ถ้าตอบแบบจริงจัง

กรณีที่โดนศุลกรกรตรวจแล้วก็เจอ จะโดนความผิดฐานลับลอบเอาของผิดกฎหมายเข้าราชอาณาจักร มีโทษปรับเริ่มต้น 5 พัน - หมื่นกว่า และอาจจำคุก 2 - 10 ปี

ทีนี้ ถ้าตอบเรื่องการเอาเข้านั้น บอกตรงๆ ว่า การเข้ามาผ่านเครื่องบินทำได้ยากครับ เพราะตัวใหญ่มาก สแกนยังไงก็เจอ  แต่ถ้าว่าตรงๆ เอามาผ่านเครื่องบินโอกาสจะโดนตรวจน้อยกว่าส่งไปรษณีย์มา เพราะถ้าแพ็คไปรษณีย์มา ทุกกล่องพัสดุจะโดนสแกนอยู่แล้ว ซึ่งไม่รอดแน่นอน

แต่ถ้าจะเอามาจริงๆ มันพอมีวิธีครับ

- เตรียมกระเป๋าเดินทางแบบไม่ใหม่มากเอาไป เก่าๆ ก็ได้ เพราะถ้าดูใหม่ๆ จะเข้าข่ายน่าสงสัย
- ตอนที่ยัดใส่กระเป๋าเดินท่งนั้นให้เอาเสื้อผ้า (ที่ใส่แล้ว) ยัดล้อมรอบเอาไว้ครับ กรณีที่โดนตรวจสแกน แม้ว่ามันจะมองทะลุ แต่มันจะมองเห็นเป็นเสื้อผ้าองๆ กัน (ผมฝากรุ่นน้องซื้อตัวโหดมา โดนผ่านเครืองสแกนครับ แต่ไม่โดนเรียก วันนั้นเสียวกันทั้งผมทั้งรุ่นน้อง)
- เลือกตัวที่เป็นซิลิโคนมา อย่าเอาที่มีเหล็กหรือพวกพลาสติกเป็นส่วนประกอบ เพราะตอนเอาข้าเครื่องสแกนมันจะออกมาดูคล้านกระดูก มันจะน่าสงสัย
- เลือกอันที่มีรูปร่างกลมๆ แบนๆ (หรือทำไงก็ได้ ไม่ให้มันเห็นรูปร่างสัดส่วนชัดเจน) ซึ่งแนะนำง่ายที่สุดคือ เอาเสื้อผ้ายัดๆ รวมไว้
- ทิ้งกล่องซะ เพราะกล่องจะกินพื้นที่ และมันจะดูน่าสงสัยมาก
- โดยปกติ กระเป๋าเดินทางที่ใส่เสื้อผ้ามักจะไม่โดนตรวจ แต่อย่าใส่กระะเป๋าแยก
- ถ้ามีจุดประสงค์จะไปซื้อจริงๆ ไม่แนะนำให้ซื้อของที่สุ่มเสี่ยงที่จะต้องตรวจ เช่น พวกกล่องฟิกเกอร์ กันดั้มใหญ่ๆ เครื่องสำอางค์ กระเป๋าเบรนที่ดูน่าสงสัย (คือ หลังๆ มีพ่อค้าแม้ค้าไปหิ้วของญี่ปุ่นกลับมาไทยเยอะ เที่ยวบินญี่ปุ่นเลยเริ่มถูกจับตามองเป็นกรณีพิเศษ)
- สำคัญเลยคือ "ห้ามแกะซองพลาสติก" ก่อนใส่ในกระเป๋า คือเข้าใจครับว่าซื้อมาแล้วก็อยากสัมผัสลูบไล้หรือเทสของ แต่พวกนี้ กลิ่นมันจะแรงมาก และเป็นกลิ่นซิลิโคน ผสม แป้งเฉพาะ มีโอกาสที่กลิ่นจะรั่วออกมาจากกระเป๋าแล้วมันจะดูยิ่งน่าสงสัยครับ
- ส่วนพวกเจล พวกนี้ไม่ใช่ของผิดกฎหมาย แต่ถ้าฉลากมีรูปอื้อหืออ้าหาอยู่แกะออกครับ

ที่เ้หลือก็ขอให้โชคดีครับ แต่เอาจริงๆ ของใหญ่ๆ แบบนั้นโอกาสโดนตรวจสูงมากเพราะมันใหญ่จนน่าสงสัย

แต่จริงๆ ผมว่าไทยควรจะเลิกเอาของพวกนี้เป็นของผิดกฎหมายได้ละนะ ขนาดมาเลเซีย ประเทศเคร่งศาสนาอิสลามยังให้เป็นของถูกกฎหมายได้เลย ตัว % ลดอาญชกรรมทางเพศได้ดีมากด้วยซํ้า