หิมะแรกแบบหนาๆฟูๆของแมวแว่นกับพี่สาว ทริปเที่ยวเอง 8 วัน 7 คืน ห่อตัวเป็นหมี แปะแผ่นร้อน Kairo สวม Snow Boot แล้วตามมาค่ะ
(ภาพจาก Sony A5100 เลนส์ wide +i6s Plus)
ติดตามเพจได้ "ลาเหอะ...อยากเที่ยว" Annual Leave Now!
https://www.facebook.com/AnnualLeaveNow/
-วันที่ 1+ 2 Tokyo ชิมราเมงและ Pablo ที่ Harajuku ช้อป Uniqlo Shinjuku
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 2,3,4 บัส Shinjuku - Takayama, หิมะลงที่ Shirakawago เดินหนาว Takayama Old town ชิมเนื้อ Hida
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 5,6 ฟูจิฟ้าใส เจดีย์แดง ออนเซนส่วนตัว
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 6,7 Yokohama เจอเพื่อน ลืมมือถือในห้องน้ำห้าง
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 7,8 ช้อปของฝาก ที่เค้าฝากซื้อ Ueno ตึกม่วง Matsukiyo
> เดี๋ยวมา
ไม่ซื้อ JR Pass เพราะเดินทางเป็นโซน และรถบัสเข้าถึงได้มากกว่า หน้าหนาวไม่มี Night Bus จึงเสียเวลาบางส่วนไปกับการเดินทาง ซึ่งรับได้และวิวก็สวยด้วย ยืมบัตรรถไฟมาเรียบร้อย บัสเส้นทางยอดนิยมซื้อออนไลน์ตัดบัตรล่วงหน้าค่ะ
ซิมมือถือ ยืม SIM2FLY AIS มา 2 ซิม เติมเงินจากไทยคนละ 400 บาท 349 สมัครแพคเกจโรมมิ่ง อีก 50 บาทเผื่อโทรในญี่ปุ่น ง่ายมากค่ะ ตอนเติมเงินเติมผ่าน internet banking ระบุเบอร์ไป ก่อนบินออกจากไทยใส่ซิมสมัครแพคเกจ ถึงญี่ปุ่นเปิดใช้ได้ทันที เฮ้!
ที่พัก ต้องมีห้องน้ำในตัว ติดสถานีรถไฟเท่านั้น เพราะเคยเจ็บมาจากการลาก ยกกระเป๋าเดินทางอย่างไกลเพราะที่พักถูก แถมรอบนี้กระเป๋าใหญ่กว่าเดิมที่ 28 นิ้ว หลังจากเชคราคาทั้ง Agoda และ Booking สรุปว่าทั้งหมดจอง Agoda เพราะถูกกว่า แต่ต้องยอมโดนตัดเงินผ่านบัตรเครดิตตามเวลาที่กำหนด มี 1 คืนที่ใช้ Japanican เนื่องจากพี่สาวรีเควสขอนอนเรียวคังออนเซนส่วนตัวพร้อมอาหารเซท 1 คืน เจอโปรตรุษจีนพอดีแต่ต้องจ่ายสดกับโรงแรม
บัตรเครดิต ใช้ Krungsri JCB เพราะได้ยินมาว่าเรทดีกว่า VISA ซึ่งมันก็ดี เพราะไปปุ้ปเงินเยนลดลงเรื่อยๆ แบบจ่ายเงินสดที่แลกมายังแพงกว่า (แต่สุดท้ายก็หมดอยู่ดี 555)
ขอขอบคุณรีวิวรุ่นพี่จาก ppantip.com และเพจรวมพลคนไปญี่ปุ่น สงกรานต์เป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลดีๆในการวางแผนเที่ยว ดังนั้นจึงอยากแชร์สมาชิกที่จะตามไปเที่ยวต่อไป
จากการวางแผนและจองตั๋วล่วงหน้ามาเกิน 6 เดือน จำนวนผู้เดินทาง 2 คนถ้วน ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์แมวแว่นก็โดนผู้ร่วมเดินทางเทจ้า T-T โอววววววววววว!!!…. บิน low cost XJ ของ Air Asia X จ่าย Add-on เพิ่มโหลดกระเป๋าทั้งไปและกลับ+อาหารขาไป และจ่ายเลือกที่นั่งโซนเงียบไว้แล้วด้วย แต่นางติดงานจริงๆช่วยไม่ได้จึงต้องปล่อยตั๋วไป ฟิ้ววววววววววว….
