ตอนนี้ปิดบัญชีนี้ไปแล้วนะคะ เมื่อไม่นานมานี้ แต่ที่ตั้งกระทู้เพราะอยากเตือนทุกๆคนว่าตอนนี้แม้จะเปิดบัญชีธรรมดาไม่ต้องมีบัตร ATM ธนาคารก็สามารถแอบพ่วงประกันให้ได้แล้วนะคะ เข้าเรื่องเลยนะคะ
เราได้ไปทำการเปิดบัญชีกับธนาคารสีม่วงที่สาขาเมกาบางนามาเมื่อ เดือนธันวา ปี 2559 โดยแจ้งชัดเจนกับทางพนักงานว่าเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาเลยนะคะ และไม่เอาบัตร ATM พนักงานก็ทำการเปิดบัญชีออมทรัพย์มาให้ปกติ แต่ที่แปลกคือ หน้าแรกของ book bank นอกจากชื่อบัญชี และเลขที่บัญชีแล้ว ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกคือ "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" โดยในนี้ระบุว่า "ทายาทตามกฎหมาย" (ตามรูป) เราจึงทำการสอบถามพนักงานว่าอันนี้คือบัญชีออมทรัพย์ปกติแน่นะคะ พนักงานตอบกลับมาว่า "ใช่ครับ" เราเลยไม่ติดใจอะไรเพราะคิดว่าธนาคารอาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหน้า book bank ใหม่
เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมีคนมาทักว่า "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" นี่คืออะไรอ่ะ เดี๋ยวนี้ธนาคารเค้าระบุแบบนี้แล้วหรอ เหมือนทำประกันเลยเนอะ เราเลยเริ่มเอะใจและไปถามธนาคารม่วงที่สาขาอื่นแถวๆที่ทำงาน ธนาคารได้อธิบายดังนี้
"บัญชีประเภทจากใจ(ตามรูป)นี้มีประกันคุ้มครองคุณลูกค้านะคะ หากเสียชีวิตธนาคารจะให้เงินในบัญชีกับผู้รับผลประโยชน์คะ" เราเลยถามต่อว่าแล้วมีการเก็บเงินเพิ่มไหม พนักงานแจ้งกลับมาว่า "บัญชีแบบนี้ไม่มีการเก็บเงินลูกค้าเพิ่มคะ แต่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ของลูกค้าก็จะได้น้อยลง เช่น ถ้าตอนนี้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5% ต่อปี บัญชีจากใจก็จะได้ดอกเบี้ยแค่ 0.25% ต่อปี" เราจึงถามพนักงานเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้ธนาคารไม่มีออมทรัพย์ธรรมดาแล้วใช่ไหมคะ พนักงานก็ตอบว่า "มีคะ"
แค่นั้นแหละเมื่อเราทราบข้อมูลเรารู้สึกไม่พอใจพนักงานที่เปิดบัญชีให้เรามาก เพราะเราระบุแล้วว่าขอเปิดบัญชีออมทรัพย์แบบธรรมดา ไม่ได้แจ้งว่าต้องการอะไรเพิ่มเติม อีกอย่างเรารูสึกว่าธนาคารเอาเปรียบเราเกินไป เพราะดอกเบี้ยออมทรัพย์ทุกวันนี้ก็น้อยอยู่แล้ว ยังจะมาโมเมเปิดบัญชีจากใจ เพื่อหาเรื่องจ่ายดอกเบี้ยเราลดลงอีก เราพูดตรงๆเลยเราว่ามันเป็นการตลาดหรืออะไรก็ตามที่ทุเรศและน่าเกลียดมากๆ เอาเปรียบผู้บริโภคอย่างชัดเจน
ในวันนั้นเราเลยกลับไปที่ธนาคารม่วงสาขาเมกาบางนาเพื่อขอปิดบัญชี พร้อมแจ้งกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ถึงสาเหตุที่ปิดปัญชีว่า พนักงานทำไมถึงเปิดบัญชีที่พ่วงประกันมาให้แบบนี้ทั้งๆที่ตอนแรกแจ้งแล้วว่าต้องการเป็นบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา พนักงานจึงไปตามผู้จัดการสาขามาคุยกับเราคะ การพูดคุยกันจึงเป็นดังนี้
