เนื่องจากอยากแชร์การเรียนขับรถของเราคร่าว ๆให้ฟังกันบ้างสำหรับคนที่ยังขับไม่เป็น เผื่อเป็นไกด์ได้ค่ะ ต้องบอกก่อนว่าบ้านครูสอนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ไม่เคยรู้จักกันนะคะ ค่าเรียน 3,500 บาท 10 ชั่วโมง เรียนครั้งละ 2 ชั่วโมง สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนวันไหน คือความรู้สึกของคนที่ยังไม่ได้จับรถมานะคะ 2-3 ครั้งแรกจะรู้สึกไม่ชอบครูมาก เพราะคิดว่าครูกดดัน และพูดกับเราได้ไม่ดี แต่พอครั้งที่ 4-5 ก็เริ่มดีขึ้นค่ะ มาอ่านวิธีการสอนของครูที่เป็นคำพูดของครูที่เราจำได้แต่ละครั้งกันค่ะ
-สอนครั้งที่ 1 เข้าอยู่ในสนามก่อน ได้จำคำที่สอนได้คือ หน้ารถๆๆๆ คืนๆๆๆ (พวงมาลัย) เหยียบเบรคด้วยๆๆๆ อย่ามองกระจกข้าง ให้มองหน้ารถ
-สอนครั้งที่ 2 ออกถนนใหญ่จริง ครูบอกว่า มองไกลๆ คันเร่งอยู่พอดีกับล้อ ล้อพยายามอยู่ให้ตรงเลนส์เส้นขวา เวลาเลี้ยวแบบจากซ้ายสุดไปขวาสุด ต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เหยียบเบรคแล้วหมุนพวงมาลัยไปให้สุดรอบหนึ่งก่อน พอรถว่าง เปิดไฟเลี้ยวขวาก็ค่อยๆปล่อยเบรคให้รถไหล แล้วค่อยๆเหยียบคันเร่งช้า พอได้ที่ก็หมุนพวงมาลัยคืน
-สอนครั้งที่ 3 ออกจากบ้านไปสนาม สอนท่าสอบใบขับขี่ ท่าเทียบฟุตบาท คือ เบียดฟุตบาทได้แต่ห้ามไปปีน ตอนเลี้ยวในสนามไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย จากนั้นพอจังหวะรถตรงแล้วให้เหยียบเบรค กะว่าล้ออยู่พอดีกับเส้นมั้ย จะมีฝาขวดน้ำอยู่พอดีกับล้อคือต้องให้ตรงกับเส้น จากนั้นให้รถปล่อยไปจนถึงสปริงในรถทะแยงกับเสาแล้วเบรค
พอเรียนได้ 3 ครั้ง แล้วก็ไปจองคิวอบรม ของเราเลือกอบรมที่สารพัดช่างสมุทรปราการ 5 ชั่วโมง 500 บาท พอได้อบรมเสร็จก็จะมีใบรับรองการอบรมก็ไปยื่นพร้อมใบรับรองแพทย์ที่กรมการขนส่งเพื่อนัดสอบข้อเขียน ของเราสอบผ่านครั้งเดียว แต่ยังสอบปฏิบัติไม่ได้เพราะยังเรียนไม่จบ ก็ไปเรียนต่ออีก 2 ครั้ง แล้วไปสอบปฎิบัติ มาอ่านวิธีการสอนของครูกันต่อค่ะ
-สอนครั้งที่ 4 ออกจากบ้านไปสนาม สอนท่าสอบใบขับขี่ทั้ง 3 ท่า เลย รวมท่าแรกด้วย ท่าที่เพิ่มมา คือ ท่าถอยหลังเข้าซอง คือ ขับตรงไปให้เลข 1 ด้านหลังกระจกข้างซ้ายทะแยงมุมกับเสาต้น 1 แล้วหยุด หมุนซ้ายสุด กดเกียร์ R ถอยหลัง ปล่อยเบรคให้รถเดิน มองขวาให้เห็นเสาต้นที่ 3 หยุด คืนพวงมาลัยตรง ถอดให้กระจกซ้าย เลข 3 ตรงกับเสาต้นแรก หมุนขวาสุดแล้ว ปล่อยเบรคให้รถถอย ไปจนท้ายรถตรงกับมุมเสา หมุนซ้ายสุด เปลี่ยนเกียร์ D แล้วเดินหน้าให้ตรง หมุนพวงมาลัยคืน 2 ครั้ง ลองเดินหน้าถ้ารถไม่เลี้ยวก็แสดงว่าคืนพวงมาลัยถูก เปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ N แล้วยกมือบอกกรรมการ
ตอนถอยรถออก หมุนพวงมาลัยซ้ายสุด เปลี่ยนเกียร์ R มองข้างหลังให้ท้ายรถอยู่มุมเสา เปลี่ยนเกียร์ D แล้วหมุนขวาสุด ขับรถออก
