The Passenger คู่โดยสารพันล้านไมล์
ความเหงา ความหวัง ความรัก และการมีชีวิต
ตอนแรกเราเข้าใจว่าหนังหนักไซไฟ เป็นการเดินทางท่องอวกาศ โดยมีความรัก ความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้คือหนังดราม่าโรแมนติกแทบจะ 100% ความไซไฟที่มีเป็นเพียงโลเคชันนอกโลกและเทคโนโลยีในเรื่องเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าจะผิดคาดจากที่คิดไว้ แต่เราชอบ ตกหลุมรักตัวละครและการเดินทางครั้งนี้ของหนังมากๆ
หนังเล่าถึงคนกลุ่มนึงที่เสนอตัวเป็นอาสาสมัครบุกเบิกไปเปิดดาวดวงใหม่ เส้นทางไกลนับร้อยปี ดังนั้นกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มนี้จึงต้องมีการนอนหลับอยู่ในเครื่องจำศีล และจะตื่นมาตอนที่ถึงดาวดวงใหม่ในอนาคตอีกร้องปีข้างหน้า แต่ด้วยเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้เครื่องจำศีลของตัวเอกดันเปิดออกมาก่อนจะถึงเวลาที่ควร ทำให้เขาต้องใช้ชีวิต “ตัวคนเดียว” อยู่บนยานไฮเทคนี่ไปอีกนับร้อยปี
ประเด็นที่เราชอบมากๆ ในหนังคือการนำเสนอ “ความเหงา” ตัวเอกที่ตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง เขาใช้ชีวิตคนเดียวจริงๆ และจะไม่มีวันได้เจอใครอีกแน่ๆ ไปตลอดชีวิตของเขา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ในยานนี่จะมีอาหาร มีน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวก และมีอุปกรณ์สันทนาการสุดแสนล้ำยุคแทบจะครบทุกอย่างในการใช้ชีวิต แต่มนุษย์ดันเป็นสัตว์สังคม ตัวเอกของเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิตของเขาได้ ถึงแม้จะมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์พูดได้รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่คอยคุยเล่นอยู่ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว
มนุษย์ต้องการหัวใจ ต้องการความรู้สึก และต้องการสัมผัสจากความเป็นมนุษย์ของบุคคลข้างๆ เพื่อจุนเจือชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้
ยิ่งโลเคชันเป็นในอวกาศ ทุกครั้งที่กล้องแพนออกไปนอกยาน มันยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเวิ้งว้าง ความเหงา ความกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตาที่ไม่มีคนเคียงข้างมันแย่ และโดดเดี่ยวเอามากๆ ความรู้สึกว่างเปล่านี้มันถูกส่งต่อมาหาคนดูได้ และเราชอบสิ่งนี้ของหนังมากๆ
และยิ่งหนังบิ้วความรู้สึกเหงาในใจตรงนี้มากขึ้นเท่าไหร่ พอตัวเอกอีกคนโผล่มา มันกลายเป็นความรู้สึกในหัวใจที่พองโตขึ้นมากๆ เราดีใจที่ในที่สุดบนยานนี่ก็มีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง อารมณ์มันเปลี่ยนกลับจากความเศร้า ความสิ้นหวังที่ตอนแรกมีอยู่มากโข การที่มีคนตื่นขึ้นมาเพิ่มอีกคนไม่ได้ทำให้ความสิ้นหวังในการลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนี้หายไปก็จริง แต่อย่างน้อยความรู้สึกโดดเดี่ยวมันได้มลายหายไปกว่าครึ่ง เมื่อเรารับรู้ว่ามีความเป็นมนุษย์อีกคนที่อยู่เคียงข้าง คอยประคับประคองจิตใจกันและกันให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออีกฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกันได้ไม่ยาก
หนังสนุก เล่าเรื่องเก่ง ฉับไว และไม่น่าเบื่อ ดึงเอากลิ่นอายองความเหงาและความรักออกมาได้ชัดเจนและทำให้คนดูรู้สึกได้ ในตอนท้ายของเรื่องมีความตื่นเต้น ซึ่งเราว่าหนังทำออกมาได้ดี ถ้าได้ดูแบบไม่รู้อะไร ไม่ได้คาดหวังอะไร ยังไงก็สนุก
