พล.อ.กะสิณ ทองโกมล (ตท.13) หรือ เสธ.ตุ้ย ผู้ยึดมั่นในพระพุทธศาสนาเขียนลงในเฟซบุ๊ก Kasin Thongkomol เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 หลังจากมีผู้ส่งเรื่องจาก นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยมาให้อ่าน เชื่อว่านายกรณ์เป็นศิษย์รุ่นหลังธรรมกายจึงไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำให้เสธ.ตุ้ยนำประสบการณ์ของตนกับธรรมกายมาเปิดเผยให้รับทราบในวงกว้าง ดังนี้....
ตามที่ได้ส่งเรื่องที่นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยลงวันที่ 15 มี.ค. 60 มาให้อ่านนั้น วิเคราะห์ได้ว่า นายกรณ์น่าจะเป็นศิษย์รุ่นหลังของธรรมกาย จึงไม่เคยรู้เรื่องความชั่วร้ายของวัด รู้แต่เปลือก ตามที่วัดจะต้องการให้รู้
●เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่ตัวผมประสพมาด้วยตนเองและสามารถไปให้การที่ศาลไหนก็ได้ถ้ามีคนฟ้อง
หลังจากที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ซึ่งเป็นพระอาจารย์สอนปฏิบัติให้ผม (ทั้งก่อนบวชและหลังบวช)มรณะภาพ ผมก็รู้สึกจิตใจเคว้งคว้างไม่มีครูบาอาจารย์อบรม พอดีมีเพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์เป็นอาจารย์สอนคณะวิทยาศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์ ทั้งบ้านเขา (พ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย มีหลานชายคนเดียว ธัมมชโย ก็ขอให้บวชตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นเณร) นับถือพระที่วัดธรรมกาย
พอเขาชวนก็เลยไปลองดู เคยเข้าไปปฏิบัติในวัดนี้หลายปี สิ่งที่ได้พบคือ ตอนแรกก็คิดว่าดี แต่อยู่ไปๆก็พบแต่การโกหกพกลมหลอกลวงเพื่อที่จะได้เงินเท่านั้น จะเล่าให้ฟังแค่เรื่องใหญ่ๆและที่เจอด้วยตัวเองเท่านั้นนะครับ
คำสอนของพระพุทธเจ้าถูกแปลงและอวดอ้างตนเองหลายๆเรื่อง
เจอธัมมชโยครั้งแรกๆ คุยกันก็บอกว่าพระพุทธรูปที่ชวนทำบุญองค์ละ10,000บาท (ซึ่งต้นทุนน่าจะไม่ถึงพันบาท ผมทำไป 2 องค์ให้แม่ที่กำลังป่วยและตัวเอง) จะนำไปประดิษฐานในเจดีย์ที่กำลังขอให้นาซ่าดำเนินการวิเคราะห์หาวัสดุที่มีความคงทนเหมือนยานอวกาศเพื่อที่เจดีย์จะอยู่ได้เป็น 1,000 ปี ซึ่งตอนนั้นผมก็เอะใจ คิดเหมือนกันว่านาซ่าจะมาทำอะไรแบบนี้หรือ แต่ความที่ไม่เคยเจอพระโกหกแบบนี้ โกหกแบบออกอากาศ พูดกับทุกคนเป็นสิบๆ ปี แล้วเพิ่งจะมาบอกเมื่อไม่นานนี้ว่านาซ่าปฏิเสธว่าไม่สามารถคิดค้นโลหะที่ว่านั่นได้ หลังจากโกหกมาประมาณเกือบ 20 ปี ได้เงินไปไม่รู้กี่พันล้าน
•เรื่องต่อมาคือธัมมชโยยืนยันอาตมาว่าจะไม่ทำพุทธพาณิชย์ ที่ใช้คำว่ายืนยันก็เพราะถามเขาหลายครั้ง (ผมไม่ค่อยเชื่อ) ต่อมามีการนำพระที่ตั้งชื่อที่มีความหมายไปในทางทำให้ร่ำรวยมากๆและเร็ว(อะไรทำนองนี้) โดยบอกว่าทำจากสะเก็ดดาวตกจะมีคุณสมบัติพิเศษ นำมาขายให้ลูกศิษย์องค์ละ 10,000 15,000 และ 20,000บาท แล้วแต่ใครอยากได้รุ่นไหน
ผมก็เลยพูดกับเพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์ จำได้ไหมที่ธัมมชโยพูดกับพวกเราว่าจะไม่ทำพุทธพาณิชย์ นี่คือการทำพุทธพาณิชย์ เพราะไม่งั้นก็เอาพระมาตั้ง แล้วเอากล่องมาใส่เงินสิ ใครอยากได้องค์ไหนก็หยิบเอา แล้วใส่เงินตามใจชอบ อยากให้สิบบาท ยี่สิบบาท ร้อยบาทก็ตามใจคนให้ ถึงจะไม่เป็นพุทธพาณิชย์