อ่ะ...มี 3 ทางเลือก
1) ไม่บินเลย ปล่อยตั๋วทิ้งคู่ ย้อนกลับไปที่การวางแผนมาเกิน 6 เดือน และเม็ดเงินที่จะสูญไป ไม่อ่ะ
2) บินเดี่ยว ในชีวิตไม่เคยเที่ยวคนเดียว คือ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น ภาษาสื่อสารได้ วางแผนเองรู้หมดอยู่แล้ว มี SIM2FLY AIS แต่...มีเพื่อนก็อุ่นใจไหมอ่ะ ไว้เม้ามอย ฝากกระเป๋าตอนเข้าห้องน้า หารค่าของกินเมื่อเราต้องการแค่ชิมงี้ ไม่นะ!
3) หาคนบินไปด้วยคนใหม่ ลุ้นอยู่ 1 คืน พี่สาวของแมวแว่นก็ตัดสินใจไปด้วย แต่ค่าตั๋ว XJ ไปกลับไม่รวมอะไรเลยพุ่งไปที่ 16,000 บาทแล้ว นางเลยเลือก TG ของการบินไทยที่ไฮโซกว่าแต่มีโปรพอดีด้วยราคา 18,000 บาท เฮ้ยยยย!!!...ทริปไม่ล่มแร้วววววว
กลับมาที่แผนการเที่ยวก็ต้องปรับตามอายุนิดนึง ตัดสวนสนุก Fuji Q ออก เป็นต้น การเตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้าจัดเต็มไปหนาวสุดชุดใหญ่ไฟกระพริบ เพราะเราจะไปเจอหิมะหนาฟูและอุณหภูมิติดลบ ครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 30+!!!! อิชั้นตื่นเต้นมากค่ะ เพราะขี้หนาวอยู่แล้ว ลุ้นว่าจะไหวไหม (อุปกรณ์กันหนาว เตรียมไปจากไทยส่วนหนึ่งดีกว่านะคะ เพราะไปที่ญี่ปุ่นบางทีเวลาช้อปก็ไม่พอ หาร้านไม่เจอ ขนาดเสื้อผ้าไม่ได้ ไซส์หมด Uniqlo ราคาถ้าไม่เจอ sale 40% ขึ้นไปจริงๆก็ไม่ได้แพงกว่าไทยมากนัก
เที่ยวบินเดี่ยวไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตก่อนจะไปเจอพี่สาวที่โรงแรมที่ญี่ปุ่น เอาจริงๆนะเคยคิดว่าอยากไปเที่ยวคนเดียวเก๋ๆงี้ แต่ในความเป็นจริงคือเราเป็นสัตว์สังคมว่ะ เรารู้เลยว่าชอบไปเที่ยวกับเพื่อน เราชอบเม้ามอยผู้คน บรรยากาศ อาหาร ประสบการณ์ที่เจอร่วมกัน ดังนั้นขอเที่ยวกับเพื่อนดีกว่าค่ะ บินญี่ปุ่นก็ไม่นานแต่ไม่สนุกเลยอ่ะ ก่อนขึ้นเครื่องก็เปลี่ยนเป็น SIM2FLY แล้วกดแพคเกจโรมมิ่งเป็นอันพร้อม ว๊าบไปตอนขึ้นเครื่องเลย 10.45-19.00 DMK-NRT XJ606 เรารู้แน่ๆว่าที่นั่งข้างเราว่าง 1 ที่ชัวร์ๆ พอไปนั่งจริงพบว่าแถวเรามี 3 ที่นั่งชั้นนั่งคนเดียวจ้า! เก๋มากกกก คนรอบข้างมองด้วยความสงสัย 555 แต่ก็มีที่วางของเยอะเลย