เราตกหลุมรักเจนิเฟอร์ ลอว์เลนซ์มากๆ ในเรื่องนี้เธอสวย มีเสน่ห์ และน่ามองในทุกอิริยาบท ซีนว่ายน้ำในตัวอย่างหนังเป็นซีนนึงที่ทำให้เราอยากดูเรื่องนี้มากๆ และซีนนั้นในหนังก็สมบูรณ์แบบสมการรอคอย งานภาพสวยมาก ซีนอวกาศคือดีและตราตรึงใจ ชอบธีมที่เล่นกับความไฮเทค ความอวกาศ มันเอามาผูกกับความเหงาของเรื่องได้ดี
9/10
The Passenger คู่โดยสารพันล้านไมล์
ความเหงา ความหวัง ความรัก และการมีชีวิต
ตอนแรกเราเข้าใจว่าหนังหนักไซไฟ เป็นการเดินทางท่องอวกาศ โดยมีความรัก ความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้คือหนังดราม่าโรแมนติกแทบจะ 100% ความไซไฟที่มีเป็นเพียงโลเคชันนอกโลกและเทคโนโลยีในเรื่องเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าจะผิดคาดจากที่คิดไว้ แต่เราชอบ ตกหลุมรักตัวละครและการเดินทางครั้งนี้ของหนังมากๆ
หนังเล่าถึงคนกลุ่มนึงที่เสนอตัวเป็นอาสาสมัครบุกเบิกไปเปิดดาวดวงใหม่ เส้นทางไกลนับร้อยปี ดังนั้นกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มนี้จึงต้องมีการนอนหลับอยู่ในเครื่องจำศีล และจะตื่นมาตอนที่ถึงดาวดวงใหม่ในอนาคตอีกร้องปีข้างหน้า แต่ด้วยเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้เครื่องจำศีลของตัวเอกดันเปิดออกมาก่อนจะถึงเวลาที่ควร ทำให้เขาต้องใช้ชีวิต “ตัวคนเดียว” อยู่บนยานไฮเทคนี่ไปอีกนับร้อยปี
ประเด็นที่เราชอบมากๆ ในหนังคือการนำเสนอ “ความเหงา” ตัวเอกที่ตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง เขาใช้ชีวิตคนเดียวจริงๆ และจะไม่มีวันได้เจอใครอีกแน่ๆ ไปตลอดชีวิตของเขา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ในยานนี่จะมีอาหาร มีน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวก และมีอุปกรณ์สันทนาการสุดแสนล้ำยุคแทบจะครบทุกอย่างในการใช้ชีวิต แต่มนุษย์ดันเป็นสัตว์สังคม ตัวเอกของเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิตของเขาได้ ถึงแม้จะมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์พูดได้รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่คอยคุยเล่นอยู่ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว
มนุษย์ต้องการหัวใจ ต้องการความรู้สึก และต้องการสัมผัสจากความเป็นมนุษย์ของบุคคลข้างๆ เพื่อจุนเจือชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้
ยิ่งโลเคชันเป็นในอวกาศ ทุกครั้งที่กล้องแพนออกไปนอกยาน มันยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเวิ้งว้าง ความเหงา ความกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตาที่ไม่มีคนเคียงข้างมันแย่ และโดดเดี่ยวเอามากๆ ความรู้สึกว่างเปล่านี้มันถูกส่งต่อมาหาคนดูได้ และเราชอบสิ่งนี้ของหนังมากๆ
และยิ่งหนังบิ้วความรู้สึกเหงาในใจตรงนี้มากขึ้นเท่าไหร่ พอตัวเอกอีกคนโผล่มา มันกลายเป็นความรู้สึกในหัวใจที่พองโตขึ้นมากๆ เราดีใจที่ในที่สุดบนยานนี่ก็มีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง อารมณ์มันเปลี่ยนกลับจากความเศร้า ความสิ้นหวังที่ตอนแรกมีอยู่มากโข การที่มีคนตื่นขึ้นมาเพิ่มอีกคนไม่ได้ทำให้ความสิ้นหวังในการลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนี้หายไปก็จริง แต่อย่างน้อยความรู้สึกโดดเดี่ยวมันได้มลายหายไปกว่าครึ่ง เมื่อเรารับรู้ว่ามีความเป็นมนุษย์อีกคนที่อยู่เคียงข้าง คอยประคับประคองจิตใจกันและกันให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออีกฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกันได้ไม่ยาก