รู้ไหมว่า เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมเข้าไปในตลาดท่าพระจันทร์ เจอพระลักษณะเป็นองค์สีเหลือบๆ มันๆวาวๆ วางอยู่กับพื้นในลัง 2-3 ลัง พอผมมองแค่นั้นแหละ เจ้าของมองตามแล้วบอกว่า อ๋อ นั่นพระที่เหลือจากวัดธรรมกายมาจ้างทำองค์ละ 350 บาทครับ ●ขอเน้น วัดธรรมกายมาจ้างทำ องค์ละสามร้อยห้าสิบบาท●
โอ้โฮ พระจ้างเขาทำองค์ละ 350 บาท แล้วไปขายองค์ละหมื่น หมื่นห้า สองหมื่น โกหกด้วยว่าทำจากสะเก็ดดาวตก มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหนือธรรมดา
ถามว่าวัดแบบนี้พระแบบนี้เคารพนับถือได้หรือ ควรเป็นวัด ควรเป็นพระหรือ
ยัง ยังไม่หมด แค่เรื่องใหญ่ๆก็ยังมีเยอะ เรื่องยิบย่อยอย่างไปบังคับชาวนาชาวบ้านใกล้วัดขายที่ให้ ไม่ขายก็เอาคนไปขู่ ไปทำร้าย กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
•เรื่องอวดอุตริ ชักชวนคนมาทำบุญในวันอาทิตย์ต้นเดือน บอกว่าจะพาไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อถวายภัตตาหาร เอาอีกแล้ว ทำให้ใจเรากังขาอีกแล้ว ธัมมชโยเป็นใคร มาประกาศว่าจะพาคนเป็นพันเป็นหมื่นไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เอ๊ะ พระพุทธเจ้าท่านนิพพานแล้วท่านยังจะฉันอาหารอีกหรือ ใจก็คิดไปเรื่อย คำตอบที่ครูบาอาจารย์เคยบอกว่าเมื่อเกิดปัญญาแล้ว จิตมันก็จะถามเองตอบเอง มันบอกว่า
อ๋อ ที่ธัมมชโยบอกว่าวันอาทิตย์ต้นเดือนอย่าขาดนะ ให้มาทำบุญที่วัดธรรมกายก็เพราะว่า วันอาทิตย์เป็นวันหยุด มาวัดสะดวกและต้นเดือนก็ยังมีเงินเดือนเหลือเยอะนี่เอง
แต่จะมีใครบ้างที่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามที่ธัมมชโยอวดอ้าง ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน
•เรื่องสุดท้ายที่ทำให้ผมกับเพื่อนเลิกคบกัน คือ เพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์อาจารย์สอนคณะวิทยาศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์นี่แหละ มาคุยด้วยแบบตื่นเต้นมากๆว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลวงพ่อ(เขาหมายถึงหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ) แสดงอภินิหารปรากฏองค์ลอยอยู่บนท้องฟ้าให้คนที่อยู่ในวัดทุกคนเห็นเป็นเวลานานประมาณครึ่งชั่วโมง
ผมพูดกับเขาว่า เฮ้ย นายเป็นด็อกเตอร์อย่าโง่สิ ถ้าเห็นเป็นบางคน คนนั้นเห็นบ้าง คนนี้เห็นบ้าง คนนี้เห็นนาน คนนั้นเห็นแป๊บเดียว เราจะเชื่อ แต่นี่เห็นเหมือนกันทุกคนเราไม่เชื่อหรอก มันก็ทำเหมือนจอหนัง ฉายแสงขึ้นมาให้คนดู คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อ โอ้โฮ เพื่อนมันโกรธซะ ไม่รู้จะบอกว่ายังไง หลังจากนั้นก็เลิกคุยเลิกติดต่อกันไปเลย จากที่รักและสนิทกันมาก
พอแล้วนะ นี่เอาแค่เรื่องใหญ่ๆเท่านั้น มีปลีกย่อยเรื่องแปลงคำสอนพระพุทธเจ้า โกหกพกลมเอาแต่เงิน เอาแต่ผลประโยชน์อีกเยอะ วัดที่ไหนมีเงินเป็นแสนล้านยังไปรุกป่าเอาที่หลวง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่า ทำไมคนยังหลงเชื่อ!!!!!