ขึ้นบินไม่นานแอร์ก็เริ่มเสริฟอาหารซึ่งสั่งล่วงหน้าไว้ถูกกว่าไปซื้อบนเครื่องนะจ้ะ แถมได้น้ำฟรีด้วย วินาทีที่กลิ่นอาหารอบอวลเพราะแอร์พึ่งเวฟร้อนออกมา คือ ไม่หิวก็ต้องหิวละ อยู่ไม่ได้หรอกค่ะเชื่อแมวเหอะ อิ่มแล้วก็นอนหลับเป็นพักๆ ห้องน้ำบริเวณโซนที่อยู่คือน้อยเลยเดินไปเข้าของฝั่งด้านหลังซึ่งเร็วกว่าคอยมาก แถมยังได้ยืดเส้นยืดสายไปในตัว จากการสังเกตคือทุกคนเตรียมตัวมาดีมาก มี Tablet i-pad กางดูหนังที่เตรียมมา มี!!! มีแค่ไอโฟนซึ่งไม่ได้โหลดเพลงอะไรไว้เลยนอกจากอัลบั้ม U2 ที่ Apple ให้มาฟรีในเครื่อง T-T พลาด! อย่างน้อยก็พกหมอนรองคอมา นอนค่ะนอน
ช่วงเย็นใกล้ถึงญี่ปุ่นแล้ว นั่งมองวิวจากหน้าต่างเส้นขอบฟ้าสีรุ้งสวยมากค่ะ แต่มาสะดุดอารมณ์ตรงกระจกมีคราบ 555 แหม่! แอบหวังเล็กๆว่าจะได้เห็นวิวฟูจิจากบนเครื่องกับเข้าบ้างก็ผิดหวังเพราะฝนตกจ้า รู้เลยอากาศต้องหนาวมากแน่ๆ (ตบแผ่นร้อนเบาๆ ชั้นพร้อมละ!)
ลงเครื่องก็เปิดมือถือได้เลยมีเนทเชคอิน Narita Airport ได้ทันที ตอนแรกก็เกร็งๆนะว่าตม.จะถามอะไรไหมเป็นสาวเป็นนางมาเที่ยวคนเดียวเหรอ ผิดหวังค่ะ! นางไม่ถามอะไรเลยจ้า ปั้มผ่านมาอย่างเร็ว และเราก็เดินจากมางงๆ รับกระเป๋าที่โหลดจากสายพานก็ออกมาด้านนอกค่ะ เราจะเจอเคาน์เตอร์ตั๋วต่างๆเล็กๆเรียงๆกันรวมถึง Keisei ด้วย ตรงนี้สำหรับคนที่จะซื้อตั๋ว Keisei+Sub way นะคะ เราต่อแถวอยู่พักนึงพอเจอพนักงานเค้าบอกตรงนี้แลกตั๋วไม่ได้ ตรึง! อ่ะๆ ลงไปชั้น B1 มองหาช้อป Skyliner & Keisei Information center ก่อนถึง Family Mart ต่อแถวแลกตั๋ว เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ แนะนำอย่างละเอียดแล้วเลือกรอบรถไฟให้เร็วที่สุด คืออีก 5 นาที แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! วิ่งลากกระเป๋าไปอย่างระทึกค่ะ สอดตั๋วแล้วเก็บด้วยนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเพราะตั๋วล้อคที่นั่งไว้แล้ว เดินตามป้าย Keisei Skyliner ดูเวลารถจากตั๋วและป้ายไฟตรงชานชะลาเอา ไม่มีใครให้ถามเลยจ้า ณ จุดๆนั้น แต่ดูตั๋วที่ชาวบ้านเค้าถือว่าเหมือนเราเลยมั่นใจมากขึ้น ไม่นานประตูรถไฟก็ปิดเก็บกระเป๋าตรงที่วางกระเป๋าใหญ่แล้วนั่ง คนขับรถไฟจะประกาศเรื่อยๆพร้อมจอทีวีว่ารถไฟวิ่งตรงไปจอดที่ Nippori และ Ueno เท่านั้น
(มารู้จากพี่สาวว่านางขึ้นรถผิดขบวน คือ ไม่ทันขบวนที่เจ้าหน้าที่เลือกให้เพราะเจ้าหน้าที่จะเลือกแบบเร็วที่สุดเช่นกัน มารู้ตอนโดนตรวจตั๋ว โชคดีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าอะไรค่ะ)
ถึง Nippori แล้วใส่โค้ทให้มั่นนะคะ ในรถไฟอุ่นเพราะฮีทเตอร์จ้ะ ลมเย็นปะทะหน้าชาเลยจ้าฝนยังตกอยู่พรำๆ หิวมากกกกกกกกกกกกกกก แวะ Family mart สอยขนมมารองท้องก่อน ไลน์คุยกับพี่สาวนางนอนอุ่นอยู่ที่โรงแรม APA Hotel TKP Nippori Ekimae (アパホテル TKP日暮里駅前) แล้วเพราะสู้ความหนาวไม่ไหว
