ผมคิดต่างเลยนะครับ เรื่องมันจบไปแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว ไม่เหมาะจะเอามาพูดให้กระทบจิตใจทั้งคนเก่าและคนปัจจุบัน ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ใคร ควรปล่อยเรื่องราวทุกอย่างให้เป็นอาหารของกาลเวลาจะดีกว่า

ก็แฟร์ๆดี ได้พูดทั้งสองฝ่าย ส่วนใครจะเลือกเชื่ออย่างใหนนั้น
ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตัวเขาเอง

ตั้งข้อสังเกตุนิดนึง
บอกไม่ได้คบซ้อน ตอนนั้นคนนี้เป็นแค่เพื่อน แต่ต่อมาสถานะเปลี่ยน
อืม......เธอเป็นฝ่ายให้สร้อยผู้ชายก่อนนะ ทำให้ผู้ชายเข้าใจผิดว่าทอดสะพาน
เลยหันมาจีบ ถ้าเธอไม่มีใจจริงๆ ทำใมไม่ปฏิเสธแล้วแก้ความเข้าใจเสียใหม่
แต่นี่ตามน้ำเลย?

พูดเหมือนทนพฤติกรรมบางอย่างของคนเก่าไม่ได้จึงขอเลิก
ถ้างั้นทำใมไม่บอกไปตรงๆ ไปอ้างเรื่องไม่มีเวลาต้องทำธีสิสทำใม
แล้วยังการที่ออกมาบอกเลิกฝ่ายชายผ่านสื่อนี่อีก มันตบหน้ากลางสี่แยกชัดๆ
ต้องเกลียดกันขนาดใหนถึงทำกันแบบนี้ได้

คนเรา มันเบื่อ มันหมดรักได้ มันไปกันไม่ได้ก็จบกันไป จะไปทนทำใม
แต่ควรพูดความจริง ไม่ใช่มาอ้างโน่นอ้างนี่

ขอบคุณที่เอามาฝากค่ะ เพิ่งได้ดู

ทำไมบางคนถึงคิดว่านุ้ยพูดแล้วผิดล่ะคะ ในเมื่อผู้ชายเป็นฝ่ายพูดก่อน รายการเดียวกันเลยด้วย  เพราะฉะนั้นผู้หญิงก็น่าจะพูดได้เหมือนกัน แฟร์ๆ

เข้าใจที่นุ้ยพูด ความรักของคนโตๆกันแล้วมันไม่ได้เหมือนรักวัยรุ่นในละครที่แค่ความรักของคนสองคนจะทำให้ผ่านไปได้ทุกอย่าง เลิกกันต้องมีมือที่สามหรือเพราะรักกันไม่มากพอเสมอไป (คนที่สามอาจจะมาหลังจากตัดสินใจไปแล้วก็ได้)  คือจริงว่าบางครั้งมันก็เลิกกันเพราะเหตุผลแบบนั้น แต่หลายๆครั้งมันก็ซับซ้อนกว่านั้น เพราะคนมันต้องอยู่ในสังคมและแต่ละคนก็มีเป้าหมายชีวิตมีความต้องการเป็นของตัวเอง ไม่ใช่อยู่ในป่าแล้วใช้ชีวิตแบบแค่มีกันและกันแค่สองคนไม่ต้องแคร์สิ่งอื่นซะที่ไหน  เรื่องแบบนี้คนที่ไม่เข้าใจมันก็ไม่มีวันเเข้าใจ

ผู้หญิงคนนี้แปลกๆตั้งแต่ตอนออกมาพูดเรื่องสามีแล้ว
ตอนนี้ยังออกมาพูดถึงคนรักเก่าอีก สิ่งที่ผ่านมาแล้วเป็นยังไงคนรู้ดีที่สุดคือคุณเอง
บางเรื่องไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้ แล้วมันคืออดีต คือสิ่งที่จบไปแล้วไม่คิดถึงจิตใจคนอยู่ด้วยกันเลย

แปลกดีที่อยู่ๆก็ขุดขึ้นมา จะรู้ตัวไหมว่าการออกมาพูดแบบนี้บางคนเค้ามองว่าเหมือนประจานตัวเองมากกว่า