และท่าเดินหน้าถอยหลัง ตั้งเลี้ยวดีๆให้เข้าไปในช่อง มองขวามือให้ชิดขวาเราจะได้ไม่ไปชนด้านซ้ายมาก ปล่อยเบรคให้ตรงไปจนถึง กระจกซ้ายตรงกับเสาต้นที่ 2 แล้วหยุด เปลี่ยนเกียร์ R มองซ้ายกับขวาว่าเสาสุดท้ายตรงกันมั้ย พอปล่อยเบรคค่อยๆปรับ ถ้าข้างไหนมากกว่าก็ต้องหมุนไปทางนั้น 12 นาฬิกา โดยที่มือจับไปกับพวงมาลัยด้วย จากนั้นเมื่อตรงแล้วคืนตรง แล้วมองเสาสุดท้ายว่าตรงมั้ยแล้วค่อยๆปรับไปตลอดทางจนพ้น
-สอนครั้งที่ 5 ครูพามาสนามแล้วให้เราซ้อม 3 ท่าด้วยตนเองโดยที่ครูคอยสอนอยู่ข้างนอกรถ ความรู้สึกเหมือนยืมรถครูมาซ้อม สนุกดีค่ะ ไม่มีครูมาคุมในรถ 555 ก็ขับไปจนครบ 3 ท่า แล้วก็เริ่มใหม่ไปเรื่อยๆ จนคล่อง แต่รู้สึกว่าท่าจอดเทียบพลาดบ่อยสุด รองลงมาก็ท่าถอยหลังเข้าซอง ส่วนท่าเดินหน้าถอยหลังไม่พลาดเลยค่ะ
ปล.สอนแต่ละครั้งครูจะสอนได้ไม่เต็มชั่วโมงนะคะ เพราะเผื่อเวลาขับรถออกจากสนามไปสำนักงานของครูด้วยค่ะ เลิกเรียนก่อนเวลาประมาณ 15 นาที/ครั้งค่ะ
หลังจากนั้นก็นัดวันไปสอบปฏิบัติค่ะ กรมขนส่งนัด 10.00 น.เป็นต้นไป กว่าจะได้สอบจริงๆเกือบเที่ยง เพราะต้องให้รถมอเตอร์ไซด์สอบก่อน พอเจ้าหน้าที่มาก็มีพูดอธิบายว่าต้องขับยังไงถึงจะผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ต้องมาสอบท่าที่ไม่ผ่านวันหลัง ด้วยเรามากับครู ครูจึงไปตั้งรถรอพร้อมสอบเลย วันนั้นเราได้สอบคนแรกเลย ก็สติเท่านั้นค่ะ แต่ก็ผ่านได้หมดทั้ง 3 ท่าเลยค่ะ แล้วก็ได้ทำใบขับขี่สมใจ ก็หวังว่าที่เล่ามาคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ ขอให้มีความกล้า และตั้งใจเท่านั้นค่ะ
แชร์ประสบการณ์เรียนขับรถเพื่อสอบใบขับขี่
-สอนครั้งที่ 1 เข้าอยู่ในสนามก่อน ได้จำคำที่สอนได้คือ หน้ารถๆๆๆ คืนๆๆๆ (พวงมาลัย) เหยียบเบรคด้วยๆๆๆ อย่ามองกระจกข้าง ให้มองหน้ารถ
-สอนครั้งที่ 2 ออกถนนใหญ่จริง ครูบอกว่า มองไกลๆ คันเร่งอยู่พอดีกับล้อ ล้อพยายามอยู่ให้ตรงเลนส์เส้นขวา เวลาเลี้ยวแบบจากซ้ายสุดไปขวาสุด ต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เหยียบเบรคแล้วหมุนพวงมาลัยไปให้สุดรอบหนึ่งก่อน พอรถว่าง เปิดไฟเลี้ยวขวาก็ค่อยๆปล่อยเบรคให้รถไหล แล้วค่อยๆเหยียบคันเร่งช้า พอได้ที่ก็หมุนพวงมาลัยคืน
-สอนครั้งที่ 3 ออกจากบ้านไปสนาม สอนท่าสอบใบขับขี่ ท่าเทียบฟุตบาท คือ เบียดฟุตบาทได้แต่ห้ามไปปีน ตอนเลี้ยวในสนามไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลย จากนั้นพอจังหวะรถตรงแล้วให้เหยียบเบรค กะว่าล้ออยู่พอดีกับเส้นมั้ย จะมีฝาขวดน้ำอยู่พอดีกับล้อคือต้องให้ตรงกับเส้น จากนั้นให้รถปล่อยไปจนถึงสปริงในรถทะแยงกับเสาแล้วเบรค