ผู้จัดการ : ทางธนาคารต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าพี่แถมให้ ATM คุณจะโอเคไหมคะ พี่ขออย่าปิดบัญชีเลย
เรา : ไม่ค่ะ ไม่ต้องการ แค่อยากทราบว่าพนักงานคนไหนเป็นคนเปิดบัญชีให้แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ คือน่าจะมีการถามลูกค้าก่อนไหมว่าต้องการหรือ
เปล่าไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้ (ในใจคิดว่าจะเสนอ ATM เพื่ออะไร ไม่ได้ต้องการหรือเปล่าแล้วมันช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้หรอ)
ผู้จัดการ : ทางพี่รู้สึกไม่สบายใจมากเลยคะ ขอพี่ดูแลต่อได้ไหม อย่าปิดบัญชีเลยนะคะ
เรา : ไม่ค่ะ ต้องการปิดบัญชี เพราะเอาตรงๆคือไม่พอใจมาก
ผู้จัดการ : แต่พี่ว่าน้องเค้าน่าจะถามคุณก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้น "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" น้องจะระบุชื่อได้อย่างไร
เรา : เปิดดูก่อนไหมคะว่าระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์หรือเปล่า (คิดในใจพูดชุ่ยๆแบบนี้ ดูก่อนพูดไหม เข้าข้างลูกน้องหรืออะไร น้องเค้าจะระบุชื่อผู้รับผล
ประโยชน์ได้ยังไงเพราะเค้าเปิดบัญชีแบบไม่ถามสักคำนี่)
หลังจากนั้นผู้จัดการก็ทำการโทรหาน้องผู้ชายที่ทำการเปิดบัญชีให้เราและให้เราคุยกับน้องเค้า น้องเค้าก็ขอโทษเรานะ แล้วน้องเค้าให้เหตุผลว่าบัญชีจากใจที่เปิดให้มีประกันชีวิตให้เรา 1 ล้านบาทเลยนะ เราเลยถามกลับไปว่าแล้วไงไม่ได้ต้องการไหม ทำไมไม่ถามก่อน ถ้าถามมันจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้เลยไหม น้องเค้าก็ได้แต่ขอโทษ
ผู้จัดการ : ทางเรารู้สึกผิดมากเลย ให้พี่ดูแลน้องต่อเถอะนะคะ
เรา : ไม่เป็นไรคะ คือคุณก็รู้ใช่ไหมคะว่าบัญชีนี้มันจะได้ดอกเบี้ยน้อยกว่าปกติ ซึ่งปกติดอกเบี้ยออมทรัพย์ก็น้อยมากอยู่แล้วอ่ะ แล้วเราแจ้งพนักงาน
คุณไปแล้วว่าเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา ทำไมพนักงานคุณถึงทำแบบนี้ มันเหมือนมัดมือชก ซึ่งไม่พอใจคะ เพราะฉะนั้นปิดบัญชี
ผู้จัดการ : พี่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ พี่จะตักเตือนน้องเค้าให้
เรา : ค่ะ (ปิดได้สักทีนะบัญชีเนี่ย ยื้อไว้อยู่ได้)
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เรารู้สึกแย่กับธนาคารนี้นะคะ เพราะปกติเราไปเปิดบัญชีที่ไหมไม่เคนเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน อีกอย่างเรื่องที่ธนาคารหาเรื่องจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์น้องลงโดยการยัดเยียดประกันให้ลูกค้าแบบนี้เราไม่โอเคมากคะ จึงอยากเตือนคนอื่นๆที่ต้องการเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาแบบเรา ให้ระวังพนักงานที่หมกเม็ดเปิด "จากใจมาให้" ให้ปฏิเสธเลยนะคะ จะได้ทันกลยุทธ์ที่ไม่โอเคแบบนี้จากธนาคาร เราหวังว่าธนาคารสาขาเมกาคงจะคิดได้แล้วทำการถามลูกค้าก่อนนะคะ หวังว่าจะไม่เกิดแบบนี้กับคนอื่นๆอีก
