ผมสังเกต ว่าหลังจากคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ "โดน" จากรายการ เผชิญหน้า
จนต้องยุติการทำรายการไปช่วงหนึ่ง ถึงได้กลับมาทำรายการอีก
จากที่เคยวิจารณ์ แสดงความเห็น นำเสนอข่าวอย่างรอบด้าน
คุณดนัย ก็เปลี่ยนท่าทีในการจัดรายการ "เจาะลึกทั่วไทย" แบบเกือบ ๆ จะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
ผมขำ ๆ ตั้งแต่แกแสดงความเห็นในเรื่องหมอเลี้ยบโดนจำคุก ว่าทักษิณจะรับผิดชอบอย่างไร
และพอไม่นานหลังจากนั้น สนธิ ลิ้มทองกุล โดนจำคุกบ้าง
ดนัย ก็ร่ายข่าวเรื่องสนธิ ด้วยการพูดคำว่า "พี่สนธิ" ออกอากาศทุกคำ แบบให้เกียรติเชิงเห็นใจเต็มที่
โดยที่ไม่ลงลึก ไม่มีคำถามเชิงว่า สนธิจะรับผิดชอบอย่างไร ทั้งต่อบริษัท และต่อลูกน้องที่ติดคุกไปด้วย
มาถึงเรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ป คุณดนัยก็ออกอาการอีกครั้ง
นำเสนอเรื่องนี้บ่อย ๆ แบบเชิงว่า ทักษิณน่าโดนเรียกเก็บภาษีหมื่นกว่าล้าน
วันนี้ คุณดนัย จัดรายการด้วยการสัมภาษณ์ผู้ว่า สตง. ออกอากาศ (อีกครั้ง)
หลังการสัมภาษณ์ มีผู้ชมรายการโพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุคของรายการเจาะลึกทั่วไทย
ทำนองว่า การเรียกเก็บภาษีครั้งนี้ ไม่ชัดเจน มีปัญหาน่าสงสัยทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
เท่านั้นเอง คุณดนัยก็ตีลูกเซ่อ ว่างง ๆ นะ ว่าไม่รู้เหมือนกันนะ ที่ว่าจะเก็บภาษีน่ะ จะเก็บยังไง แบบไหน
ไว้หาข้อมูลก่อน จะมานำเสนออีกครั้ง
ผู้ชมอย่างผมก็เซ่อสิครับ
นำเสนอข่าวเรื่องนี้เป็นวรรคเป็นเวรมาตั้งหลายครั้ง แต่กลับบอกไม่แน่ใจในเรื่องราว
และพอถึงตอนท้ายรายการ คุณดนัยก็แก้ข้อสงสัย ว่าที่จะตามเก็บภาษีจากทักษิณน่ะ เก็บจากอะไรยังไง
ฟังคุณดนัยให้ข้อมูลแล้ว ก็สมเพชครับ
ทำซื่อตาใสเหมือนไม่รู้เรื่องซะเหลือเกิน เหมือนนำเสนอผ่านรายการอย่างรอบด้านซะเหลือเกิน
เรื่องมันง่าย ๆ ครับ ไม่ซับซ้อนอะไรเลย
หุ้นเป็นของทักษิณ ยึดเงินขายหุ้นของทักษิณ
ฉะนั้น ข้ออ้างที่ว่าทักษิณโอนหุ้นให้ลูก 1 บาท ลูกขายต่อให้เทมาเส็ก 49.25 บาท นี่แหละคือกำไรที่ต้องเสียภาษี
มันเป็นตรรกะเห่ยสิ้นดีครับ และคนเห็นคล้อยตาม ทำเป็นเชื่อ ก็ยิ่งเห่ย
จะไปเก็บภาษีจากใคร ?
หากเก็บจากทักษิณ ทักษิณก็โดนยึดทรัพย์ไปแล้ว ไม่มีรายได้ ไม่มีกำไรจากตรงนี้ไปแล้ว
หากจะเก็บจากลูกทักษิณ คำพิพากษายึดทรัพย์ก็ชัด ว่าหุ้นเป็นของทักษิณ ไม่ใช่ของลูก
แล้วจะไปเก็บภาษีลูกทักษิณได้ไง
แล้วมาบอกว่า จะเก็บภาษีจากทักษิณ เพราะลูกทักษิณได้กำไรจากการขายหุ้น
มันยิ่งฟังเลอะเทอะไปใหญ่
หุ้นก้อนเดียวกัน เงินก้อนเดียวกัน วิ่งจากไทยไปแอมเพิร์ลริช กลับไทย แล้วไปเทมาเส็ก
เมื่อบอกว่าทักษิณคือเจ้าของหุ้นที่แท้จริง ยึดเงินขายหุ้น
แล้วจะมีอะไรให้เก็บภาษี ?
