(No Spoil) Review : Beauty and the Beast (2017)

ออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อนนิทานก็ไม่เคยอ่านและฟังเลยเรื่องนี้ ความน่าดูมันอยู่ที่Emmaเล่นเนี่ยละเลยมีแรงดึงดูดให้ไปดูอย่างมาก แค่ได้เห็นรอยยิ้มของEmmaก็คุ้มแล้วครับ ละลายกันไปเลยทีเดียว ทีแรกก็จะไปดูแต่Emmaแหละแต่ผมกลับได้ข้อคิดหลายอย่างจากหนังเรื่องนี้กลับออกมา

แฟนๆของเจ้าหญิงDisneyคงรู้อยู่แล้วละเนื้อเรื่องอะไรเป็นอย่างไร ผมก็จะไม่ขอสปอยล์ละกันเผื่อผู้ชายหลายๆคนอาจจะเป็นเหมือนผมที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับโฉมงามกับเจ้าชายอสูรมาก่อนเลย จะได้สนุกเวลาไปดู แต่จะเกริ่นๆให้นิดนึงละกัน กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าชายรูปงามนิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัว ไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง ชอบรีดไถประชาชน เอาเงินมาซื้อของฟุ่มเฟือย ประดับประดาหรูหรา วันหนึ่งมีหญิงชราแก่คนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือหลบลมหนาวที่ปราสาท เจ้าชายกลับหัวเราะ และไล่หญิงชราคนนี้ออกไป แต่ปรากฏว่าหญิงชราคนนี้แท้จริงคือผู้วิเศษ จึงลงโทษและได้สอนเจ้าชายว่าไม่ควรตัดสินผู้อื่นจากภายนอกควรตัดสินผู้อื่นจากภายใน โดยการสาปให้เจ้าชายเป็นอสูรที่น่ากลัว การถอนคำสาปนั้นเจ้าชายจะต้องรู้สึกรักใครสักคนจริงๆและคนๆนั้นต้องรักตอบเจ้าชายด้วย แต่ก็มีข้อแม้อีกหนึ่งอย่าง ผู้วิเศษได้ให้กุหลาบไว้หนึ่งดอกถ้ากลีบสุดท้ายหลุดออกเมื่อไหร่ เจ้าชายจะกลายเป็นอสูรตลอดไป

จำไม่ได้แล้วว่าดูหนังหรือการ์ตูนของDisneyเรื่องสุดท้ายเมื่อไหร่แต่เอกลักษณ์ของการ์ตูนDisneyที่ไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือMusical ให้ความClassicมาก ทุกอย่างองค์ประกอบ ตัวละคร CG ความไพเราะของเพลงมันลงตัวและสมบูรณ์แบบไปหมดเลย มีคนเคยบอกกับผมว่าการที่ผมปล่อยผู้หญิงคนหนึ่งให้ไปเจอคนที่ดีกว่า เป็นความเห็นแก่ตัว แต่พอผมได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำน่ะถูกแล้ว สำหรับผมการที่เค้าไม่มีความสุขที่จะอยู่กับผมและผมยังรั้งเค้าไว้นั่นตังหากคือความเห็นแก่ตัว ถ้าเค้ารักเรายังไงเค้าก็ต้องกลับมา แต่ถ้าไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ เอาละเพ้อมานาน สุดท้ายนี้อยากบอกว่ารักนะEmma แค่ไปดูเธอคนเดียวนะก็คุ้มค่าตั๋วละ ตั้ลล้าคคคคคค ><

Score : 8.7/10 (A)

Film Boy