ขอบคุณค่ะ
ขอเตือน!! เปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดากับธนาคารสีม่วงสาขาเมกาบางนา พนักงานหมกเม็ดเปิดบัญชีพ่วงประกันชีวิตมาให้ไม่ถามสักคำ
เราได้ไปทำการเปิดบัญชีกับธนาคารสีม่วงที่สาขาเมกาบางนามาเมื่อ เดือนธันวา ปี 2559 โดยแจ้งชัดเจนกับทางพนักงานว่าเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาเลยนะคะ และไม่เอาบัตร ATM พนักงานก็ทำการเปิดบัญชีออมทรัพย์มาให้ปกติ แต่ที่แปลกคือ หน้าแรกของ book bank นอกจากชื่อบัญชี และเลขที่บัญชีแล้ว ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกคือ "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" โดยในนี้ระบุว่า "ทายาทตามกฎหมาย" (ตามรูป) เราจึงทำการสอบถามพนักงานว่าอันนี้คือบัญชีออมทรัพย์ปกติแน่นะคะ พนักงานตอบกลับมาว่า "ใช่ครับ" เราเลยไม่ติดใจอะไรเพราะคิดว่าธนาคารอาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหน้า book bank ใหม่
เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมีคนมาทักว่า "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" นี่คืออะไรอ่ะ เดี๋ยวนี้ธนาคารเค้าระบุแบบนี้แล้วหรอ เหมือนทำประกันเลยเนอะ เราเลยเริ่มเอะใจและไปถามธนาคารม่วงที่สาขาอื่นแถวๆที่ทำงาน ธนาคารได้อธิบายดังนี้
"บัญชีประเภทจากใจ(ตามรูป)นี้มีประกันคุ้มครองคุณลูกค้านะคะ หากเสียชีวิตธนาคารจะให้เงินในบัญชีกับผู้รับผลประโยชน์คะ" เราเลยถามต่อว่าแล้วมีการเก็บเงินเพิ่มไหม พนักงานแจ้งกลับมาว่า "บัญชีแบบนี้ไม่มีการเก็บเงินลูกค้าเพิ่มคะ แต่ดอกเบี้ยออมทรัพย์ของลูกค้าก็จะได้น้อยลง เช่น ถ้าตอนนี้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.5% ต่อปี บัญชีจากใจก็จะได้ดอกเบี้ยแค่ 0.25% ต่อปี" เราจึงถามพนักงานเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้ธนาคารไม่มีออมทรัพย์ธรรมดาแล้วใช่ไหมคะ พนักงานก็ตอบว่า "มีคะ"
แค่นั้นแหละเมื่อเราทราบข้อมูลเรารู้สึกไม่พอใจพนักงานที่เปิดบัญชีให้เรามาก เพราะเราระบุแล้วว่าขอเปิดบัญชีออมทรัพย์แบบธรรมดา ไม่ได้แจ้งว่าต้องการอะไรเพิ่มเติม อีกอย่างเรารูสึกว่าธนาคารเอาเปรียบเราเกินไป เพราะดอกเบี้ยออมทรัพย์ทุกวันนี้ก็น้อยอยู่แล้ว ยังจะมาโมเมเปิดบัญชีจากใจ เพื่อหาเรื่องจ่ายดอกเบี้ยเราลดลงอีก เราพูดตรงๆเลยเราว่ามันเป็นการตลาดหรืออะไรก็ตามที่ทุเรศและน่าเกลียดมากๆ เอาเปรียบผู้บริโภคอย่างชัดเจน
ในวันนั้นเราเลยกลับไปที่ธนาคารม่วงสาขาเมกาบางนาเพื่อขอปิดบัญชี พร้อมแจ้งกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ถึงสาเหตุที่ปิดปัญชีว่า พนักงานทำไมถึงเปิดบัญชีที่พ่วงประกันมาให้แบบนี้ทั้งๆที่ตอนแรกแจ้งแล้วว่าต้องการเป็นบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา พนักงานจึงไปตามผู้จัดการสาขามาคุยกับเราคะ การพูดคุยกันจึงเป็นดังนี้