หนังสนุก เล่าเรื่องเก่ง ฉับไว และไม่น่าเบื่อ ดึงเอากลิ่นอายองความเหงาและความรักออกมาได้ชัดเจนและทำให้คนดูรู้สึกได้ ในตอนท้ายของเรื่องมีความตื่นเต้น ซึ่งเราว่าหนังทำออกมาได้ดี ถ้าได้ดูแบบไม่รู้อะไร ไม่ได้คาดหวังอะไร ยังไงก็สนุก
เราตกหลุมรักเจนิเฟอร์ ลอว์เลนซ์มากๆ ในเรื่องนี้เธอสวย มีเสน่ห์ และน่ามองในทุกอิริยาบท ซีนว่ายน้ำในตัวอย่างหนังเป็นซีนนึงที่ทำให้เราอยากดูเรื่องนี้มากๆ และซีนนั้นในหนังก็สมบูรณ์แบบสมการรอคอย งานภาพสวยมาก ซีนอวกาศคือดีและตราตรึงใจ ชอบธีมที่เล่นกับความไฮเทค ความอวกาศ มันเอามาผูกกับความเหงาของเรื่องได้ดี
9/10
I Know You Have Good Taste
ช่องทางการติดตาม
Facebook:
https://www.facebook.com/justsointoeverything
Instagram:
https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
YouTube:
https://www.youtube.com/channel/UCLBONMLl_YH4eqOjBNuX0Lg
TikTok:
https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Blogger:
https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit:
https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
ดูจบแล้วมาคุยกัน
ตอนแรกเราไม่อินมากๆ ที่ตัวเอกพยายามทำลายเครื่องของตัวอีกอีกคนเพื่อปลุกเธอให้ตื่น ตนเองจะได้ไม่รู้สึกเหงาและว้าเหว่อีกต่อไป ที่สำคัญคือเขา “เลือก” คนที่อยากจะปลุกเป็นคนที่เขาอยากทำความรู้จักซะด้วย เรามองว่ามันผิด ไร้ซึ่งข้อแก้ตัวใดๆ สิ่งที่เขาทำคือการทำลายชีวิตของอีกคนที่ปลุกขึ้นมาไปทั้งชีวิต และเขาไม่มีสิทธิที่จะทำอย่างนั้น เราเป็นผู้หญิงเราคงโกรธจนอยากจะฆ่าเขาเลยด้วยซ้ำ แต่พอโตขึ้นและได้หยิบมาดูอีกที เรากลับรู้สึกเฉยๆ กับการกระทำนี้ ไม่ใช่ว่ามันไม่ผิด มันยังคงผิดอยู่เหมือนเดิมแบบเต็มประตู แต่สุดท้าย มาลองคิดจริงๆ แล้วตัวเอกก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง ถ้าเป็นเราอยู่ในจุดนั้นก็คงเลือกที่จะทำอะไรซักอย่างพึ่งให้ตัวเองหลุดพ้นจากความเดียวดายตรงนั้น การเลือกที่จะปลุกใครซักคนขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ร่วมเดินทางไปด้วยกันตลอดทั้งชีวิตคงไม่ใช่ทางเลือกที่ยากซักเท่าไหร่นัก ซึ่งหนังก็พยายามทำให้ความผิดตรงนี้ของตัวเอกดูลดลงด้วยการให้คนทั้งคู่เป็นคนปกป้องยานที่เสียหายเพื่อที่ผู้คนบนยานจะมีชีวิตรอดกันต่อไปดาวดวงใหม่ได้
ตอนจบเราชอบมากๆ สุดท้าย ยังไงคนทั้งคู่ก็ตื่นมาแล้ว จะให้แก้ไขเรื่องราวยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะเพื่อนคู่ชีวิตไปจนตายบนยานนั้นก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะเลือกได้ จุดนั้นเราไม่ได้มองว่าคนทั้งสองเป็นคู่รักกันอีกต่อไป ทั้งคู่เป็นเหมือนเพื่อนที่ใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างกันในวันที่อีกฝ่ายไม่เหลือใคร เป็นคนที่คอยค้ำจุน เกื้อหนุนให้อีกฝ่ายสามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างแท้จริง
[CR] Passengers ผู้โดยสารพันล้านไมล์ : อีกหนึ่งหนังที่น่ารักน่าชังซะจนอดเพ้อกับมันไม่ได้!