Tips: ซื้อตั๋ว Keisei Skyliner ผ่านทางเวบก่อนเดินทาง แบบ round trip ราคา 4,300 เยน ที่เวบทางการเลย
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/ticket/skyliner-ticket/index.php ซื้อได้ก่อนวันเดินทาง 20 วัน ถูกกว่าซื้อหน้างานและถูกกว่าซื้อจาก H.I.S ที่ไทยซึ่งต้องมาแลกตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ Keisei Skyliner สนามบิน Narita เช่นกัน (มีทั้ง 2 terminal เลย)
เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วจริง ขาออกจากสนามบินและดูเวลาให้ (ถ้าเวลากระชั้นเกินไป บอกเค้าขอเวลาถัดไปนะคะ อย่าเอ๋อแบบเรา) ส่วนขากลับออกตั๋วเลยก็ได้ หรือ รับบัตรแข็งมาสำหรับไปจองตั๋วจริงเองขากลับที่สถานี Nippori หรือ Ueno ในรถไฟมีห้องน้ำไฮเทคมากค่ะ อยากให้ไปลองกัน 555 เหมือนเข้ากระสวยอวกาศเลย มีตู้น้ำให้กดหยอดเหรียญด้วยนะ
[CR] รีวิวทีมหิมะ Snowy Feb 2017_Takayama & Shirakawago
(ภาพจาก Sony A5100 เลนส์ wide +i6s Plus)
ติดตามเพจได้ "ลาเหอะ...อยากเที่ยว" Annual Leave Now! https://www.facebook.com/AnnualLeaveNow/
-วันที่ 1+ 2 Tokyo ชิมราเมงและ Pablo ที่ Harajuku ช้อป Uniqlo Shinjuku
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 2,3,4 บัส Shinjuku - Takayama, หิมะลงที่ Shirakawago เดินหนาว Takayama Old town ชิมเนื้อ Hida
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 5,6 ฟูจิฟ้าใส เจดีย์แดง ออนเซนส่วนตัว
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 6,7 Yokohama เจอเพื่อน ลืมมือถือในห้องน้ำห้าง
> เดี๋ยวมา
-วันที่ 7,8 ช้อปของฝาก ที่เค้าฝากซื้อ Ueno ตึกม่วง Matsukiyo
> เดี๋ยวมา
ไม่ซื้อ JR Pass เพราะเดินทางเป็นโซน และรถบัสเข้าถึงได้มากกว่า หน้าหนาวไม่มี Night Bus จึงเสียเวลาบางส่วนไปกับการเดินทาง ซึ่งรับได้และวิวก็สวยด้วย ยืมบัตรรถไฟมาเรียบร้อย บัสเส้นทางยอดนิยมซื้อออนไลน์ตัดบัตรล่วงหน้าค่ะ
ซิมมือถือ ยืม SIM2FLY AIS มา 2 ซิม เติมเงินจากไทยคนละ 400 บาท 349 สมัครแพคเกจโรมมิ่ง อีก 50 บาทเผื่อโทรในญี่ปุ่น ง่ายมากค่ะ ตอนเติมเงินเติมผ่าน internet banking ระบุเบอร์ไป ก่อนบินออกจากไทยใส่ซิมสมัครแพคเกจ ถึงญี่ปุ่นเปิดใช้ได้ทันที เฮ้!