ผู้จัดการ : ทางธนาคารต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าพี่แถมให้ ATM คุณจะโอเคไหมคะ พี่ขออย่าปิดบัญชีเลย
เรา : ไม่ค่ะ ไม่ต้องการ แค่อยากทราบว่าพนักงานคนไหนเป็นคนเปิดบัญชีให้แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ คือน่าจะมีการถามลูกค้าก่อนไหมว่าต้องการหรือ
เปล่าไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้ (ในใจคิดว่าจะเสนอ ATM เพื่ออะไร ไม่ได้ต้องการหรือเปล่าแล้วมันช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้หรอ)
ผู้จัดการ : ทางพี่รู้สึกไม่สบายใจมากเลยคะ ขอพี่ดูแลต่อได้ไหม อย่าปิดบัญชีเลยนะคะ
เรา : ไม่ค่ะ ต้องการปิดบัญชี เพราะเอาตรงๆคือไม่พอใจมาก
ผู้จัดการ : แต่พี่ว่าน้องเค้าน่าจะถามคุณก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้น "ข้อมูลผู้รับผลประโยชน์" น้องจะระบุชื่อได้อย่างไร
เรา : เปิดดูก่อนไหมคะว่าระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์หรือเปล่า (คิดในใจพูดชุ่ยๆแบบนี้ ดูก่อนพูดไหม เข้าข้างลูกน้องหรืออะไร น้องเค้าจะระบุชื่อผู้รับผล
ประโยชน์ได้ยังไงเพราะเค้าเปิดบัญชีแบบไม่ถามสักคำนี่)
หลังจากนั้นผู้จัดการก็ทำการโทรหาน้องผู้ชายที่ทำการเปิดบัญชีให้เราและให้เราคุยกับน้องเค้า น้องเค้าก็ขอโทษเรานะ แล้วน้องเค้าให้เหตุผลว่าบัญชีจากใจที่เปิดให้มีประกันชีวิตให้เรา 1 ล้านบาทเลยนะ เราเลยถามกลับไปว่าแล้วไงไม่ได้ต้องการไหม ทำไมไม่ถามก่อน ถ้าถามมันจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้เลยไหม น้องเค้าก็ได้แต่ขอโทษ
ผู้จัดการ : ทางเรารู้สึกผิดมากเลย ให้พี่ดูแลน้องต่อเถอะนะคะ
เรา : ไม่เป็นไรคะ คือคุณก็รู้ใช่ไหมคะว่าบัญชีนี้มันจะได้ดอกเบี้ยน้อยกว่าปกติ ซึ่งปกติดอกเบี้ยออมทรัพย์ก็น้อยมากอยู่แล้วอ่ะ แล้วเราแจ้งพนักงาน
คุณไปแล้วว่าเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา ทำไมพนักงานคุณถึงทำแบบนี้ มันเหมือนมัดมือชก ซึ่งไม่พอใจคะ เพราะฉะนั้นปิดบัญชี
ผู้จัดการ : พี่ต้องขอโทษจริงๆนะคะ พี่จะตักเตือนน้องเค้าให้
เรา : ค่ะ (ปิดได้สักทีนะบัญชีเนี่ย ยื้อไว้อยู่ได้)
จากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เรารู้สึกแย่กับธนาคารนี้นะคะ เพราะปกติเราไปเปิดบัญชีที่ไหมไม่เคนเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน อีกอย่างเรื่องที่ธนาคารหาเรื่องจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์น้องลงโดยการยัดเยียดประกันให้ลูกค้าแบบนี้เราไม่โอเคมากคะ จึงอยากเตือนคนอื่นๆที่ต้องการเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดาแบบเรา ให้ระวังพนักงานที่หมกเม็ดเปิด "จากใจมาให้" ให้ปฏิเสธเลยนะคะ จะได้ทันกลยุทธ์ที่ไม่โอเคแบบนี้จากธนาคาร เราหวังว่าธนาคารสาขาเมกาคงจะคิดได้แล้วทำการถามลูกค้าก่อนนะคะ หวังว่าจะไม่เกิดแบบนี้กับคนอื่นๆอีก
ขอบคุณค่ะ