อ้อ ถ้าจะช่วยส่งต่อเพื่อให้คนอื่นหูตาสว่าง ก็บอกชื่อจริงของผมได้นะครับ
พล.อ.กะสิณ ทองโกมล
มือถือ 061-778-9651
https://www.facebook.com/kasinthongkomol/posts/1873120082929223
ที่มา :
http://www.thaitribune.org
พล.อ.กะสิณ ทองโกมล เขียนถึงประสบการณ์กับธัมมชโย“คำสอนพระพุทธเจ้าถูกแปลงและอวดอ้างตนเอง”
ตามที่ได้ส่งเรื่องที่นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยลงวันที่ 15 มี.ค. 60 มาให้อ่านนั้น วิเคราะห์ได้ว่า นายกรณ์น่าจะเป็นศิษย์รุ่นหลังของธรรมกาย จึงไม่เคยรู้เรื่องความชั่วร้ายของวัด รู้แต่เปลือก ตามที่วัดจะต้องการให้รู้
●เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่ตัวผมประสพมาด้วยตนเองและสามารถไปให้การที่ศาลไหนก็ได้ถ้ามีคนฟ้อง
หลังจากที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ซึ่งเป็นพระอาจารย์สอนปฏิบัติให้ผม (ทั้งก่อนบวชและหลังบวช)มรณะภาพ ผมก็รู้สึกจิตใจเคว้งคว้างไม่มีครูบาอาจารย์อบรม พอดีมีเพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์เป็นอาจารย์สอนคณะวิทยาศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์ ทั้งบ้านเขา (พ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย มีหลานชายคนเดียว ธัมมชโย ก็ขอให้บวชตลอดชีวิตตั้งแต่เป็นเณร) นับถือพระที่วัดธรรมกาย
พอเขาชวนก็เลยไปลองดู เคยเข้าไปปฏิบัติในวัดนี้หลายปี สิ่งที่ได้พบคือ ตอนแรกก็คิดว่าดี แต่อยู่ไปๆก็พบแต่การโกหกพกลมหลอกลวงเพื่อที่จะได้เงินเท่านั้น จะเล่าให้ฟังแค่เรื่องใหญ่ๆและที่เจอด้วยตัวเองเท่านั้นนะครับ
คำสอนของพระพุทธเจ้าถูกแปลงและอวดอ้างตนเองหลายๆเรื่อง
เจอธัมมชโยครั้งแรกๆ คุยกันก็บอกว่าพระพุทธรูปที่ชวนทำบุญองค์ละ10,000บาท (ซึ่งต้นทุนน่าจะไม่ถึงพันบาท ผมทำไป 2 องค์ให้แม่ที่กำลังป่วยและตัวเอง) จะนำไปประดิษฐานในเจดีย์ที่กำลังขอให้นาซ่าดำเนินการวิเคราะห์หาวัสดุที่มีความคงทนเหมือนยานอวกาศเพื่อที่เจดีย์จะอยู่ได้เป็น 1,000 ปี ซึ่งตอนนั้นผมก็เอะใจ คิดเหมือนกันว่านาซ่าจะมาทำอะไรแบบนี้หรือ แต่ความที่ไม่เคยเจอพระโกหกแบบนี้ โกหกแบบออกอากาศ พูดกับทุกคนเป็นสิบๆ ปี แล้วเพิ่งจะมาบอกเมื่อไม่นานนี้ว่านาซ่าปฏิเสธว่าไม่สามารถคิดค้นโลหะที่ว่านั่นได้ หลังจากโกหกมาประมาณเกือบ 20 ปี ได้เงินไปไม่รู้กี่พันล้าน
•เรื่องต่อมาคือธัมมชโยยืนยันอาตมาว่าจะไม่ทำพุทธพาณิชย์ ที่ใช้คำว่ายืนยันก็เพราะถามเขาหลายครั้ง (ผมไม่ค่อยเชื่อ) ต่อมามีการนำพระที่ตั้งชื่อที่มีความหมายไปในทางทำให้ร่ำรวยมากๆและเร็ว(อะไรทำนองนี้) โดยบอกว่าทำจากสะเก็ดดาวตกจะมีคุณสมบัติพิเศษ นำมาขายให้ลูกศิษย์องค์ละ 10,000 15,000 และ 20,000บาท แล้วแต่ใครอยากได้รุ่นไหน
ผมก็เลยพูดกับเพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์ จำได้ไหมที่ธัมมชโยพูดกับพวกเราว่าจะไม่ทำพุทธพาณิชย์ นี่คือการทำพุทธพาณิชย์ เพราะไม่งั้นก็เอาพระมาตั้ง แล้วเอากล่องมาใส่เงินสิ ใครอยากได้องค์ไหนก็หยิบเอา แล้วใส่เงินตามใจชอบ อยากให้สิบบาท ยี่สิบบาท ร้อยบาทก็ตามใจคนให้ ถึงจะไม่เป็นพุทธพาณิชย์
