แนะนำเรื่องการเดินทางในเมืองนาโงย่าและ Shoryudo Pass เบื้องต้นสำหรับคนกำลังอยากไปเที่ยวครับ
การเดินทางไปนาโงย่าครั้งนี้ถือว่าเป็นการไปท่องเที่ยวที่เมืองนี้แบบจริงๆจังๆ เพราะที่ผ่านมาคือไปแบบติดสอยห้อยตาม ไปแบบไม่ค่อยจะเกิน 24 ชม. หลังจากที่ปรึกษากันเราสรุปที่จะซื้อ Shoryudo พาสซึ่งเป็นบัตรสำหรับรถบัสในการเดินทางระหว่างนาโงย่าและเมืองทาคายาม่าที่ตั้งใจจะไป (พาสนี้สามารถเดินทางไปได้อีกหลายเมืองใกล้ และมีให้เลือกระหว่างแบบ 3 หรือ 5 วัน ข้อมูลตามลิ้งค์ครับ
http://www.meitetsu.co.jp/tha/ticket-info/shoryudo.html) การเดินทางด้วยรถบัสมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่ารถไฟ ยิ่งมี Shoryudo Pass แล้วผมว่าคุ้มเกินคุ้มครับ
เดินทางถึง Chubu Centrair International Airport เช้าตรู่วันที่ 4 มี.ค. หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรต่างๆ เรานำคูปองที่ได้ในอีเมลไปแลก Shoryudo Pass ทั้งนี้บัตรจะกำหนดในระบบตั้งแต่เราสั่งซื้อแล้วว่าจะเริ่มต้นใช้วันไหน และหากเรามีกำหนดการเดินทางที่แน่นอน เราสามารถจองตั๋วรถบัสได้จาก exchange counter ที่สนามบินได้เลย ซึ่งอันนี้แนะนำครับ เพราะว่าจำนวนที่นั่งบนรถค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะช่วงพีคประมาณ 8-9 โมงเช้าในแต่ละวัน (แนะนำว่าจองตั๋วรถเนิ่นๆหากทำได้)
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองก็มีรถบัสอย่าง Centrair Limousine บริการครับ ครั้งนี้เราเลือกพักที่ Sakae ซึ่งก็เป็นย่านท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งของนาโงย่า มีร้านค้ามากมาย และเดินทางสะดวกครับ จากสนามบินรถจะจอดป้ายแรกที่ Nagoya Tokyo Hotel ครับ ซึ่งเราก็ลงที่นี่เลยเนื่องจากที่พักเรา Best Western นั้นอยู่ติดๆกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 48 นาที ทั้งนี้รถบัสรอบแรกที่ออกจากสนามบินในส่วนของ Centrair Limousine จะเริ่ม 9.15 ครับ หากมาถึงก่อนก็หาอะไรทานเป็นมื้อเช้าหรือทำธุระให้เรียบร้อย ไม่ต้องรีบครับ ตั๋วรถสามารถซื้อที่ตู้ขายตั๋วตรงที่รอรถบัสที่สนามบินได้หรือจ่ายตอนลงจากรถได้รถ 1,200 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 600 เยนสำหรับเด็กครับ ป้ายสุดท้ายของ Centrair Limousine คือ JR Nagoya ครับ
สำหรับคนที่เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองนาโงย่า แนะนำรถไฟใต้ดินครับ และหากคำนวณแลัวการใช้ one day pass นี่คุ้มค่าที่สุด บัตร one day pass นั้นสามารถซื้อได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติตามสถานีต่างๆครับ ตั๋วสำหรับวันธรรมดาจะอยู่ที่ 740 เยน (subway อย่างเดียว หากเป็นรถบัสกับรถไฟใต้ดินจะอยู่ที่ 850 เยน) และหากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะอยู่ที่ 600 เยนครับ ผมไม่ได้ใช้รถบัสเพราะคิดว่ารถไฟใต้ดินสะดวกกว่าครับ
จริงๆแล้วครั้งนี้ก็ยังไม่ได้เที่ยวครบๆสำหรับเมืองนี้เพราะแต่ละสถานที่ก็ใช้เวลาพอสำควร (เดินชมสถานที่ กินขนม โดยเฉพาะคนชอบถ่ายรูป) ก็คงมีกลับมาอีก แต่ที่ประทัปใจคือชิราคาวาโกะครับ คราวก่อนมาฤดูใบไม้ผลิ ครั้งนี้ได้เห็นหมู่บ้านปกคลุมด้วยหิมะขาวๆ สวยคนละแบบเลย
ใกล้ๆนาโงย่ายังมี Korankei ที่จะพีคสุดสำหรับการดูใบไม้เปลี่ยนสี อีกหนึ่งที่ๆอยากไป
การเริ่มต้นการเดินทางเป็นเพียงส่วนนึงของประสบการณ์เท่านั้นครับ ถึงเราจะวางแผนการเที่ยว แต่ก็อย่าลืมเผื่อเหลือเผื่อขาด ยืดหนุ่นกับแผนสักหน่อยเพื่อที่จะไม่หมดสนุกครับ