ด้านข้อกฎหมาย ก็ชัดว่า มาตรา 61 ประมวลรัษฎากร ที่ผู้ว่า สตง.อ้างน่ะ
คือการเก็บภาษีจาก ผู้เป็นเจ้าของรายได้ ซึ่งประเด็นนี้ ก็ชัดแล้วว่า คือทักษิณ และยึดไปแล้ว 4.6 หมื่นล้าน
การใช้กฎหมายเพื่อยืดอายุความ จาก 5 ปี (สิ้นสุดปี 2555) เป็น 10 ปี (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2560)
กรมสรรพากรเขาก็อธิบายแล้วว่า กฎหมายมาตรานี้ ใช้เฉพาะกรณีเป็นคุณต่อผู้เสียภาษี ไม่ใช่ใช้เพื่อเป็นโทษ
ไม่งั้น ก็ยืดอายุเรียกเก็บภาษีได้ตลอดไป กลายเป็นไม่มีอายุความ
สังเกตการทำรายการของคุณดนัยหลัง "โดน" ไปนี่
ไม่ชัดถึงขนาด "อวยจนอ้วก" อย่างที่คุณดนัยว่าให้คนอื่นหรอกครับ
แต่คุณดนัยเอง ก็เนียน แต่ไม่เนียนจนผู้ชมรู้สึกไม่ได้
เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นประเด็นในบ้านเมือง สังคมสนใจ ประชาชนอยากรู้
แต่ดันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลนั้น ๆ บุคคลเหล่านั้น บุคคลกลุ่มนั้น
คุณดนัยจะไม่นำเสนอ หรือหากนำเสนอ ก็แค่สี่ห้าคำ จบ ไม่มีรายละเอียด ไม่ลงลึก ไม่ใส่ความเห็น
อีกด้าน หากเป็นเรื่องทักษิณ คุณดนัยจะแอคชั่นลั่นจอเลยเชียว
หรืออย่างเรื่องธรรมกาย คุณดนัยก็ร่วมด้วยช่วยถล่มอย่างเต็มที่
สัมภาษณ์หนุงหนิง ๆ ถูกปากถูกคอกับ "หลวงปู่" ของคุณดนัยอย่างสนุกปาก
นี่แหละครับ ที่เรียกว่า "อวยเนียน ๆ"
ศักดิ์ศรีสื่อมวลชนอยู่หนใด ?
ปล. ไม่เกี่ยวกับการเข้าข้างทักษิณนะครับ
แต่คือเรื่อง "บรรทัดฐาน" และ "มาตรฐาน" ทางกฎหมาย เรื่องความเป็นธรรม
และโดยเฉพาะ บทบาทและหน้าที่ ความรับผิดชอบ ของผู้ที่เป็น "สื่อมวลชน"
ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ สื่อผู้ตั้งฉายาให้คนอื่นว่า "อวยจนอ้วก" แต่ตอนนี้ ดนัยกำลังเล่นบท "อวยเนียน ๆ"
จนต้องยุติการทำรายการไปช่วงหนึ่ง ถึงได้กลับมาทำรายการอีก
จากที่เคยวิจารณ์ แสดงความเห็น นำเสนอข่าวอย่างรอบด้าน
คุณดนัย ก็เปลี่ยนท่าทีในการจัดรายการ "เจาะลึกทั่วไทย" แบบเกือบ ๆ จะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
ผมขำ ๆ ตั้งแต่แกแสดงความเห็นในเรื่องหมอเลี้ยบโดนจำคุก ว่าทักษิณจะรับผิดชอบอย่างไร
และพอไม่นานหลังจากนั้น สนธิ ลิ้มทองกุล โดนจำคุกบ้าง
ดนัย ก็ร่ายข่าวเรื่องสนธิ ด้วยการพูดคำว่า "พี่สนธิ" ออกอากาศทุกคำ แบบให้เกียรติเชิงเห็นใจเต็มที่
โดยที่ไม่ลงลึก ไม่มีคำถามเชิงว่า สนธิจะรับผิดชอบอย่างไร ทั้งต่อบริษัท และต่อลูกน้องที่ติดคุกไปด้วย
มาถึงเรื่องภาษีหุ้นชินคอร์ป คุณดนัยก็ออกอาการอีกครั้ง
นำเสนอเรื่องนี้บ่อย ๆ แบบเชิงว่า ทักษิณน่าโดนเรียกเก็บภาษีหมื่นกว่าล้าน
วันนี้ คุณดนัย จัดรายการด้วยการสัมภาษณ์ผู้ว่า สตง. ออกอากาศ (อีกครั้ง)
หลังการสัมภาษณ์ มีผู้ชมรายการโพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุคของรายการเจาะลึกทั่วไทย
ทำนองว่า การเรียกเก็บภาษีครั้งนี้ ไม่ชัดเจน มีปัญหาน่าสงสัยทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
เท่านั้นเอง คุณดนัยก็ตีลูกเซ่อ ว่างง ๆ นะ ว่าไม่รู้เหมือนกันนะ ที่ว่าจะเก็บภาษีน่ะ จะเก็บยังไง แบบไหน
ไว้หาข้อมูลก่อน จะมานำเสนออีกครั้ง
ผู้ชมอย่างผมก็เซ่อสิครับ
นำเสนอข่าวเรื่องนี้เป็นวรรคเป็นเวรมาตั้งหลายครั้ง แต่กลับบอกไม่แน่ใจในเรื่องราว
และพอถึงตอนท้ายรายการ คุณดนัยก็แก้ข้อสงสัย ว่าที่จะตามเก็บภาษีจากทักษิณน่ะ เก็บจากอะไรยังไง
ฟังคุณดนัยให้ข้อมูลแล้ว ก็สมเพชครับ
ทำซื่อตาใสเหมือนไม่รู้เรื่องซะเหลือเกิน เหมือนนำเสนอผ่านรายการอย่างรอบด้านซะเหลือเกิน
เรื่องมันง่าย ๆ ครับ ไม่ซับซ้อนอะไรเลย
หุ้นเป็นของทักษิณ ยึดเงินขายหุ้นของทักษิณ
ฉะนั้น ข้ออ้างที่ว่าทักษิณโอนหุ้นให้ลูก 1 บาท ลูกขายต่อให้เทมาเส็ก 49.25 บาท นี่แหละคือกำไรที่ต้องเสียภาษี
มันเป็นตรรกะเห่ยสิ้นดีครับ และคนเห็นคล้อยตาม ทำเป็นเชื่อ ก็ยิ่งเห่ย
จะไปเก็บภาษีจากใคร ?
