเวอร์แอคติ้งเป็นประจำ
อาชิดดาว : พี่เลี้ยงเด็กที่เนิร์สเซอร์รี่ จบพยาบาลมา เป็นผู้หญิงอ่อนโยน เส้นตื้น หัวเราะง่าย จิตใจดี เซนซิทีฟมาก อารมณ์อ่อนไหวร้องไห้เก่ง และชอบหนีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหัวใจ จึงไม่กล้าตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาด
กาโม่: เด็กชายตัวเล็กๆที่ถูกพ่อกับแม่ฝากลุงเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เกิด พ่อก็ยุ่งเรื่องกลับไปเรียนปริญญาโทให้จบ ลุงก็ไม่ค่อยว่างเพราะงานถ่ายรายการที่รัดตัว อาชิดดาวจึงเป็นเหมือนนางฟ้าขี่ม้าขาวมาช่วยลุงกับหลานเอาไว้ กาโม่โตมาเป็นเด็กร่าเริง แต่ก็อารมณ์อ่อนไหวง่าย เป็นยอดมนุษย์ตัวน้อยๆของลุงเต็ง กลัวที่สุด คือ กลัวลุงเต็งไม่รัก โลกทั้งใบของกาโม่ คือ ลุงเต็งซึ่งเป็นฮีโร่ของเขา
โป๊บ ธนวรรธน์ + มิว นิษฐา : ณ ตอนนี้ กับบทคาแรคเตอร์อบอุ่นแบบที่ต้องอาศัยเคมีที่เกื้อหนุนกันมาก ไม่มีใครเหมาะสมกับบทลุงเต็งและอาชิดดาวได้เท่าโป๊บ-มิวอีกแล้ว ทั้งวัยที่เหมาะ และวิธีการแสดงที่สามารถเล่นดราม่าได้หลายระดับ ไม่แปลกใจเลยที่ช่องเคาะทั้ง 2 คนมาให้อาปิ่น แถมพออ่านบท ทั้งคู่ก็ยอมรับเล่นด้วยกันในรอบ 3 ปี
2 บทนี้ต้องการการเติบโตขึ้นทั้งวิธีคิดและอินเนอร์จาก 2 เรื่องที่เคยเล่นด้วยกันอย่าง คุณชายปวรรุจและรักออกฤทธิ์มาก บทที่ขยี้อารมณ์ดราม่าทั้งในพาร์ท ลุง-อา-หลาน และ พาร์ทพระเอก-นางเอก เป็นละครที่ทั้ง 3 ตัวละครต้องพาคนดูทั้งหัวเราะ อมยิ้มและร้องไห้ไปพร้อมๆกันแน่
เคมีคู่ขวัญที่เข้ากันคงจะนำพาให้คนดูอินและเอาใจช่วยความสัมพันธ์ที่เหมือนจะราบรื่น แต่โรยด้วยหนามกุหลาบอย่างแหลมคมตั้งแต่เริ่มเรื่องไปจนจบได้ไม่ยากเลย กระดูกชิ้นโตที่บ่อนทำลายความสัมพันธ์มีทั้งรูปแบบมดแดงแฝงมะม่วง /หมาหวงก้าง และ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ความสัมพันธ์ของลุงเต็งกับอาดาวจึงยืดเยื้อนับเลขเพิ่มไปตามอายุของกาโม่ เป็นคาแรคเตอร์พระ-นาง ที่มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามความรับผิดชอบรอบตัว อ่านนิยายไป เห็นเป็นหน้าโป๊บมิวลอยมาเลย
แคสกาโม่มีหลายช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด /8 เดือน/ 1 ขวบ/ 2-3 ขวบ แต่ช่วงที่น้องรถบัสเล่น คือ ช่วงกาโม่ 5-6 ขวบ จะเป็นเมนหลักของเรื่อง มีหลากหลายอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า เพราะเด็ก คือ ผ้าขาวจริงๆ ผู้ใหญ่จะแต้มสีอะไร เขาก็พร้อมจะโอนอ่อนไปตามนั้น ยิ่งเล่นกับเรื่องหัวใจ เรื่องความรักต่อบุคคลอันเป็นที่รักของเด็กด้วยแล้ว เพียงป้ายสีเทาใส่ เด็กก็พร้อมจะทำให้มันเข้มข้นเป็นสีดำได้ไม่ยาก ถ้ารถบัสถ่ายทอดได้ถึงอารมณ์ ซึ่งเชื่อว่าน้องน่าจะทำได้ บทนี้คงขโมยหัวใจคนดูไปเต็มๆ