ที่พัก ต้องมีห้องน้ำในตัว ติดสถานีรถไฟเท่านั้น เพราะเคยเจ็บมาจากการลาก ยกกระเป๋าเดินทางอย่างไกลเพราะที่พักถูก แถมรอบนี้กระเป๋าใหญ่กว่าเดิมที่ 28 นิ้ว หลังจากเชคราคาทั้ง Agoda และ Booking สรุปว่าทั้งหมดจอง Agoda เพราะถูกกว่า แต่ต้องยอมโดนตัดเงินผ่านบัตรเครดิตตามเวลาที่กำหนด มี 1 คืนที่ใช้ Japanican เนื่องจากพี่สาวรีเควสขอนอนเรียวคังออนเซนส่วนตัวพร้อมอาหารเซท 1 คืน เจอโปรตรุษจีนพอดีแต่ต้องจ่ายสดกับโรงแรม
บัตรเครดิต ใช้ Krungsri JCB เพราะได้ยินมาว่าเรทดีกว่า VISA ซึ่งมันก็ดี เพราะไปปุ้ปเงินเยนลดลงเรื่อยๆ แบบจ่ายเงินสดที่แลกมายังแพงกว่า (แต่สุดท้ายก็หมดอยู่ดี 555)
ขอขอบคุณรีวิวรุ่นพี่จาก ppantip.com และเพจรวมพลคนไปญี่ปุ่น สงกรานต์เป็นอย่างสูงสำหรับข้อมูลดีๆในการวางแผนเที่ยว ดังนั้นจึงอยากแชร์สมาชิกที่จะตามไปเที่ยวต่อไป
จากการวางแผนและจองตั๋วล่วงหน้ามาเกิน 6 เดือน จำนวนผู้เดินทาง 2 คนถ้วน ก่อนเดินทาง 1 อาทิตย์แมวแว่นก็โดนผู้ร่วมเดินทางเทจ้า T-T โอววววววววววว!!!…. บิน low cost XJ ของ Air Asia X จ่าย Add-on เพิ่มโหลดกระเป๋าทั้งไปและกลับ+อาหารขาไป และจ่ายเลือกที่นั่งโซนเงียบไว้แล้วด้วย แต่นางติดงานจริงๆช่วยไม่ได้จึงต้องปล่อยตั๋วไป ฟิ้ววววววววววว….
อ่ะ...มี 3 ทางเลือก
1) ไม่บินเลย ปล่อยตั๋วทิ้งคู่ ย้อนกลับไปที่การวางแผนมาเกิน 6 เดือน และเม็ดเงินที่จะสูญไป ไม่อ่ะ
2) บินเดี่ยว ในชีวิตไม่เคยเที่ยวคนเดียว คือ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น ภาษาสื่อสารได้ วางแผนเองรู้หมดอยู่แล้ว มี SIM2FLY AIS แต่...มีเพื่อนก็อุ่นใจไหมอ่ะ ไว้เม้ามอย ฝากกระเป๋าตอนเข้าห้องน้า หารค่าของกินเมื่อเราต้องการแค่ชิมงี้ ไม่นะ!
