คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ตามความเห็นของผมนะ สาขาวิชาต่างๆที่เปิดเรียนกัน อาจแบ่งออกได้เป็นสี่กลุ่ม
1. Everyone wins
2. Winner Takes All
3. Winner Takes Some
4. You win or you die
1. Everyone wins
อาจกล่าวได้ว่าหมอเป็นสาขาวิชาเดียวครับก็ได้ที่มี"ภาพรวม"ว่า "Everyone wins" (ต่างกันแค่ใคร win มาก win น้อย)
- หากใครก็ตามที่พาตัวเองเข้าไปได้ และจบออกได้ แม้จะเรียนได้ลำดับท้ายๆของห้องก็มีงานตรงสายรองรับ และได้เงินเดือนสตาร์ทสูงกว่าเกณฑ์มนุษย์เงินเดือนทั่วไป
- เป็นสาขาวิชาที่คำว่า "ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย" ยังมองเห็นชัดอยู่ ถ้าอยากได้เงินเพิ่ม ก็ทำคลินิคได้ ขวนขวายไปโรงพยาบาลที่แพงกว่าได้ หากเรียนลงลึกเฉพาะทางออกมาก็ได้เงินมากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ ถึงในวงการหมอจะมีการเมืองเหมือนกัน แต่หนทางที่ก้าวหน้าได้โดยไม่ต้องพึ่งการเมืองนั้นยังกว้างกว่าสายอื่นๆ
2. Winner takes all
กลุ่มนี้ จะมีสาขาแบบวิชาตรงสาย ที่คนจบสาขาอื่นมาแย่งไปทำไม่ได้ แต่ในการทำงานตรงสายนั้น ถ้าไม่ได้ไปทำกับบริษัทใหญ่ๆ ที่เน้นเลือกเก็บเฉพาะพวกหัวกะทิแล้ว เงินเดือนที่ได้ก็ไม่ค่อยมากนัก แต่ความรู้ที่ได้มาจากการเรียนสาขาวิชาของตนนั้นก็เอาไ่งปทำงานในสาขาวิชาอื่นๆได้
ในกลุ่มนี้ สาขาวิชาที่ได้ชัดๆก็คือกฎหมายจากกลุ่มสายศิลป์ครับ ต้องเก่งจริงๆถึงจะได้ไปเป็นผู้พิพากษา หรือทำงานใน law firm ใหญ่ๆได้
ในกรณีของเด็กกฎหมาย ถ้าเข้าไปเป็นผู้พิพากษาได้ ก็แทบไม่กังวลกับอนาคตต่อไป หรือถ้าได้ไปทำ law firm ใหญ่ๆ ก็จะได้รับเงินสูงมาก และกระทบไหล่กับคนใหญ่คนโตของแต่ละวงการได้ ส่วนคนที่ไม่เข้าข่ายสองพวกนี้ ทำงานตรงสายก็ได้เงินไม่ค่อยมากนัก แต่ก็ยังมีข้อดีตรงที่กฎหมายสร้างวิธีคิดเป็นระบบให้นำไปใช้กับงานอื่นได้ในระดับหนึ่ง
มีคนรู้จักของผมคนหนึ่ง จบกฎหมายมา แทนที่จะไปทำสายกฎหมาย กลับอ่านหนังสือสอบเอนท์เข้าหมออีกครั้งแทน หลายๆคนมองว่าคนนี้บ้าแน่ๆ แต่เจ้าตัวเขามองว่า ยอมลำบากอีกหกปี แล้วได้งานดีแน่ๆนั้น ย่อมดีกว่าลงทุนต่อโท ต่อเอก เรียนเน เรียนตั๋ว สอบผู้ช่วย ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะทำสำเร็จ
วิศวะ ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตรองจากคณะแพทย์นั้น จัดเป็นสาขาที่โดดเด่นอีกอย่างในกลุ่มนี้ครับ
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งงานหลายอย่างๆนั้น เริ่มมีการพัฒนาคลาสไปเป็น.... engineer ไว้ให้สำหรับวิศวะโดยเฉพาะ
งานสาย sales ก็มี sales engineer
งานสาย management ก็มี managing engineer
งานสาย marketing ก็มี marketing engineer
งานสายคอม ก็มี system engineer
นอกจากนี้ เด็กวิศวะจำนวนมาก ยังภาคภูมิใจว่า สิ่งที่ตนเรียนมานั้น ได้สร้างระบบความคิดชั้นเลิศที่สามารถทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จในการทำงานสายอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นงานสายธุรกิจ การเมือง
3. Winner takes some
