HACKER ที่ FBI ต้องการตัวที่สุด!!! ค่าหัว 3 ล้านเหรียญ!!! รัสเซีย ลั่น ไม่ส่งตัวให้!!!
16 มีนาคม 2560 0 - MGR Online
เยฟกินี โบกาเชฟ คือแฮ็กเกอร์ที่มีค่าหัวแพงที่สุดในโลก เอฟบีไอของสหรัฐอเมริกาให้ราคาที่ 3 ล้านดอลลาร์ เขาคนนี้กอบโกยเงินจากการเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ไปมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ และใช้ชีวิตอย่างหรูอยู่อย่างสบาย โดยไม่มีใครติดตามหรือจับกุมเขาได้
ในภาพไล่ล่าของเอฟบีไอ จะเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งเปลือยอกอยู่หลังพวงมาลัยเรือยอชต์หรูหรา ที่แขนข้างหนึ่งสวมใส่นาฬิกาเรือนทอง หรืออีกภาพเขาสวมชุดสูทลายเสือดาว แว่นกันแดดสีดำ ในมือมีแมวลายจุดคล้ายชุดสูท ทวิตเตอร์ (ที่ไม่เป็นทางการ) ของเขามีสเตตัสในโปรไฟล์ว่า “ทำไมต้องเป็นพระราชา ในเมื่อสามารถเป็นพระเจ้าได้”
ฟังดูน่าสนใจ เพราะเขา-เยฟกินี โบกาเชฟ คือแฮ็กเกอร์ที่ค่าหัวแพงที่สุดในโลก โดยเฉพาะในสายอาชญากรรมไซเบอร์ จึงไม่น่าแปลกที่คดีความของหนุ่มวัย 33 ปีคนนี้ถึงยาวเป็นหางว่าว นับรวมมูลค่าที่เขาเจาะและขโมยไปได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา เพราะเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาปรากฏมีหมายจับเขา และใครอื่นอีก 5 คนออกมา
New York Times นำภาพถ่ายของเขามาตีพิมพ์ ภายใต้ข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐบาลอเมริกัน เพื่อส่งข่าวให้ทุกประเทศทั่วโลกได้รับรู้ว่า หนุ่มรัสเซียนผู้นี้กำลังเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่า ไม่มีใครสามารถจับกุมเขาได้ เนื่องจากโบกาเชฟอยู่ภายใต้ปีกของหน่วยราชการลับรัสเซีย
โบกาเชฟแตกต่างจากอาชญากรอื่นๆ ตรงที่เขาสามารถใช้ชีวิตปกติโดยไม่ต้องปกปิดหรือปลอมแปลงตัวตน ชื่อจริงตัวจริงของเขาไปปรากฏอยู่ที่สถานตากอากาศอะนาปา ทางตอนใต้ของรัสเซีย ไม่ใส่ใจกับแผ่นประกาศต้องการตัวของเอฟบีไอ แถมยังขับเรือยอชต์ตระเวนไปทั่วทะเลดำ นอกจากนั้นเขายังมีบ้านและที่ดินอยู่ในคราสโนดาร์ และอพาร์ตเมนต์หรูอีกหลังในมอสโก
ไม่เพียงแค่นั้น โบกาเชฟยังชื่นชอบรถหรู เขาชอบขับรถจี๊ป แกรนด์ เชอโรกี ตามข่าวบอกว่า รถโปรดของเขามักจอดอยู่ตามลานจอดทั่วยุโรป เพื่อว่าเวลาเดินทางไปไหนมาไหนเขาจะได้ไม่ต้องเช่ารถ อีกข่าวระบุว่า เขามีหนังสือเดินทางของรัสเซียถึง 3 เล่ม ใช้ชื่อต่างกัน เพื่อปกปิดตัวตนเวลาเดินทาง
อาชีพแฮ็กเกอร์ไม่เพียงทำให้โบกาเชฟร่ำรวย แต่ยังทำให้เขามีอำนาจอีกด้วย ว่ากันว่าเขาสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในจำนวนนั้นรวมถึงคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาลด้วย สำหรับหน่วยราชการลับของรัสเซียแล้ว นี่ถือเป็นโอกาส New York Times รายงานว่า ระหว่างที่โบกาเชฟขโมยเงินล้านจากบัญชีธนาคาร เหล่าเคจีบีก็จะแอบส่องข้อมูลและอีเมล์ต่างๆ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ในสหรัฐอเมริกาที่โดนแฮ็ก ส่วนใหญ่มักจะเป็นข้อมูลประเภท “ลับสุดยอด” หรือ “กระทรวงกลาโหม”
