ฝึกสอนครบ 1 ปี การศึกษาไทยในมุมมอง เด็กฝึกสอน ที่ได้สอนในโรงเรียนระดับประถมศึกษา สะท้อนออกมาสั้น ๆ ดังนี้ ครับ
1.
"ผู้บริหารสถานศึกษา ชี้ชะตาโรงเรียน" ผอ.โรงเรียน มีส่วนมาก ๆ ในการกำหนดว่าโรงเรียนจะโดดเด่นในด้านไหน อย่างที่ผมเจอมา
ผู้บริหารเลือกจะพาโรงเรียนเข้าร่วมแต่โครงการหรือกิจกรรม การศึกษาด้านผลสัมฤทธิ์ไม่ค่อยจะมุ่งเน้น แผนการจัดการเรียนรู้ของครู ก็ไม่เคยตรวจ
ไม่เคยดูแล ครูที่สอนก็ไม่ส่ง (เพราะผู้บริหารไม่เคี่ยวเข็ญ)
2.
"ประเมินโรงเรียน พาครูวุ่นวาย" โดยเฉพาะภาคเรียนที่ 1 การประเมินโรงเรียนจะเยอะมาก ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงเรียนดีประจำตำบล โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนรักพงไพร โรงเรียนรักสิ่งแวดล้อม โรงเรียนเศรษฐกิจพอเพียง โครงการ STEM ฯลฯ นี่ยังไม่นับกิจกรรมท้องถิ่นที่โรงเรียนทำร่วมกับชุมชนอีกนะครับ อย่างวันสำคัญทางศาสนา วันเข้าพรรษา เทศกาลทอดกฐิน ลอยกระทง ทำบุญปีใหม่ วันเด็ก คือพอรวม ๆ กันแล้วมันเยอะจนล้น จนเวลาสอนของครูแทบไม่มีให้เด็กเลย มีครูบางท่าน ถึงกับต้องไปช่วยเตรียมงาน ปล่อยให้เด็กอยู่ลำพัง (สั่งงานไว้อย่างเดียว) แต่พอเด็กทำเสร็จ ก็วิ่งเล่นกันสิ มันจะนั่งอยู่เฉย ๆ เหรอ
มิหนำซ้ำ ครูบางคน ต้องสอนนักเรียนพร้อมกัน 2-3 ห้อง คนละชั้นกันด้วยนะ (สอนแทนคนอื่นด้วย สอนของตนเองด้วย) ที่ต้องสอนแทนเพราะ ครูคนอื่นไม่ว่าง ลาบ้าง ไปช่วยงานโรงเรียนบ้าง แล้วถามว่าการสอนพร้อมกัน 2-3 ห้อง มันจะทำให้คุณภาพเกิดกับตัวเด็กได้อย่างไรกัน ?
3.
"ประเมินอยู่บ่อย แต่ไม่เคยประเมินการเรียนการสอน" ตลอด 1 ปีที่อยู่โรงเรียนมา ไม่เคยเจอสักครั้งที่กรรมการประเมินโรงเรียน จะมาดูสภาพจริงของการเรียนการสอนในห้องเรียน เวลาประเมินไม่ว่าจะโครงการอะไรก็ตาม ก็จะไปประเมินกันในห้องประชุม ไปประเมินในสิ่งที่โรงเรียนได้ทำ
"ผักชีโรยหน้า" ไว้เรียบร้อยแล้ว พอประเมินเสร็จก็จะมาชื่นชมว่าเด็กที่นี่ เก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ทั้งที่ตรงนั้นคือ เด็กหัวกะทิ
ทั้งนั้น (ไม่ถึง ร้อยละ 10 ของเด็กทั้งหมด) แล้วทำไม ไม่เคยมาดูสภาพจริงในห้องเรียนบ้าง
มันจะได้รู้ปัญหาไปเลย ไม่ใช่อยู่กับภาพฝัน ภาพหลอก
ชวนให้นึกถึง ข่าวเด็กไทย ที่ไปได้เหรียญโอลิมปิกวิชาการ แล้วออกข่าว ว่าเด็กไทยเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ภาพฝันแบบนี้ มันเป็นภาพลวงที่เป็นเหมือนน้ำผึ้งย้อมใจคนมากกว่า สภาพจริงของเด็กส่วนใหญ่ มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย
ทุกวันนี้ ผู้บริหารในกระทรวง ยังรับรู้ปัญหาไม่หมด แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไรกัน
โมเดล 4.0 จะให้ครูสอน 800 ชม./ปี เพื่อขอวิทยฐานะ
ทุกวันนี้ เท่าที่ผมสังเกตเห็น เวลาสอนจริงของครู เอานิ้วมือมานับชั่วโมงยังได้เลย
นี่ยังไม่รวมถึงครูบางคน ที่แทบไม่สอนอะไร เข้าไปถึงก็สั่งงาน แล้วตัวเองก็นั่งแชต ไลน์กันไปจนหมดชั่วโมง
สรุปแล้ว ภาพจริงหรือภาพฝัน ครับ
แล้วมีคนฝากมาถามว่า ถ้า รมต. คนใหม่มา นโยบายแบบนี้จะอยู่อีกไหม หรือเปลี่ยนไปตามใจนาย...