กลุ่มนี้จะมีสาขาแบบวิชาตรงสาย แต่คนจากสาขาวิชาอื่นสามารถเข้ามาแย่งทำได้ ยกตัวอย่างเช่นบริการธุรกิจ การโรงแรม นิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์
4. You win or you die
ในกลุ่มนี้ สาขาวิชาแบบตรงสายนั้นแทบไม่มีเลย ถ้าไม่สามารถดันเป็นตัวเองจนเป็น expert ระดับประเทศได้ โอกาสทำเงินน้อยมาก
ตัวอย่างสาขาวิชากลุ่มนี้ก็คือ โบราณคดี ศาสนวิทยา ปรัชญา ภาษาต่างประเทศที่คนพูดน้อยๆ เช่นภาษากรีก ภาษาเปอร์เซีย
หรือไม่ก็เป็นสาขาวิชาชีพสายบันเทิงอย่าง ทำ animation นักพากย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ
สาขาแพทย์และสาขาผู้พิพากษามีความน่ากลัวตรงที่ คนในสายอาชีพนี้ สามารถสร้างระบบสืบทอดไปยังคนรุ่นต่อไปในครอบครัว
ได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ผิดศีลธรรม
เพราะวิชาสองสายนี้ ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางสูง ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ สามารถถ่ายทอด know how ให้ลูกได้โดยตรง
ถ้าพ่อแม่มีศิลปะ ก็จะก็จะสามารถแสดงจุดเด่นโน้มน้าวให้ลูกอยากทำงานสายเดียวกันได้ (ซึงพ่อแม่ที่อยู่นอกสาขาจำนวนมาก เวลาโน้มน้ามลูกให้ไปเรียนหมอนั้น มักจะเน้นเรื่องเงินดี งานมั่นคงเสียเป็นส่วนใหญ่ )่
คนเป็นแพทย์จำนวนมากมีญาติเป็นแพทย์
คนเป็นผู้พิพากษาจำนวนมากมีญาติเป็นผู้พิพากษา และส่วนใหญ่ก็รู้ๆจักกัน
คนข้างนอกที่ได้เข้ามาถึงจะมีอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มน้อยลงเรื่อยๆ ครับ
1. Everyone wins
2. Winner Takes All
3. Winner Takes Some
4. You win or you die
1. Everyone wins
อาจกล่าวได้ว่าหมอเป็นสาขาวิชาเดียวครับก็ได้ที่มี"ภาพรวม"ว่า "Everyone wins" (ต่างกันแค่ใคร win มาก win น้อย)
- หากใครก็ตามที่พาตัวเองเข้าไปได้ และจบออกได้ แม้จะเรียนได้ลำดับท้ายๆของห้องก็มีงานตรงสายรองรับ และได้เงินเดือนสตาร์ทสูงกว่าเกณฑ์มนุษย์เงินเดือนทั่วไป
- เป็นสาขาวิชาที่คำว่า "ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย" ยังมองเห็นชัดอยู่ ถ้าอยากได้เงินเพิ่ม ก็ทำคลินิคได้ ขวนขวายไปโรงพยาบาลที่แพงกว่าได้ หากเรียนลงลึกเฉพาะทางออกมาก็ได้เงินมากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ ถึงในวงการหมอจะมีการเมืองเหมือนกัน แต่หนทางที่ก้าวหน้าได้โดยไม่ต้องพึ่งการเมืองนั้นยังกว้างกว่าสายอื่นๆ
2. Winner takes all
กลุ่มนี้ จะมีสาขาแบบวิชาตรงสาย ที่คนจบสาขาอื่นมาแย่งไปทำไม่ได้ แต่ในการทำงานตรงสายนั้น ถ้าไม่ได้ไปทำกับบริษัทใหญ่ๆ ที่เน้นเลือกเก็บเฉพาะพวกหัวกะทิแล้ว เงินเดือนที่ได้ก็ไม่ค่อยมากนัก แต่ความรู้ที่ได้มาจากการเรียนสาขาวิชาของตนนั้นก็เอาไ่งปทำงานในสาขาวิชาอื่นๆได้
ในกลุ่มนี้ สาขาวิชาที่ได้ชัดๆก็คือกฎหมายจากกลุ่มสายศิลป์ครับ ต้องเก่งจริงๆถึงจะได้ไปเป็นผู้พิพากษา หรือทำงานใน law firm ใหญ่ๆได้
ในกรณีของเด็กกฎหมาย ถ้าเข้าไปเป็นผู้พิพากษาได้ ก็แทบไม่กังวลกับอนาคตต่อไป หรือถ้าได้ไปทำ law firm ใหญ่ๆ ก็จะได้รับเงินสูงมาก และกระทบไหล่กับคนใหญ่คนโตของแต่ละวงการได้ ส่วนคนที่ไม่เข้าข่ายสองพวกนี้ ทำงานตรงสายก็ได้เงินไม่ค่อยมากนัก แต่ก็ยังมีข้อดีตรงที่กฎหมายสร้างวิธีคิดเป็นระบบให้นำไปใช้กับงานอื่นได้ในระดับหนึ่ง