แม้ว่าโบกาเชฟจะถูกหมายหัวในระดับสูงสุด แต่รัสเซียก็ไม่ส่งตัวเขาให้ใคร ตราบใดที่เขายังไม่ก่อคดีความในรัสเซีย รัฐบาลรัสเซียประกาศอย่างแจ่มชัด เจ้าหน้าที่บางนายในกรมตำรวจของสหรัฐฯ เชื่อว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังรับสมัครอาชญากรทุกคดีที่ทางเอฟบีไอของสหรัฐฯ ต้องการตัว แต่คำกล่าวหานั้นยังไม่มีหลักฐานยืนยัน
ข้อมูลเกี่ยวกับแฮ็กเกอร์วัย 33 ปีมีไม่มากนัก นอกจากว่าเขามีภรรยาหนึ่งคน และลูก 2 คน “เขาค่อนข้างจะ’นอยด์เอาการทีเดียว” คีธ มูลาร์สกี้ หัวหน้าฝ่ายของเอฟบีไอในพิตต์เบิร์ก บอกกับนักข่าว New York Times “เขาไม่ไว้วางใจใครเลย เวลาออนไลน์เขาจะใช้อำพรางตัวเองหลายชื่อ อย่าง ‘slavik’ ‘lucky12345’ หรือ ‘pollingsoon’ แม้แต่คนที่เขาทำธุรกิจด้วยก็ไม่เคยรู้จักตัวตนจริงๆ ของเขา”
นั่นคือสิ่งที่เอฟบีไอรู้ หรือคาดว่ารู้ แต่ก็แค่นั้น เพราะถ้าทำได้มากกว่านี้ก็คงไม่ต้องตั้งรางวัลนำจับมากที่สุดในโลกขนาดนั้น
http://manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9600000026789
โหดสัสรัสเซีย!!! HACKER ที่ FBI ต้องการตัวที่สุด!!! ค่าหัว 3 ล้านเหรียญ!!! รัสเซีย ลั่น ไม่ส่งตัวให้!!!
16 มีนาคม 2560 0 - MGR Online
เยฟกินี โบกาเชฟ คือแฮ็กเกอร์ที่มีค่าหัวแพงที่สุดในโลก เอฟบีไอของสหรัฐอเมริกาให้ราคาที่ 3 ล้านดอลลาร์ เขาคนนี้กอบโกยเงินจากการเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ไปมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ และใช้ชีวิตอย่างหรูอยู่อย่างสบาย โดยไม่มีใครติดตามหรือจับกุมเขาได้
ในภาพไล่ล่าของเอฟบีไอ จะเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งเปลือยอกอยู่หลังพวงมาลัยเรือยอชต์หรูหรา ที่แขนข้างหนึ่งสวมใส่นาฬิกาเรือนทอง หรืออีกภาพเขาสวมชุดสูทลายเสือดาว แว่นกันแดดสีดำ ในมือมีแมวลายจุดคล้ายชุดสูท ทวิตเตอร์ (ที่ไม่เป็นทางการ) ของเขามีสเตตัสในโปรไฟล์ว่า “ทำไมต้องเป็นพระราชา ในเมื่อสามารถเป็นพระเจ้าได้”
ฟังดูน่าสนใจ เพราะเขา-เยฟกินี โบกาเชฟ คือแฮ็กเกอร์ที่ค่าหัวแพงที่สุดในโลก โดยเฉพาะในสายอาชญากรรมไซเบอร์ จึงไม่น่าแปลกที่คดีความของหนุ่มวัย 33 ปีคนนี้ถึงยาวเป็นหางว่าว นับรวมมูลค่าที่เขาเจาะและขโมยไปได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา เพราะเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาปรากฏมีหมายจับเขา และใครอื่นอีก 5 คนออกมา
