ประสบการณ์พักผ่อนที่แย่ที่สุดกับ The River Life Resort

1.ผมได้เดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 16-18 มีนา โดยเลือกพักที่ The River Life Resort ผ่านการจองกับ pr ชื่อคุณยะ โดยการเดินทางไปถึงในวันแรกไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างโอเค ทั้งขนาดห้อง อาหาร และการต้อนรับต่างๆ

2.ปัญหาได้เกิดขึ้นภายในการเข้าพักคืนที่ 2 โดย ในวันที่ 2 มีกลุ่มแขกจำนวน 10-15 คนมาเข้าพัก โดยผมกับแฟนกลับมาจากการไปเที่ยวข้างนอกมาทั้งวัน และเห็นทีมงานกำลังเซทลำโพง และคาราโอเกะ กันอยู่ โดยคำถามแรกที่เข้ามาในหัวผมคือ เสียงจะไม่ไปถึงห้องพักหรอ และก็ได้คำตอบจากเจ้าของโรงแรมมาว่าไม่ถึง ถ้าถึงเดี๋ยวจัดการให้

3.หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จ ผมและแฟนได้เข้าห้องพักเวลา 2 ทุ่ม โดยเสียงยังเล็ดลอดมาถึงห้องพักเรา แต่ยังเห็นเป็นหัววันอยู่ และทางผมก็ยังไม่เข้านอน เลยไม่อยากจะไปโวยวายอะไร แต่แล้วเวลาก็ดึกขึ้นเรื่อยๆ เสียงเพลงก็ดังขึ้น ด้วยอาการเมาของคนร้อง ผมได้ติดต่อ line ไปที่คุณยะ ที่ผมได้ทำการจองไว้ แต่คุณยะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ หน้าที่ของเธอคือแค่ pr และจะประสานงานให้ โดยได้ให้เบอร์เจ้าของสถานที่ที่อยู่ที่รีสอร์ท กับทางผมทิ้งไว้ เผื่อมีอะไรเร่งด่วน

4.ผมได้โทรไปหาเจ้าของ resort ครั้งแรก ทางเจ้าของรับปากว่ากำลังจะหรี่เสียงให้ โอเคครับ เสียงเพลงเรื่มเบาลง แต่คนร้องเมาขึ้นเรื่อยๆ เสียงตะโกนแหกปาก มันก็ไม่ได้เบาลง จนถึงเวลา 4 ทุ่ม ผมโทไปหาที่เจ้าของรีสอร์ทเป็นจำนวน 5 สาย ไม่มีการรับสายเกิดขึ้น ผมจึงเดินขึ้นไปแจ้งพนักงานให้เบาเสียง และสอบถามกับพนักงานตรงนั้นว่าผมต้องการพักผ่อน จะเลิกกี่โมง คำตอบที่เกิดขึ้นคือ ปกติก็คือ 5ทุ่ม - เที่ยงคืน และก็ที่นี่มัน resort นะพี่ โอเคครับ ตรรกกะผมคงป่วย ที่เข้าใจมาตลอดจนอายุจะ 33 ว่าการมารีสอร์ทคือการพักผ่อน และเงียบสงบ และที่พักของคุณที่ผมพักเป็นเวลา 2 คืน เป็นจำนวนเงิน 6,500 บาท ผมว่าผมก็ไม่ได้เลือกที่พักเกรดล่างที่ผมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ ซึ่งคำตอบที่ผมได้รับ เหมือนผมไปขอนอนบ้านเพื่อนฟรีๆเลยครับ

5.ไม่สามารถติดต่อเจ้าของรีสอร์ทได้โดยตรง เพราะเจ้าของไม่ยอมรับสาย และไม่มีการติดต่อกลับ โดยต้องประสานงานผ่าน pr คือคุณยะ ผ่านทาง Line ที่ไมไ่ด้อยู่ที่นี่ ( ซึ่งคุณยะต้องเป็นตัวกลางระหว่างผมกับเจ้าของรีสอร์ทในการแก้ปัญหา แต่เจ้าของรีสอร์ทก็อยู่ที่รีสอร์ท ทำมัยถึงไม่แก้ปัญหาเอง ) คำตอบที่ได้คือทางรีสอร์ทยินดีคืนเงินเต็มจำนวน ถ้าจะย้ายที่พัก เป็นข้อเสนอที่ดีครับ แต่ตอนนั้นเวลา 5 ทุ่ม และที่พักของคุณอยู่ริมน้ำกลางป่า และทางผมและแฟนเป็นคนที่อยู่ในความเสียงร้องเพลงของคนเมาไมไ่ด้ คือผมต้องไปหรอครับ หรือเพราะผมเป็นแค่ลูกค้า 2 คนที่ไม่เข้าพวกกับคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังสนุกกันอยู่

การแก้ปัญหา
1.ซึ่งจริงๆวิธีการแก้นั้นง่ายมาก ถ้าเอาหลักง่ายๆคือ ขอโทษครับ และเข้าใจแขกคนอื่นที่เข้าพัก ว่าการพักผ่อนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และถ้าผมอยากร้องเพลง หรือฟังเพลงเสียงดัง ผมคงไปดูคอนเสิร์ต ไม่ก็ไปร้องคาราโอเกะครับ ไม่ขับรถมาพักที่พักของคุณหรอก และคุณควรอธิบายแขกกลุ่มใหญ่ให้เกรงใจแขกคนอื่นด้วยครับ เพราะทางคุณเองสามารถทำได้ และไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องไปบอกให้เสี่ยงตีนครับ

2.คุณสามารถจัดสถานที่ตรงสวนด้านหน้ารีสอร์ทได้ ซึ่งมีพื้นที่พอ โดยเสียงของลำโพงจะไม่รบกวนแขกที่พัก ตรงบริเวณแพเลย หรือสามารถ ที่จะวางทิศทางลำโพง ให้เสียงไม่กระจายออกด้านนอกได้ อย่าลืมซิครับ รอบข้างที่พักของคุณคือป่า และภูเขา เสียงมันก้องครับ ถ้ามองว่าไม่ต้องเกรงใจลูกค้า ผมว่า เกรงใจเจ้าที่ก็ดีครับ เผื่อมันจะเตือนสติได้ดีขึ้น

3.ถ้าผมไม่มี line ของทาง pr รีสอร์ทคุณอยู่ ผมสามารถติดต่อใครได้บ้างหรอครับ ในเมื่อเจ้าของไม่รับสาย และเลือกที่จะหนีหายไปจากสถานที่ตรงนั้นที่พักไม่มีโทรศัพท์โทรไปส่วนกลาง และพนักงานของคุณไม่สามารถตัดสินใจอะไรแทนคุณได้

4.การแก้ป้ัญหาของคุณง่ายเกินไป ตัวเลือกคือ ผมก็ฟังๆไปละรอเค้าเลิกเมาเลิกร้องละก็นอนซะ และก็ห้องติดกัน พอเมามาก็กรนดังมาก หรือข้อที่สองก็ย้ายหาที่พักใหม่ตอน 5  ทุ่ม เจริญพร หละครับ

ขอบคุณครับ ที่อ่านจนจบ