มีคนรู้จักของผมคนหนึ่ง จบกฎหมายมา แทนที่จะไปทำสายกฎหมาย กลับอ่านหนังสือสอบเอนท์เข้าหมออีกครั้งแทน หลายๆคนมองว่าคนนี้บ้าแน่ๆ แต่เจ้าตัวเขามองว่า ยอมลำบากอีกหกปี แล้วได้งานดีแน่ๆนั้น ย่อมดีกว่าลงทุนต่อโท ต่อเอก เรียนเน เรียนตั๋ว สอบผู้ช่วย ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะทำสำเร็จ
วิศวะ ซึ่งเป็นคณะยอดฮิตรองจากคณะแพทย์นั้น จัดเป็นสาขาที่โดดเด่นอีกอย่างในกลุ่มนี้ครับ
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งงานหลายอย่างๆนั้น เริ่มมีการพัฒนาคลาสไปเป็น.... engineer ไว้ให้สำหรับวิศวะโดยเฉพาะ
งานสาย sales ก็มี sales engineer
งานสาย management ก็มี managing engineer
งานสาย marketing ก็มี marketing engineer
งานสายคอม ก็มี system engineer
นอกจากนี้ เด็กวิศวะจำนวนมาก ยังภาคภูมิใจว่า สิ่งที่ตนเรียนมานั้น ได้สร้างระบบความคิดชั้นเลิศที่สามารถทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จในการทำงานสายอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นงานสายธุรกิจ การเมือง
3. Winner takes some
กลุ่มนี้จะมีสาขาแบบวิชาตรงสาย แต่คนจากสาขาวิชาอื่นสามารถเข้ามาแย่งทำได้ ยกตัวอย่างเช่นบริการธุรกิจ การโรงแรม นิเทศศาสตร์ รัฐศาสตร์
4. You win or you die
ในกลุ่มนี้ สาขาวิชาแบบตรงสายนั้นแทบไม่มีเลย ถ้าไม่สามารถดันเป็นตัวเองจนเป็น expert ระดับประเทศได้ โอกาสทำเงินน้อยมาก
ตัวอย่างสาขาวิชากลุ่มนี้ก็คือ โบราณคดี ศาสนวิทยา ปรัชญา ภาษาต่างประเทศที่คนพูดน้อยๆ เช่นภาษากรีก ภาษาเปอร์เซีย
หรือไม่ก็เป็นสาขาวิชาชีพสายบันเทิงอย่าง ทำ animation นักพากย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมายเหตุ
สาขาแพทย์และสาขาผู้พิพากษามีความน่ากลัวตรงที่ คนในสายอาชีพนี้ สามารถสร้างระบบสืบทอดไปยังคนรุ่นต่อไปในครอบครัว
ได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ผิดศีลธรรม
เพราะวิชาสองสายนี้ ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางสูง ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ สามารถถ่ายทอด know how ให้ลูกได้โดยตรง
ถ้าพ่อแม่มีศิลปะ ก็จะก็จะสามารถแสดงจุดเด่นโน้มน้าวให้ลูกอยากทำงานสายเดียวกันได้ (ซึงพ่อแม่ที่อยู่นอกสาขาจำนวนมาก เวลาโน้มน้ามลูกให้ไปเรียนหมอนั้น มักจะเน้นเรื่องเงินดี งานมั่นคงเสียเป็นส่วนใหญ่ )่
คนเป็นแพทย์จำนวนมากมีญาติเป็นแพทย์
คนเป็นผู้พิพากษาจำนวนมากมีญาติเป็นผู้พิพากษา และส่วนใหญ่ก็รู้ๆจักกัน
คนข้างนอกที่ได้เข้ามาถึงจะมีอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มน้อยลงเรื่อยๆ ครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมอาชีพแพทย์ถึงมีอิมแพคสูง ใครๆก็อยากเป็น
กสพท.เรียนแพทย์ ซึ่งจริงๆผมว่าจบแพทย์ถ้าคิดแค่เรื่องเงินรายได้ตีเป็นตัวเลขมาเพียวๆ
มันก็คงไม่ค่อยแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญอะไรให้ลงทุนกันขนาดนี้ แต่หลายๆคนกลับเลือกจะมาทำอาชีพนี้ ผมสนใจว่าทำไมอาชีพนี้ถึงมีอิมแพคสูง สามารถดึงเด็กเก่งๆหรือกระทั่งผู้ใหญ่เก่งๆจากสาขาอื่นให้พยายามมาอยู่ตรงนี้กัน