ขอบคุณครับ
[โมเดล 4.0 ภาพจริงหรือภาพฝัน] การศึกษาไทย ผ่านมุมมองเด็กฝึกสอน
1. "ผู้บริหารสถานศึกษา ชี้ชะตาโรงเรียน" ผอ.โรงเรียน มีส่วนมาก ๆ ในการกำหนดว่าโรงเรียนจะโดดเด่นในด้านไหน อย่างที่ผมเจอมา
ผู้บริหารเลือกจะพาโรงเรียนเข้าร่วมแต่โครงการหรือกิจกรรม การศึกษาด้านผลสัมฤทธิ์ไม่ค่อยจะมุ่งเน้น แผนการจัดการเรียนรู้ของครู ก็ไม่เคยตรวจ
ไม่เคยดูแล ครูที่สอนก็ไม่ส่ง (เพราะผู้บริหารไม่เคี่ยวเข็ญ)
2. "ประเมินโรงเรียน พาครูวุ่นวาย" โดยเฉพาะภาคเรียนที่ 1 การประเมินโรงเรียนจะเยอะมาก ๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นี่ยังไม่นับกิจกรรมท้องถิ่นที่โรงเรียนทำร่วมกับชุมชนอีกนะครับ อย่างวันสำคัญทางศาสนา วันเข้าพรรษา เทศกาลทอดกฐิน ลอยกระทง ทำบุญปีใหม่ วันเด็ก คือพอรวม ๆ กันแล้วมันเยอะจนล้น จนเวลาสอนของครูแทบไม่มีให้เด็กเลย มีครูบางท่าน ถึงกับต้องไปช่วยเตรียมงาน ปล่อยให้เด็กอยู่ลำพัง (สั่งงานไว้อย่างเดียว) แต่พอเด็กทำเสร็จ ก็วิ่งเล่นกันสิ มันจะนั่งอยู่เฉย ๆ เหรอ มิหนำซ้ำ ครูบางคน ต้องสอนนักเรียนพร้อมกัน 2-3 ห้อง คนละชั้นกันด้วยนะ (สอนแทนคนอื่นด้วย สอนของตนเองด้วย) ที่ต้องสอนแทนเพราะ ครูคนอื่นไม่ว่าง ลาบ้าง ไปช่วยงานโรงเรียนบ้าง แล้วถามว่าการสอนพร้อมกัน 2-3 ห้อง มันจะทำให้คุณภาพเกิดกับตัวเด็กได้อย่างไรกัน ?
3. "ประเมินอยู่บ่อย แต่ไม่เคยประเมินการเรียนการสอน" ตลอด 1 ปีที่อยู่โรงเรียนมา ไม่เคยเจอสักครั้งที่กรรมการประเมินโรงเรียน จะมาดูสภาพจริงของการเรียนการสอนในห้องเรียน เวลาประเมินไม่ว่าจะโครงการอะไรก็ตาม ก็จะไปประเมินกันในห้องประชุม ไปประเมินในสิ่งที่โรงเรียนได้ทำ
"ผักชีโรยหน้า" ไว้เรียบร้อยแล้ว พอประเมินเสร็จก็จะมาชื่นชมว่าเด็กที่นี่ เก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ทั้งที่ตรงนั้นคือ เด็กหัวกะทิ
ทั้งนั้น (ไม่ถึง ร้อยละ 10 ของเด็กทั้งหมด) แล้วทำไม ไม่เคยมาดูสภาพจริงในห้องเรียนบ้าง
มันจะได้รู้ปัญหาไปเลย ไม่ใช่อยู่กับภาพฝัน ภาพหลอก
ชวนให้นึกถึง ข่าวเด็กไทย ที่ไปได้เหรียญโอลิมปิกวิชาการ แล้วออกข่าว ว่าเด็กไทยเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ ภาพฝันแบบนี้ มันเป็นภาพลวงที่เป็นเหมือนน้ำผึ้งย้อมใจคนมากกว่า สภาพจริงของเด็กส่วนใหญ่ มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย
ทุกวันนี้ ผู้บริหารในกระทรวง ยังรับรู้ปัญหาไม่หมด แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไรกัน
โมเดล 4.0 จะให้ครูสอน 800 ชม./ปี เพื่อขอวิทยฐานะ
ทุกวันนี้ เท่าที่ผมสังเกตเห็น เวลาสอนจริงของครู เอานิ้วมือมานับชั่วโมงยังได้เลย
นี่ยังไม่รวมถึงครูบางคน ที่แทบไม่สอนอะไร เข้าไปถึงก็สั่งงาน แล้วตัวเองก็นั่งแชต ไลน์กันไปจนหมดชั่วโมง
สรุปแล้ว ภาพจริงหรือภาพฝัน ครับ
แล้วมีคนฝากมาถามว่า ถ้า รมต. คนใหม่มา นโยบายแบบนี้จะอยู่อีกไหม หรือเปลี่ยนไปตามใจนาย...
ขอบคุณครับ