[CR] เดินทางในเมืองนาโงย่าและ Shoryudo Pass
การเดินทางไปนาโงย่าครั้งนี้ถือว่าเป็นการไปท่องเที่ยวที่เมืองนี้แบบจริงๆจังๆ เพราะที่ผ่านมาคือไปแบบติดสอยห้อยตาม ไปแบบไม่ค่อยจะเกิน 24 ชม. หลังจากที่ปรึกษากันเราสรุปที่จะซื้อ Shoryudo พาสซึ่งเป็นบัตรสำหรับรถบัสในการเดินทางระหว่างนาโงย่าและเมืองทาคายาม่าที่ตั้งใจจะไป (พาสนี้สามารถเดินทางไปได้อีกหลายเมืองใกล้ และมีให้เลือกระหว่างแบบ 3 หรือ 5 วัน ข้อมูลตามลิ้งค์ครับ http://www.meitetsu.co.jp/tha/ticket-info/shoryudo.html) การเดินทางด้วยรถบัสมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่ารถไฟ ยิ่งมี Shoryudo Pass แล้วผมว่าคุ้มเกินคุ้มครับ
เดินทางถึง Chubu Centrair International Airport เช้าตรู่วันที่ 4 มี.ค. หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรต่างๆ เรานำคูปองที่ได้ในอีเมลไปแลก Shoryudo Pass ทั้งนี้บัตรจะกำหนดในระบบตั้งแต่เราสั่งซื้อแล้วว่าจะเริ่มต้นใช้วันไหน และหากเรามีกำหนดการเดินทางที่แน่นอน เราสามารถจองตั๋วรถบัสได้จาก exchange counter ที่สนามบินได้เลย ซึ่งอันนี้แนะนำครับ เพราะว่าจำนวนที่นั่งบนรถค่อนข้างจำกัดโดยเฉพาะช่วงพีคประมาณ 8-9 โมงเช้าในแต่ละวัน (แนะนำว่าจองตั๋วรถเนิ่นๆหากทำได้)
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองก็มีรถบัสอย่าง Centrair Limousine บริการครับ ครั้งนี้เราเลือกพักที่ Sakae ซึ่งก็เป็นย่านท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่งของนาโงย่า มีร้านค้ามากมาย และเดินทางสะดวกครับ จากสนามบินรถจะจอดป้ายแรกที่ Nagoya Tokyo Hotel ครับ ซึ่งเราก็ลงที่นี่เลยเนื่องจากที่พักเรา Best Western นั้นอยู่ติดๆกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 48 นาที ทั้งนี้รถบัสรอบแรกที่ออกจากสนามบินในส่วนของ Centrair Limousine จะเริ่ม 9.15 ครับ หากมาถึงก่อนก็หาอะไรทานเป็นมื้อเช้าหรือทำธุระให้เรียบร้อย ไม่ต้องรีบครับ ตั๋วรถสามารถซื้อที่ตู้ขายตั๋วตรงที่รอรถบัสที่สนามบินได้หรือจ่ายตอนลงจากรถได้รถ 1,200 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 600 เยนสำหรับเด็กครับ ป้ายสุดท้ายของ Centrair Limousine คือ JR Nagoya ครับ
สำหรับคนที่เดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองนาโงย่า แนะนำรถไฟใต้ดินครับ และหากคำนวณแลัวการใช้ one day pass นี่คุ้มค่าที่สุด บัตร one day pass นั้นสามารถซื้อได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติตามสถานีต่างๆครับ ตั๋วสำหรับวันธรรมดาจะอยู่ที่ 740 เยน (subway อย่างเดียว หากเป็นรถบัสกับรถไฟใต้ดินจะอยู่ที่ 850 เยน) และหากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะอยู่ที่ 600 เยนครับ ผมไม่ได้ใช้รถบัสเพราะคิดว่ารถไฟใต้ดินสะดวกกว่าครับ
จริงๆแล้วครั้งนี้ก็ยังไม่ได้เที่ยวครบๆสำหรับเมืองนี้เพราะแต่ละสถานที่ก็ใช้เวลาพอสำควร (เดินชมสถานที่ กินขนม โดยเฉพาะคนชอบถ่ายรูป) ก็คงมีกลับมาอีก แต่ที่ประทัปใจคือชิราคาวาโกะครับ คราวก่อนมาฤดูใบไม้ผลิ ครั้งนี้ได้เห็นหมู่บ้านปกคลุมด้วยหิมะขาวๆ สวยคนละแบบเลย
ใกล้ๆนาโงย่ายังมี Korankei ที่จะพีคสุดสำหรับการดูใบไม้เปลี่ยนสี อีกหนึ่งที่ๆอยากไป
การเริ่มต้นการเดินทางเป็นเพียงส่วนนึงของประสบการณ์เท่านั้นครับ ถึงเราจะวางแผนการเที่ยว แต่ก็อย่าลืมเผื่อเหลือเผื่อขาด ยืดหนุ่นกับแผนสักหน่อยเพื่อที่จะไม่หมดสนุกครับ