กรณีฟิล์มสีกลายสภาพเป็นฝุ่นผง (Chalking) นั้น  มักจะพบกับงานสีภายนอกเป็นส่วนใหญ่  แต่ในกรณีของ จขกท.เป็นงานผนังภายใน อายุสีก็เพียงประมาณ 2 ปี และที่ยังไม่ได้เข้าอยู่อาศัยนั้น  หากมั่นใจว่าฝุ่นที่ว่าคือฝุ่นสีจากผนัง (ใช้ฝ่ามือขัดถูดู จะติดฝุ่นสีขึ้นมา)  คงเกิดจากทางผู้ประกอบการได้เลือกใช้สีคุณภาพต่ำเอามากๆ หรืออาจจมีการผสมผงยิบซั่มเข้าไปในเนื้อสี รวมทั้งอาจจะทาสีขณะที่ผนังปูนยังไม่แห้งสนิทดีพอร่วมด้วย

    

     >>  ก่อนจะดำเนินการทาสีซ่อมแซมควรขัดลูบฟิล์มสีเดิมด้วยกระดาษทรายละเอียด (#240 - #280) ก่อน  แล้วทำการเช็ดถูคราบฝุ่นออกก่อนเท่าที่จะพอกระทำได้ (หากเป็นผนังภายนอกแนะนำเป็นการขัดล้างด้วยแปรงกับน้ำสะอาดหรือเลือกใช้ฉีดล้างด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ส่วนเป็นงานผนังภายในก็ใช้การเช็ดถูแทน)  ทิ้งให้ผนังแห้งสนิทกรณีขัดล้าง / ฉีดล้างก็อย่างน้อย 1 วัน หากเป็นการเช็ดถูก็อย่างน้อย 3-4 ชม.  แล้วควรทารองพื้นก่อนด้วย "น้ำยารองพื้นปูนทับสีเก่า" หรือที่เรียกกันจนย่อเป็น "สีรองพื้นปูนเก่า"  โดยทั่วๆไปจะเป็นสูตรน้ำมัน ฟิล์มสีใส กลิ่นแรง แห้งช้า แต่มีประสิทธิภาพดีในการแทรกซึมเข้าไปฟื้นฟูสภาพฟิล์มสีเก่า และยังแทรกซึมผ่านฟิล์มสีเก่าเข้าไปในเนื้อปูน(ผนัง)เสริมการยึดเกาะของฟิล์มสีเดิมให้แข็งแรงขึ้นด้วย อาทิ  
     TOA  :  Contact Primer หรือ  4 Seasons  :  Super Primer
     ICI  :  Dulux Maseal หรือ
     Jotun  :  Cito Primer 09  
                        

     >>  กรณีเข้าอยู่อาศัยแล้ว แนะนำเปลี่ยนมาใช้เป็น "สูตรน้ำ" แทน แล้วจึงค่อยทาสีทับหน้าใหม่ด้วย "สีน้ำอะครีลิค ชนิดภายใน" ด้วยเฉดที่ชอบอีก 2 ครั้ง (ควรใช้สีรองพื้นและสีทับหน้าเป็นยี่ห้อเดียวกัน)  อาทิ  
     TOA  :  Supershield Duraclean Primer
      ICI  :  Dulux Eco Primer  หรือ
     Nippon Paint  :  Aqua Sealer  เป็นต้น  
                            

หมายเหตุ :  กรณีผนังห้องนอนชั้นบนที่จะเปลี่ยนมาบุด้วย Wall Paper นั้น  ก็ควรทำการเตรียมพื้นผิวและทาสีรองพื้นตามที่เกริ่นข้างต้นก่อนเสมอ