พอเรียนได้ 3 ครั้ง แล้วก็ไปจองคิวอบรม ของเราเลือกอบรมที่สารพัดช่างสมุทรปราการ 5 ชั่วโมง 500 บาท พอได้อบรมเสร็จก็จะมีใบรับรองการอบรมก็ไปยื่นพร้อมใบรับรองแพทย์ที่กรมการขนส่งเพื่อนัดสอบข้อเขียน ของเราสอบผ่านครั้งเดียว แต่ยังสอบปฏิบัติไม่ได้เพราะยังเรียนไม่จบ ก็ไปเรียนต่ออีก 2 ครั้ง แล้วไปสอบปฎิบัติ มาอ่านวิธีการสอนของครูกันต่อค่ะ
-สอนครั้งที่ 4 ออกจากบ้านไปสนาม สอนท่าสอบใบขับขี่ทั้ง 3 ท่า เลย รวมท่าแรกด้วย ท่าที่เพิ่มมา คือ ท่าถอยหลังเข้าซอง คือ ขับตรงไปให้เลข 1 ด้านหลังกระจกข้างซ้ายทะแยงมุมกับเสาต้น 1 แล้วหยุด หมุนซ้ายสุด กดเกียร์ R ถอยหลัง ปล่อยเบรคให้รถเดิน มองขวาให้เห็นเสาต้นที่ 3 หยุด คืนพวงมาลัยตรง ถอดให้กระจกซ้าย เลข 3 ตรงกับเสาต้นแรก หมุนขวาสุดแล้ว ปล่อยเบรคให้รถถอย ไปจนท้ายรถตรงกับมุมเสา หมุนซ้ายสุด เปลี่ยนเกียร์ D แล้วเดินหน้าให้ตรง หมุนพวงมาลัยคืน 2 ครั้ง ลองเดินหน้าถ้ารถไม่เลี้ยวก็แสดงว่าคืนพวงมาลัยถูก เปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ N แล้วยกมือบอกกรรมการ
ตอนถอยรถออก หมุนพวงมาลัยซ้ายสุด เปลี่ยนเกียร์ R มองข้างหลังให้ท้ายรถอยู่มุมเสา เปลี่ยนเกียร์ D แล้วหมุนขวาสุด ขับรถออก
และท่าเดินหน้าถอยหลัง ตั้งเลี้ยวดีๆให้เข้าไปในช่อง มองขวามือให้ชิดขวาเราจะได้ไม่ไปชนด้านซ้ายมาก ปล่อยเบรคให้ตรงไปจนถึง กระจกซ้ายตรงกับเสาต้นที่ 2 แล้วหยุด เปลี่ยนเกียร์ R มองซ้ายกับขวาว่าเสาสุดท้ายตรงกันมั้ย พอปล่อยเบรคค่อยๆปรับ ถ้าข้างไหนมากกว่าก็ต้องหมุนไปทางนั้น 12 นาฬิกา โดยที่มือจับไปกับพวงมาลัยด้วย จากนั้นเมื่อตรงแล้วคืนตรง แล้วมองเสาสุดท้ายว่าตรงมั้ยแล้วค่อยๆปรับไปตลอดทางจนพ้น
-สอนครั้งที่ 5 ครูพามาสนามแล้วให้เราซ้อม 3 ท่าด้วยตนเองโดยที่ครูคอยสอนอยู่ข้างนอกรถ ความรู้สึกเหมือนยืมรถครูมาซ้อม สนุกดีค่ะ ไม่มีครูมาคุมในรถ 555 ก็ขับไปจนครบ 3 ท่า แล้วก็เริ่มใหม่ไปเรื่อยๆ จนคล่อง แต่รู้สึกว่าท่าจอดเทียบพลาดบ่อยสุด รองลงมาก็ท่าถอยหลังเข้าซอง ส่วนท่าเดินหน้าถอยหลังไม่พลาดเลยค่ะ
ปล.สอนแต่ละครั้งครูจะสอนได้ไม่เต็มชั่วโมงนะคะ เพราะเผื่อเวลาขับรถออกจากสนามไปสำนักงานของครูด้วยค่ะ เลิกเรียนก่อนเวลาประมาณ 15 นาที/ครั้งค่ะ
หลังจากนั้นก็นัดวันไปสอบปฏิบัติค่ะ กรมขนส่งนัด 10.00 น.เป็นต้นไป กว่าจะได้สอบจริงๆเกือบเที่ยง เพราะต้องให้รถมอเตอร์ไซด์สอบก่อน พอเจ้าหน้าที่มาก็มีพูดอธิบายว่าต้องขับยังไงถึงจะผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ต้องมาสอบท่าที่ไม่ผ่านวันหลัง ด้วยเรามากับครู ครูจึงไปตั้งรถรอพร้อมสอบเลย วันนั้นเราได้สอบคนแรกเลย ก็สติเท่านั้นค่ะ แต่ก็ผ่านได้หมดทั้ง 3 ท่าเลยค่ะ แล้วก็ได้ทำใบขับขี่สมใจ ก็หวังว่าที่เล่ามาคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ ขอให้มีความกล้า และตั้งใจเท่านั้นค่ะ