ความเหงา ความหวัง ความรัก และการมีชีวิต
ตอนแรกเราเข้าใจว่าหนังหนักไซไฟ เป็นการเดินทางท่องอวกาศ โดยมีความรัก ความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้คือหนังดราม่าโรแมนติกแทบจะ 100% ความไซไฟที่มีเป็นเพียงโลเคชันนอกโลกและเทคโนโลยีในเรื่องเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าจะผิดคาดจากที่คิดไว้ แต่เราชอบ ตกหลุมรักตัวละครและการเดินทางครั้งนี้ของหนังมากๆ
หนังเล่าถึงคนกลุ่มนึงที่เสนอตัวเป็นอาสาสมัครบุกเบิกไปเปิดดาวดวงใหม่ เส้นทางไกลนับร้อยปี ดังนั้นกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มนี้จึงต้องมีการนอนหลับอยู่ในเครื่องจำศีล และจะตื่นมาตอนที่ถึงดาวดวงใหม่ในอนาคตอีกร้องปีข้างหน้า แต่ด้วยเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้เครื่องจำศีลของตัวเอกดันเปิดออกมาก่อนจะถึงเวลาที่ควร ทำให้เขาต้องใช้ชีวิต “ตัวคนเดียว” อยู่บนยานไฮเทคนี่ไปอีกนับร้อยปี
ประเด็นที่เราชอบมากๆ ในหนังคือการนำเสนอ “ความเหงา” ตัวเอกที่ตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง เขาใช้ชีวิตคนเดียวจริงๆ และจะไม่มีวันได้เจอใครอีกแน่ๆ ไปตลอดชีวิตของเขา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ในยานนี่จะมีอาหาร มีน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวก และมีอุปกรณ์สันทนาการสุดแสนล้ำยุคแทบจะครบทุกอย่างในการใช้ชีวิต แต่มนุษย์ดันเป็นสัตว์สังคม ตัวเอกของเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิตของเขาได้ ถึงแม้จะมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์พูดได้รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่คอยคุยเล่นอยู่ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว
มนุษย์ต้องการหัวใจ ต้องการความรู้สึก และต้องการสัมผัสจากความเป็นมนุษย์ของบุคคลข้างๆ เพื่อจุนเจือชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้
ยิ่งโลเคชันเป็นในอวกาศ ทุกครั้งที่กล้องแพนออกไปนอกยาน มันยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเวิ้งว้าง ความเหงา ความกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตาที่ไม่มีคนเคียงข้างมันแย่ และโดดเดี่ยวเอามากๆ ความรู้สึกว่างเปล่านี้มันถูกส่งต่อมาหาคนดูได้ และเราชอบสิ่งนี้ของหนังมากๆ
และยิ่งหนังบิ้วความรู้สึกเหงาในใจตรงนี้มากขึ้นเท่าไหร่ พอตัวเอกอีกคนโผล่มา มันกลายเป็นความรู้สึกในหัวใจที่พองโตขึ้นมากๆ เราดีใจที่ในที่สุดบนยานนี่ก็มีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง อารมณ์มันเปลี่ยนกลับจากความเศร้า ความสิ้นหวังที่ตอนแรกมีอยู่มากโข การที่มีคนตื่นขึ้นมาเพิ่มอีกคนไม่ได้ทำให้ความสิ้นหวังในการลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนี้หายไปก็จริง แต่อย่างน้อยความรู้สึกโดดเดี่ยวมันได้มลายหายไปกว่าครึ่ง เมื่อเรารับรู้ว่ามีความเป็นมนุษย์อีกคนที่อยู่เคียงข้าง คอยประคับประคองจิตใจกันและกันให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออีกฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกันได้ไม่ยาก
หนังสนุก เล่าเรื่องเก่ง ฉับไว และไม่น่าเบื่อ ดึงเอากลิ่นอายองความเหงาและความรักออกมาได้ชัดเจนและทำให้คนดูรู้สึกได้ ในตอนท้ายของเรื่องมีความตื่นเต้น ซึ่งเราว่าหนังทำออกมาได้ดี ถ้าได้ดูแบบไม่รู้อะไร ไม่ได้คาดหวังอะไร ยังไงก็สนุก