รู้ไหมว่า เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผมเข้าไปในตลาดท่าพระจันทร์ เจอพระลักษณะเป็นองค์สีเหลือบๆ มันๆวาวๆ วางอยู่กับพื้นในลัง 2-3 ลัง พอผมมองแค่นั้นแหละ เจ้าของมองตามแล้วบอกว่า อ๋อ นั่นพระที่เหลือจากวัดธรรมกายมาจ้างทำองค์ละ 350 บาทครับ ●ขอเน้น วัดธรรมกายมาจ้างทำ องค์ละสามร้อยห้าสิบบาท●
โอ้โฮ พระจ้างเขาทำองค์ละ 350 บาท แล้วไปขายองค์ละหมื่น หมื่นห้า สองหมื่น โกหกด้วยว่าทำจากสะเก็ดดาวตก มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหนือธรรมดา
ถามว่าวัดแบบนี้พระแบบนี้เคารพนับถือได้หรือ ควรเป็นวัด ควรเป็นพระหรือ
ยัง ยังไม่หมด แค่เรื่องใหญ่ๆก็ยังมีเยอะ เรื่องยิบย่อยอย่างไปบังคับชาวนาชาวบ้านใกล้วัดขายที่ให้ ไม่ขายก็เอาคนไปขู่ ไปทำร้าย กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
•เรื่องอวดอุตริ ชักชวนคนมาทำบุญในวันอาทิตย์ต้นเดือน บอกว่าจะพาไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อถวายภัตตาหาร เอาอีกแล้ว ทำให้ใจเรากังขาอีกแล้ว ธัมมชโยเป็นใคร มาประกาศว่าจะพาคนเป็นพันเป็นหมื่นไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เอ๊ะ พระพุทธเจ้าท่านนิพพานแล้วท่านยังจะฉันอาหารอีกหรือ ใจก็คิดไปเรื่อย คำตอบที่ครูบาอาจารย์เคยบอกว่าเมื่อเกิดปัญญาแล้ว จิตมันก็จะถามเองตอบเอง มันบอกว่า
อ๋อ ที่ธัมมชโยบอกว่าวันอาทิตย์ต้นเดือนอย่าขาดนะ ให้มาทำบุญที่วัดธรรมกายก็เพราะว่า วันอาทิตย์เป็นวันหยุด มาวัดสะดวกและต้นเดือนก็ยังมีเงินเดือนเหลือเยอะนี่เอง
แต่จะมีใครบ้างที่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามที่ธัมมชโยอวดอ้าง ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน
•เรื่องสุดท้ายที่ทำให้ผมกับเพื่อนเลิกคบกัน คือ เพื่อนที่เป็นด็อกเตอร์อาจารย์สอนคณะวิทยาศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์นี่แหละ มาคุยด้วยแบบตื่นเต้นมากๆว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลวงพ่อ(เขาหมายถึงหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ) แสดงอภินิหารปรากฏองค์ลอยอยู่บนท้องฟ้าให้คนที่อยู่ในวัดทุกคนเห็นเป็นเวลานานประมาณครึ่งชั่วโมง
ผมพูดกับเขาว่า เฮ้ย นายเป็นด็อกเตอร์อย่าโง่สิ ถ้าเห็นเป็นบางคน คนนั้นเห็นบ้าง คนนี้เห็นบ้าง คนนี้เห็นนาน คนนั้นเห็นแป๊บเดียว เราจะเชื่อ แต่นี่เห็นเหมือนกันทุกคนเราไม่เชื่อหรอก มันก็ทำเหมือนจอหนัง ฉายแสงขึ้นมาให้คนดู คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อ โอ้โฮ เพื่อนมันโกรธซะ ไม่รู้จะบอกว่ายังไง หลังจากนั้นก็เลิกคุยเลิกติดต่อกันไปเลย จากที่รักและสนิทกันมาก
พอแล้วนะ นี่เอาแค่เรื่องใหญ่ๆเท่านั้น มีปลีกย่อยเรื่องแปลงคำสอนพระพุทธเจ้า โกหกพกลมเอาแต่เงิน เอาแต่ผลประโยชน์อีกเยอะ วัดที่ไหนมีเงินเป็นแสนล้านยังไปรุกป่าเอาที่หลวง ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่า ทำไมคนยังหลงเชื่อ!!!!!
อ้อ ถ้าจะช่วยส่งต่อเพื่อให้คนอื่นหูตาสว่าง ก็บอกชื่อจริงของผมได้นะครับ
พล.อ.กะสิณ ทองโกมล
มือถือ 061-778-9651
https://www.facebook.com/kasinthongkomol/posts/1873120082929223
ที่มา : http://www.thaitribune.org