New York Times นำภาพถ่ายของเขามาตีพิมพ์ ภายใต้ข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐบาลอเมริกัน เพื่อส่งข่าวให้ทุกประเทศทั่วโลกได้รับรู้ว่า หนุ่มรัสเซียนผู้นี้กำลังเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่า ไม่มีใครสามารถจับกุมเขาได้ เนื่องจากโบกาเชฟอยู่ภายใต้ปีกของหน่วยราชการลับรัสเซีย
โบกาเชฟแตกต่างจากอาชญากรอื่นๆ ตรงที่เขาสามารถใช้ชีวิตปกติโดยไม่ต้องปกปิดหรือปลอมแปลงตัวตน ชื่อจริงตัวจริงของเขาไปปรากฏอยู่ที่สถานตากอากาศอะนาปา ทางตอนใต้ของรัสเซีย ไม่ใส่ใจกับแผ่นประกาศต้องการตัวของเอฟบีไอ แถมยังขับเรือยอชต์ตระเวนไปทั่วทะเลดำ นอกจากนั้นเขายังมีบ้านและที่ดินอยู่ในคราสโนดาร์ และอพาร์ตเมนต์หรูอีกหลังในมอสโก
ไม่เพียงแค่นั้น โบกาเชฟยังชื่นชอบรถหรู เขาชอบขับรถจี๊ป แกรนด์ เชอโรกี ตามข่าวบอกว่า รถโปรดของเขามักจอดอยู่ตามลานจอดทั่วยุโรป เพื่อว่าเวลาเดินทางไปไหนมาไหนเขาจะได้ไม่ต้องเช่ารถ อีกข่าวระบุว่า เขามีหนังสือเดินทางของรัสเซียถึง 3 เล่ม ใช้ชื่อต่างกัน เพื่อปกปิดตัวตนเวลาเดินทาง
อาชีพแฮ็กเกอร์ไม่เพียงทำให้โบกาเชฟร่ำรวย แต่ยังทำให้เขามีอำนาจอีกด้วย ว่ากันว่าเขาสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในจำนวนนั้นรวมถึงคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาลด้วย สำหรับหน่วยราชการลับของรัสเซียแล้ว นี่ถือเป็นโอกาส New York Times รายงานว่า ระหว่างที่โบกาเชฟขโมยเงินล้านจากบัญชีธนาคาร เหล่าเคจีบีก็จะแอบส่องข้อมูลและอีเมล์ต่างๆ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ในสหรัฐอเมริกาที่โดนแฮ็ก ส่วนใหญ่มักจะเป็นข้อมูลประเภท “ลับสุดยอด” หรือ “กระทรวงกลาโหม”
แม้ว่าโบกาเชฟจะถูกหมายหัวในระดับสูงสุด แต่รัสเซียก็ไม่ส่งตัวเขาให้ใคร ตราบใดที่เขายังไม่ก่อคดีความในรัสเซีย รัฐบาลรัสเซียประกาศอย่างแจ่มชัด เจ้าหน้าที่บางนายในกรมตำรวจของสหรัฐฯ เชื่อว่า รัฐบาลรัสเซียกำลังรับสมัครอาชญากรทุกคดีที่ทางเอฟบีไอของสหรัฐฯ ต้องการตัว แต่คำกล่าวหานั้นยังไม่มีหลักฐานยืนยัน
ข้อมูลเกี่ยวกับแฮ็กเกอร์วัย 33 ปีมีไม่มากนัก นอกจากว่าเขามีภรรยาหนึ่งคน และลูก 2 คน “เขาค่อนข้างจะ’นอยด์เอาการทีเดียว” คีธ มูลาร์สกี้ หัวหน้าฝ่ายของเอฟบีไอในพิตต์เบิร์ก บอกกับนักข่าว New York Times “เขาไม่ไว้วางใจใครเลย เวลาออนไลน์เขาจะใช้อำพรางตัวเองหลายชื่อ อย่าง ‘slavik’ ‘lucky12345’ หรือ ‘pollingsoon’ แม้แต่คนที่เขาทำธุรกิจด้วยก็ไม่เคยรู้จักตัวตนจริงๆ ของเขา”
นั่นคือสิ่งที่เอฟบีไอรู้ หรือคาดว่ารู้ แต่ก็แค่นั้น เพราะถ้าทำได้มากกว่านี้ก็คงไม่ต้องตั้งรางวัลนำจับมากที่สุดในโลกขนาดนั้น
http://manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9600000026789