เราตกหลุมรักเจนิเฟอร์ ลอว์เลนซ์มากๆ ในเรื่องนี้เธอสวย มีเสน่ห์ และน่ามองในทุกอิริยาบท ซีนว่ายน้ำในตัวอย่างหนังเป็นซีนนึงที่ทำให้เราอยากดูเรื่องนี้มากๆ และซีนนั้นในหนังก็สมบูรณ์แบบสมการรอคอย งานภาพสวยมาก ซีนอวกาศคือดีและตราตรึงใจ ชอบธีมที่เล่นกับความไฮเทค ความอวกาศ มันเอามาผูกกับความเหงาของเรื่องได้ดี
9/10
The Passenger คู่โดยสารพันล้านไมล์
ความเหงา ความหวัง ความรัก และการมีชีวิต
ตอนแรกเราเข้าใจว่าหนังหนักไซไฟ เป็นการเดินทางท่องอวกาศ โดยมีความรัก ความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้คือหนังดราม่าโรแมนติกแทบจะ 100% ความไซไฟที่มีเป็นเพียงโลเคชันนอกโลกและเทคโนโลยีในเรื่องเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าจะผิดคาดจากที่คิดไว้ แต่เราชอบ ตกหลุมรักตัวละครและการเดินทางครั้งนี้ของหนังมากๆ
หนังเล่าถึงคนกลุ่มนึงที่เสนอตัวเป็นอาสาสมัครบุกเบิกไปเปิดดาวดวงใหม่ เส้นทางไกลนับร้อยปี ดังนั้นกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มนี้จึงต้องมีการนอนหลับอยู่ในเครื่องจำศีล และจะตื่นมาตอนที่ถึงดาวดวงใหม่ในอนาคตอีกร้องปีข้างหน้า แต่ด้วยเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้เครื่องจำศีลของตัวเอกดันเปิดออกมาก่อนจะถึงเวลาที่ควร ทำให้เขาต้องใช้ชีวิต “ตัวคนเดียว” อยู่บนยานไฮเทคนี่ไปอีกนับร้อยปี
ประเด็นที่เราชอบมากๆ ในหนังคือการนำเสนอ “ความเหงา” ตัวเอกที่ตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง เขาใช้ชีวิตคนเดียวจริงๆ และจะไม่มีวันได้เจอใครอีกแน่ๆ ไปตลอดชีวิตของเขา ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ในยานนี่จะมีอาหาร มีน้ำ มีเครื่องอำนวยความสะดวก และมีอุปกรณ์สันทนาการสุดแสนล้ำยุคแทบจะครบทุกอย่างในการใช้ชีวิต แต่มนุษย์ดันเป็นสัตว์สังคม ตัวเอกของเราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่นาน เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิตของเขาได้ ถึงแม้จะมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์พูดได้รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่คอยคุยเล่นอยู่ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว
มนุษย์ต้องการหัวใจ ต้องการความรู้สึก และต้องการสัมผัสจากความเป็นมนุษย์ของบุคคลข้างๆ เพื่อจุนเจือชีวิตให้ดำเนินต่อไปได้
ยิ่งโลเคชันเป็นในอวกาศ ทุกครั้งที่กล้องแพนออกไปนอกยาน มันยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเวิ้งว้าง ความเหงา ความกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตาที่ไม่มีคนเคียงข้างมันแย่ และโดดเดี่ยวเอามากๆ ความรู้สึกว่างเปล่านี้มันถูกส่งต่อมาหาคนดูได้ และเราชอบสิ่งนี้ของหนังมากๆ