นอกจากละครจะทำให้เห็นพัฒนาการในการเลี้ยงเด็กในแต่ละช่วงวัยแล้ว ยังเห็นการแก้ปัญหาของคนที่เป็นพ่อแม่ในวัยที่ไม่พร้อมอีกด้วย สุดท้ายคงไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่า คำว่า "ครอบครัว" ถ้ามีครอบครัวช่วยเป็นแรงสนับสนุนและแก้ปัญหา ทุกอย่างก็จะมีทางออกที่กระทบจิตใจเด็กน้อยที่สุด ส่วนตัวละครอื่นๆที่รายล้อมลุงเต็ง อาชิดดาว และกาโม่ มีผลต่อความสัมพันธ์ของ 3 คนนี้หมดเลยค่ะ ไม่ขอพูดถึงมาก เพราะเดี๋ยวจะสปอยล์ซะหมด 5555 เห็นว่าเรื่องนี้คงจะถ่ายทำไม่นาน ปลายๆปีอาจจะทันได้ดูกันก็ได้ค่ะ
ขอแท็ก "พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง" ด้วยค่ะ ขอกันไปหลายกระทู้แล้วนะคะ ทีมงานไม่ทำให้สักที
[Preview] พ่อยุ่ง...ลุงไม่ว่าง - เอกลิขิต : เพราะหัวใจเด็กคือผ้าสีขาว
พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง
บทประพันธ์/บทละครโทรทัศน์ : เอกลิขิต
ผู้กำกับ : อดุลย์ บุญบุตร
ผลิตโดย: ทีวีซีน
นักแสดงนำ: โป๊บ ธนวรรธน์ / มิว นิษฐา / น้องรถบัส ภคพล
10 ปี หลังจากที่เคยดูอุ้มรัก ที่ออนแอร์ตอนปี 2549 ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณเอกลิขิตพล็อตเรื่องขึ้นมาเอง และได้การถ่ายทอดระดับเทพของคู่ขวัญ แอน+เคน ก็ทำให้ละครที่ได้แรงบันดาลใจตอนภรรยาตั้งครรภ์ของผู้แต่ง สมจริงจนเข้าไปนั่งในใจคนดูอย่างเต็มหัวใจ
คุณเอกลิขิตกล่าวไว้ในคำนำว่า ถ้าอุ้มรัก คือ บันทึกภาคการตั้งครรภ์ของภรรยา พ่อยุ่ง...ลุงไม่ว่าง ก็เป็นเหมือนบันทึกพัฒนาการในการเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 5-6 ขวบ แต่ไม่ใช่ภาคต่อของอุ้มรัก
พ่อยุ่ง...ลุงไม่ว่าง เป็นละครที่กำลังถ่ายทำในปี 2560 โดยทีวีซีน และถูกเขียนเป็นนวนิยายแบบรูปเล่มไปพร้อมๆกัน เพิ่งจะวางขายแบบ pre-sale ก่อนเปิดตัวในงานสัปดาห์หนังสือที่กำลังจะถึง ให้น้ำหนักในการเดินเรื่องในโทนโรแมนติก-ดราม่า แบบนิยายครอบครัว บทคอมเมดี้จะมาเป็นสถานการณ์และคาแรคเตอร์ของพระเอกที่จะทำให้คนอมยิ้มได้ แต่ไม่ใช่ละครคอมเมดี้จ๋าอย่างที่ชื่อเรื่องทำให้คิดเป็นอย่างนั้นเลย เดาว่าบทละครโทรทัศน์ที่คุณเอกลิขิตเขียนเองด้วยคงจะปรับให้มีความคอมเมดี้มากกว่าในตัวนิยายค่ะ
ในเมื่อนิยายเพิ่งจะวางขายแบบ pre-sale เลยยังไม่ขอสปอยด์เนื้อเรื่องมากนะคะ
เรื่องย่อสั้นๆจากปกหลัง:
ลุงเต็ง พิชิตศึก: ครีเอทีฟหนุ่มไฟแรง เจ้าของรายการสารคดีสั้น 1 นาที ที่ตั้งท่าจะเจ๊งอยู่รอมร่อ เป็นผู้ชายอ่อนโยน อบอุ่น มีความรับผิดชอบ รักใครรักจริง รักแล้วแสดงออกเลย ไม่เก็บเอาไว้ อารมณ์ดี ชอบยิงมุขฝืดๆ ชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุข จนบางครั้งเล่นใหญ่โอเวอร์แอคติ้งเป็นประจำ
อาชิดดาว : พี่เลี้ยงเด็กที่เนิร์สเซอร์รี่ จบพยาบาลมา เป็นผู้หญิงอ่อนโยน เส้นตื้น หัวเราะง่าย จิตใจดี เซนซิทีฟมาก อารมณ์อ่อนไหวร้องไห้เก่ง และชอบหนีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหัวใจ จึงไม่กล้าตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาด
กาโม่: เด็กชายตัวเล็กๆที่ถูกพ่อกับแม่ฝากลุงเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เกิด พ่อก็ยุ่งเรื่องกลับไปเรียนปริญญาโทให้จบ ลุงก็ไม่ค่อยว่างเพราะงานถ่ายรายการที่รัดตัว อาชิดดาวจึงเป็นเหมือนนางฟ้าขี่ม้าขาวมาช่วยลุงกับหลานเอาไว้ กาโม่โตมาเป็นเด็กร่าเริง แต่ก็อารมณ์อ่อนไหวง่าย เป็นยอดมนุษย์ตัวน้อยๆของลุงเต็ง กลัวที่สุด คือ กลัวลุงเต็งไม่รัก โลกทั้งใบของกาโม่ คือ ลุงเต็งซึ่งเป็นฮีโร่ของเขา
โป๊บ ธนวรรธน์ + มิว นิษฐา : ณ ตอนนี้ กับบทคาแรคเตอร์อบอุ่นแบบที่ต้องอาศัยเคมีที่เกื้อหนุนกันมาก ไม่มีใครเหมาะสมกับบทลุงเต็งและอาชิดดาวได้เท่าโป๊บ-มิวอีกแล้ว ทั้งวัยที่เหมาะ และวิธีการแสดงที่สามารถเล่นดราม่าได้หลายระดับ ไม่แปลกใจเลยที่ช่องเคาะทั้ง 2 คนมาให้อาปิ่น แถมพออ่านบท ทั้งคู่ก็ยอมรับเล่นด้วยกันในรอบ 3 ปี
2 บทนี้ต้องการการเติบโตขึ้นทั้งวิธีคิดและอินเนอร์จาก 2 เรื่องที่เคยเล่นด้วยกันอย่าง คุณชายปวรรุจและรักออกฤทธิ์มาก บทที่ขยี้อารมณ์ดราม่าทั้งในพาร์ท ลุง-อา-หลาน และ พาร์ทพระเอก-นางเอก เป็นละครที่ทั้ง 3 ตัวละครต้องพาคนดูทั้งหัวเราะ อมยิ้มและร้องไห้ไปพร้อมๆกันแน่
เคมีคู่ขวัญที่เข้ากันคงจะนำพาให้คนดูอินและเอาใจช่วยความสัมพันธ์ที่เหมือนจะราบรื่น แต่โรยด้วยหนามกุหลาบอย่างแหลมคมตั้งแต่เริ่มเรื่องไปจนจบได้ไม่ยากเลย กระดูกชิ้นโตที่บ่อนทำลายความสัมพันธ์มีทั้งรูปแบบมดแดงแฝงมะม่วง /หมาหวงก้าง และ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ความสัมพันธ์ของลุงเต็งกับอาดาวจึงยืดเยื้อนับเลขเพิ่มไปตามอายุของกาโม่ เป็นคาแรคเตอร์พระ-นาง ที่มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามความรับผิดชอบรอบตัว อ่านนิยายไป เห็นเป็นหน้าโป๊บมิวลอยมาเลย
แคสกาโม่มีหลายช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด /8 เดือน/ 1 ขวบ/ 2-3 ขวบ แต่ช่วงที่น้องรถบัสเล่น คือ ช่วงกาโม่ 5-6 ขวบ จะเป็นเมนหลักของเรื่อง มีหลากหลายอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า เพราะเด็ก คือ ผ้าขาวจริงๆ ผู้ใหญ่จะแต้มสีอะไร เขาก็พร้อมจะโอนอ่อนไปตามนั้น ยิ่งเล่นกับเรื่องหัวใจ เรื่องความรักต่อบุคคลอันเป็นที่รักของเด็กด้วยแล้ว เพียงป้ายสีเทาใส่ เด็กก็พร้อมจะทำให้มันเข้มข้นเป็นสีดำได้ไม่ยาก ถ้ารถบัสถ่ายทอดได้ถึงอารมณ์ ซึ่งเชื่อว่าน้องน่าจะทำได้ บทนี้คงขโมยหัวใจคนดูไปเต็มๆ
นอกจากละครจะทำให้เห็นพัฒนาการในการเลี้ยงเด็กในแต่ละช่วงวัยแล้ว ยังเห็นการแก้ปัญหาของคนที่เป็นพ่อแม่ในวัยที่ไม่พร้อมอีกด้วย สุดท้ายคงไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่า คำว่า "ครอบครัว" ถ้ามีครอบครัวช่วยเป็นแรงสนับสนุนและแก้ปัญหา ทุกอย่างก็จะมีทางออกที่กระทบจิตใจเด็กน้อยที่สุด ส่วนตัวละครอื่นๆที่รายล้อมลุงเต็ง อาชิดดาว และกาโม่ มีผลต่อความสัมพันธ์ของ 3 คนนี้หมดเลยค่ะ ไม่ขอพูดถึงมาก เพราะเดี๋ยวจะสปอยล์ซะหมด 5555 เห็นว่าเรื่องนี้คงจะถ่ายทำไม่นาน ปลายๆปีอาจจะทันได้ดูกันก็ได้ค่ะ
ขอแท็ก "พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง" ด้วยค่ะ ขอกันไปหลายกระทู้แล้วนะคะ ทีมงานไม่ทำให้สักที