3) หาคนบินไปด้วยคนใหม่ ลุ้นอยู่ 1 คืน พี่สาวของแมวแว่นก็ตัดสินใจไปด้วย แต่ค่าตั๋ว XJ ไปกลับไม่รวมอะไรเลยพุ่งไปที่ 16,000 บาทแล้ว นางเลยเลือก TG ของการบินไทยที่ไฮโซกว่าแต่มีโปรพอดีด้วยราคา 18,000 บาท เฮ้ยยยย!!!...ทริปไม่ล่มแร้วววววว
กลับมาที่แผนการเที่ยวก็ต้องปรับตามอายุนิดนึง ตัดสวนสนุก Fuji Q ออก เป็นต้น การเตรียมตัวเรื่องเสื้อผ้าจัดเต็มไปหนาวสุดชุดใหญ่ไฟกระพริบ เพราะเราจะไปเจอหิมะหนาฟูและอุณหภูมิติดลบ ครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 30+!!!! อิชั้นตื่นเต้นมากค่ะ เพราะขี้หนาวอยู่แล้ว ลุ้นว่าจะไหวไหม (อุปกรณ์กันหนาว เตรียมไปจากไทยส่วนหนึ่งดีกว่านะคะ เพราะไปที่ญี่ปุ่นบางทีเวลาช้อปก็ไม่พอ หาร้านไม่เจอ ขนาดเสื้อผ้าไม่ได้ ไซส์หมด Uniqlo ราคาถ้าไม่เจอ sale 40% ขึ้นไปจริงๆก็ไม่ได้แพงกว่าไทยมากนัก
เที่ยวบินเดี่ยวไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตก่อนจะไปเจอพี่สาวที่โรงแรมที่ญี่ปุ่น เอาจริงๆนะเคยคิดว่าอยากไปเที่ยวคนเดียวเก๋ๆงี้ แต่ในความเป็นจริงคือเราเป็นสัตว์สังคมว่ะ เรารู้เลยว่าชอบไปเที่ยวกับเพื่อน เราชอบเม้ามอยผู้คน บรรยากาศ อาหาร ประสบการณ์ที่เจอร่วมกัน ดังนั้นขอเที่ยวกับเพื่อนดีกว่าค่ะ บินญี่ปุ่นก็ไม่นานแต่ไม่สนุกเลยอ่ะ ก่อนขึ้นเครื่องก็เปลี่ยนเป็น SIM2FLY แล้วกดแพคเกจโรมมิ่งเป็นอันพร้อม ว๊าบไปตอนขึ้นเครื่องเลย 10.45-19.00 DMK-NRT XJ606 เรารู้แน่ๆว่าที่นั่งข้างเราว่าง 1 ที่ชัวร์ๆ พอไปนั่งจริงพบว่าแถวเรามี 3 ที่นั่งชั้นนั่งคนเดียวจ้า! เก๋มากกกก คนรอบข้างมองด้วยความสงสัย 555 แต่ก็มีที่วางของเยอะเลย
ขึ้นบินไม่นานแอร์ก็เริ่มเสริฟอาหารซึ่งสั่งล่วงหน้าไว้ถูกกว่าไปซื้อบนเครื่องนะจ้ะ แถมได้น้ำฟรีด้วย วินาทีที่กลิ่นอาหารอบอวลเพราะแอร์พึ่งเวฟร้อนออกมา คือ ไม่หิวก็ต้องหิวละ อยู่ไม่ได้หรอกค่ะเชื่อแมวเหอะ อิ่มแล้วก็นอนหลับเป็นพักๆ ห้องน้ำบริเวณโซนที่อยู่คือน้อยเลยเดินไปเข้าของฝั่งด้านหลังซึ่งเร็วกว่าคอยมาก แถมยังได้ยืดเส้นยืดสายไปในตัว จากการสังเกตคือทุกคนเตรียมตัวมาดีมาก มี Tablet i-pad กางดูหนังที่เตรียมมา มี!!! มีแค่ไอโฟนซึ่งไม่ได้โหลดเพลงอะไรไว้เลยนอกจากอัลบั้ม U2 ที่ Apple ให้มาฟรีในเครื่อง T-T พลาด! อย่างน้อยก็พกหมอนรองคอมา นอนค่ะนอน
ช่วงเย็นใกล้ถึงญี่ปุ่นแล้ว นั่งมองวิวจากหน้าต่างเส้นขอบฟ้าสีรุ้งสวยมากค่ะ แต่มาสะดุดอารมณ์ตรงกระจกมีคราบ 555 แหม่! แอบหวังเล็กๆว่าจะได้เห็นวิวฟูจิจากบนเครื่องกับเข้าบ้างก็ผิดหวังเพราะฝนตกจ้า รู้เลยอากาศต้องหนาวมากแน่ๆ (ตบแผ่นร้อนเบาๆ ชั้นพร้อมละ!)