และยิ่งหนังบิ้วความรู้สึกเหงาในใจตรงนี้มากขึ้นเท่าไหร่ พอตัวเอกอีกคนโผล่มา มันกลายเป็นความรู้สึกในหัวใจที่พองโตขึ้นมากๆ เราดีใจที่ในที่สุดบนยานนี่ก็มีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง อารมณ์มันเปลี่ยนกลับจากความเศร้า ความสิ้นหวังที่ตอนแรกมีอยู่มากโข การที่มีคนตื่นขึ้นมาเพิ่มอีกคนไม่ได้ทำให้ความสิ้นหวังในการลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศนี้หายไปก็จริง แต่อย่างน้อยความรู้สึกโดดเดี่ยวมันได้มลายหายไปกว่าครึ่ง เมื่อเรารับรู้ว่ามีความเป็นมนุษย์อีกคนที่อยู่เคียงข้าง คอยประคับประคองจิตใจกันและกันให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออีกฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกันได้ไม่ยาก
หนังสนุก เล่าเรื่องเก่ง ฉับไว และไม่น่าเบื่อ ดึงเอากลิ่นอายองความเหงาและความรักออกมาได้ชัดเจนและทำให้คนดูรู้สึกได้ ในตอนท้ายของเรื่องมีความตื่นเต้น ซึ่งเราว่าหนังทำออกมาได้ดี ถ้าได้ดูแบบไม่รู้อะไร ไม่ได้คาดหวังอะไร ยังไงก็สนุก
เราตกหลุมรักเจนิเฟอร์ ลอว์เลนซ์มากๆ ในเรื่องนี้เธอสวย มีเสน่ห์ และน่ามองในทุกอิริยาบท ซีนว่ายน้ำในตัวอย่างหนังเป็นซีนนึงที่ทำให้เราอยากดูเรื่องนี้มากๆ และซีนนั้นในหนังก็สมบูรณ์แบบสมการรอคอย งานภาพสวยมาก ซีนอวกาศคือดีและตราตรึงใจ ชอบธีมที่เล่นกับความไฮเทค ความอวกาศ มันเอามาผูกกับความเหงาของเรื่องได้ดี
9/10
I Know You Have Good Taste
ช่องทางการติดตาม
Facebook: https://www.facebook.com/justsointoeverything
Instagram: https://www.instagram.com/iknowyouhavegoodtaste/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCLBONMLl_YH4eqOjBNuX0Lg
TikTok: https://www.tiktok.com/@iknowyouhavegoodtaste?lang=th-TH
Blogger: https://iknowyouhavegoodtaste.blogspot.com
Blockdit: https://www.blockdit.com/iknowyouhavegoodtaste
ดูจบแล้วมาคุยกัน
ตอนแรกเราไม่อินมากๆ ที่ตัวเอกพยายามทำลายเครื่องของตัวอีกอีกคนเพื่อปลุกเธอให้ตื่น ตนเองจะได้ไม่รู้สึกเหงาและว้าเหว่อีกต่อไป ที่สำคัญคือเขา “เลือก” คนที่อยากจะปลุกเป็นคนที่เขาอยากทำความรู้จักซะด้วย เรามองว่ามันผิด ไร้ซึ่งข้อแก้ตัวใดๆ สิ่งที่เขาทำคือการทำลายชีวิตของอีกคนที่ปลุกขึ้นมาไปทั้งชีวิต และเขาไม่มีสิทธิที่จะทำอย่างนั้น เราเป็นผู้หญิงเราคงโกรธจนอยากจะฆ่าเขาเลยด้วยซ้ำ แต่พอโตขึ้นและได้หยิบมาดูอีกที เรากลับรู้สึกเฉยๆ กับการกระทำนี้ ไม่ใช่ว่ามันไม่ผิด มันยังคงผิดอยู่เหมือนเดิมแบบเต็มประตู แต่สุดท้าย มาลองคิดจริงๆ แล้วตัวเอกก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง ถ้าเป็นเราอยู่ในจุดนั้นก็คงเลือกที่จะทำอะไรซักอย่างพึ่งให้ตัวเองหลุดพ้นจากความเดียวดายตรงนั้น การเลือกที่จะปลุกใครซักคนขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ร่วมเดินทางไปด้วยกันตลอดทั้งชีวิตคงไม่ใช่ทางเลือกที่ยากซักเท่าไหร่นัก ซึ่งหนังก็พยายามทำให้ความผิดตรงนี้ของตัวเอกดูลดลงด้วยการให้คนทั้งคู่เป็นคนปกป้องยานที่เสียหายเพื่อที่ผู้คนบนยานจะมีชีวิตรอดกันต่อไปดาวดวงใหม่ได้
ตอนจบเราชอบมากๆ สุดท้าย ยังไงคนทั้งคู่ก็ตื่นมาแล้ว จะให้แก้ไขเรื่องราวยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะเพื่อนคู่ชีวิตไปจนตายบนยานนั้นก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะเลือกได้ จุดนั้นเราไม่ได้มองว่าคนทั้งสองเป็นคู่รักกันอีกต่อไป ทั้งคู่เป็นเหมือนเพื่อนที่ใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างกันในวันที่อีกฝ่ายไม่เหลือใคร เป็นคนที่คอยค้ำจุน เกื้อหนุนให้อีกฝ่ายสามารถมีชีวิตต่อไปได้อย่างแท้จริง