หากเก็บจากทักษิณ ทักษิณก็โดนยึดทรัพย์ไปแล้ว ไม่มีรายได้ ไม่มีกำไรจากตรงนี้ไปแล้ว
หากจะเก็บจากลูกทักษิณ คำพิพากษายึดทรัพย์ก็ชัด ว่าหุ้นเป็นของทักษิณ ไม่ใช่ของลูก
แล้วจะไปเก็บภาษีลูกทักษิณได้ไง
แล้วมาบอกว่า จะเก็บภาษีจากทักษิณ เพราะลูกทักษิณได้กำไรจากการขายหุ้น
มันยิ่งฟังเลอะเทอะไปใหญ่
หุ้นก้อนเดียวกัน เงินก้อนเดียวกัน วิ่งจากไทยไปแอมเพิร์ลริช กลับไทย แล้วไปเทมาเส็ก
เมื่อบอกว่าทักษิณคือเจ้าของหุ้นที่แท้จริง ยึดเงินขายหุ้น
แล้วจะมีอะไรให้เก็บภาษี ?
ด้านข้อกฎหมาย ก็ชัดว่า มาตรา 61 ประมวลรัษฎากร ที่ผู้ว่า สตง.อ้างน่ะ
คือการเก็บภาษีจาก ผู้เป็นเจ้าของรายได้ ซึ่งประเด็นนี้ ก็ชัดแล้วว่า คือทักษิณ และยึดไปแล้ว 4.6 หมื่นล้าน
การใช้กฎหมายเพื่อยืดอายุความ จาก 5 ปี (สิ้นสุดปี 2555) เป็น 10 ปี (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2560)
กรมสรรพากรเขาก็อธิบายแล้วว่า กฎหมายมาตรานี้ ใช้เฉพาะกรณีเป็นคุณต่อผู้เสียภาษี ไม่ใช่ใช้เพื่อเป็นโทษ
ไม่งั้น ก็ยืดอายุเรียกเก็บภาษีได้ตลอดไป กลายเป็นไม่มีอายุความ
สังเกตการทำรายการของคุณดนัยหลัง "โดน" ไปนี่
ไม่ชัดถึงขนาด "อวยจนอ้วก" อย่างที่คุณดนัยว่าให้คนอื่นหรอกครับ
แต่คุณดนัยเอง ก็เนียน แต่ไม่เนียนจนผู้ชมรู้สึกไม่ได้
เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นประเด็นในบ้านเมือง สังคมสนใจ ประชาชนอยากรู้
แต่ดันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลนั้น ๆ บุคคลเหล่านั้น บุคคลกลุ่มนั้น
คุณดนัยจะไม่นำเสนอ หรือหากนำเสนอ ก็แค่สี่ห้าคำ จบ ไม่มีรายละเอียด ไม่ลงลึก ไม่ใส่ความเห็น
อีกด้าน หากเป็นเรื่องทักษิณ คุณดนัยจะแอคชั่นลั่นจอเลยเชียว
หรืออย่างเรื่องธรรมกาย คุณดนัยก็ร่วมด้วยช่วยถล่มอย่างเต็มที่
สัมภาษณ์หนุงหนิง ๆ ถูกปากถูกคอกับ "หลวงปู่" ของคุณดนัยอย่างสนุกปาก
นี่แหละครับ ที่เรียกว่า "อวยเนียน ๆ"
ศักดิ์ศรีสื่อมวลชนอยู่หนใด ?
ปล. ไม่เกี่ยวกับการเข้าข้างทักษิณนะครับ
แต่คือเรื่อง "บรรทัดฐาน" และ "มาตรฐาน" ทางกฎหมาย เรื่องความเป็นธรรม
และโดยเฉพาะ บทบาทและหน้าที่ ความรับผิดชอบ ของผู้ที่เป็น "สื่อมวลชน"