ลงเครื่องก็เปิดมือถือได้เลยมีเนทเชคอิน Narita Airport ได้ทันที ตอนแรกก็เกร็งๆนะว่าตม.จะถามอะไรไหมเป็นสาวเป็นนางมาเที่ยวคนเดียวเหรอ ผิดหวังค่ะ! นางไม่ถามอะไรเลยจ้า ปั้มผ่านมาอย่างเร็ว และเราก็เดินจากมางงๆ รับกระเป๋าที่โหลดจากสายพานก็ออกมาด้านนอกค่ะ เราจะเจอเคาน์เตอร์ตั๋วต่างๆเล็กๆเรียงๆกันรวมถึง Keisei ด้วย ตรงนี้สำหรับคนที่จะซื้อตั๋ว Keisei+Sub way นะคะ เราต่อแถวอยู่พักนึงพอเจอพนักงานเค้าบอกตรงนี้แลกตั๋วไม่ได้ ตรึง! อ่ะๆ ลงไปชั้น B1 มองหาช้อป Skyliner & Keisei Information center ก่อนถึง Family Mart ต่อแถวแลกตั๋ว เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ แนะนำอย่างละเอียดแล้วเลือกรอบรถไฟให้เร็วที่สุด คืออีก 5 นาที แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! วิ่งลากกระเป๋าไปอย่างระทึกค่ะ สอดตั๋วแล้วเก็บด้วยนะคะ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเพราะตั๋วล้อคที่นั่งไว้แล้ว เดินตามป้าย Keisei Skyliner ดูเวลารถจากตั๋วและป้ายไฟตรงชานชะลาเอา ไม่มีใครให้ถามเลยจ้า ณ จุดๆนั้น แต่ดูตั๋วที่ชาวบ้านเค้าถือว่าเหมือนเราเลยมั่นใจมากขึ้น ไม่นานประตูรถไฟก็ปิดเก็บกระเป๋าตรงที่วางกระเป๋าใหญ่แล้วนั่ง คนขับรถไฟจะประกาศเรื่อยๆพร้อมจอทีวีว่ารถไฟวิ่งตรงไปจอดที่ Nippori และ Ueno เท่านั้น
(มารู้จากพี่สาวว่านางขึ้นรถผิดขบวน คือ ไม่ทันขบวนที่เจ้าหน้าที่เลือกให้เพราะเจ้าหน้าที่จะเลือกแบบเร็วที่สุดเช่นกัน มารู้ตอนโดนตรวจตั๋ว โชคดีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าอะไรค่ะ)
ถึง Nippori แล้วใส่โค้ทให้มั่นนะคะ ในรถไฟอุ่นเพราะฮีทเตอร์จ้ะ ลมเย็นปะทะหน้าชาเลยจ้าฝนยังตกอยู่พรำๆ หิวมากกกกกกกกกกกกกกก แวะ Family mart สอยขนมมารองท้องก่อน ไลน์คุยกับพี่สาวนางนอนอุ่นอยู่ที่โรงแรม APA Hotel TKP Nippori Ekimae (アパホテル TKP日暮里駅前) แล้วเพราะสู้ความหนาวไม่ไหว
Tips: ซื้อตั๋ว Keisei Skyliner ผ่านทางเวบก่อนเดินทาง แบบ round trip ราคา 4,300 เยน ที่เวบทางการเลย http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/ticket/skyliner-ticket/index.php ซื้อได้ก่อนวันเดินทาง 20 วัน ถูกกว่าซื้อหน้างานและถูกกว่าซื้อจาก H.I.S ที่ไทยซึ่งต้องมาแลกตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ Keisei Skyliner สนามบิน Narita เช่นกัน (มีทั้ง 2 terminal เลย)
เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วจริง ขาออกจากสนามบินและดูเวลาให้ (ถ้าเวลากระชั้นเกินไป บอกเค้าขอเวลาถัดไปนะคะ อย่าเอ๋อแบบเรา) ส่วนขากลับออกตั๋วเลยก็ได้ หรือ รับบัตรแข็งมาสำหรับไปจองตั๋วจริงเองขากลับที่สถานี Nippori หรือ Ueno ในรถไฟมีห้องน้ำไฮเทคมากค่ะ อยากให้ไปลองกัน 555 เหมือนเข้ากระสวยอวกาศเลย มีตู้น้ำให้กดหยอดเหรียญด้วยนะ