ตอนเราจบใหม่ๆ เราก็หางาน ตามภาษาเด็กจบใหม่ ทั่วไป อ่ะคะ
และก็มีบริษัทนึง ซึ่งเป็น บริษัท ผลิตยางรถยนต์ ที่เรียกเราสัมภาษณ์ ตอนนั้น เรายังไม่มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานมากนัก
เพราะเพิ่งจบได้แค่เดือนกว่าๆเอง และก็เป็นที่แรกที่เรียกเราสัมภาษณ์ด้วย ตอนนั้น เราได้สัมภาษณ์ในตำแหน่งเกี่ยวกับ product development
อ่ะคะ เราได้ผ่านรอบแรกมา ซึ่งสัมภาษณ์รอบแรกนั้นไม่ค่อยยากเท่าไหร่ สัมภาษณ์โดย HR ซึ่งหลังจากนั้นเราก้ได้เรียกสัมภาษณ์รอบ Final
ตอนนั้นเราก็ตอบคำถาม แบบไม่ได้มีอะไรมากที่จะ show เค้าอ่ะนะ เพราะเพิ่งจบใหม่ ก็ได้แต่เล่าประสบการณ์ฝึกงานที่เคยทำมา แล้วเค้าถามเกี่ยวกับ
ว่าตำแหน่งที่เราได้สัมภาษณ์เนี้ยเกี่ยวกับอะไร เราก็ตอบตามที่ HR เคยบอกเราตอนที่สัมภาษณ์รอบแรกอ่ะคะ ทุกอย่างก็ดูเหมื่อน กรรมการอาจจะถูกใจแค่บางคน
แต่ที่ทำให้เราตายสนิทเลยตอนนั้นก็คือ เค้าถามว่า มีแผนจะเรียนต่อ โท ไหม ? ซึ่งตอนนั้นเรา ไม่รู้จริงๆว่า การตอบว่ามีนั้น ทำให้เค้าถามกลับว่า
"อ่าวงั้นคุณก็จะอยู่กับเราอีกไม่นานล่ะซิ" ตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีไหวพริบในการแก้ตัวอะไรเลย และก้ไม่ได้มีเจตนาจะให้เค้าคิดแบบนั้นด้วย
เราแค่อยากจะให้เค้าเห็นว่าเรามีความกระตือรือร้นเท่านั้นเอง สุดท้ายก็จบด้วยไม่มีการติดต่อเรากลับมาเลย สรุปเราตกสัมภาษณ์
หลังจากนั้นเราก็ได้งานในบริษัทอื่นที่ไม่ตรงกับสายงานของเราเท่าไหร่ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ตอนนั้นเราไม่มีทางเลือก เราต้องทำไปก่อน เพราะเรา ว่างงานมาพอสมควรแล้ว เราทำที่นี้มาได้สัก 5 เดือน เราก็ส่ง resume ไปที่บริษัท ที่เราเคยอยากเข้าอีกครั้ง โดยตอนนั้น ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่ก้ได้รับการติดต่อมาอีก แต่เป็น HR คนละคน เค้าเสนอตำแหน่งเกี่ยวกับ OEM ให้เรา เราก็ไปสัมภาษณ์อีกครั้ง โดย เราก็ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกเหมื่อนเดิม พอถึงรอบ Final คราวนี้เราตั้งใจจะทำให้เต็มที่มาก แต่วันนั้นมี candidate หลายคนมาก เราเป็นคนท้ายๆ พอเราเข้าไปในห้องสัมภาษณ์
เค้าก้ให้เราแนะนำตัว พอพูดว่าเราจบสาขา อะไรมา และตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ เค้าก้บอกว่า คุณจะใช้ประสบการณ์อะไรของคุณ เพื่อที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ได้ เพราะ เราไม่รู้ว่าคุณจะ apply ความรู้ของคุณ กับ ประสบการณ์(ไม่ตรงสาย)ของคุณ ยังไง พร้อมทั้งตอนนั้นเราก็สังเกตเห็นว่ากรรมการบางท่านก้ไม่สนใจเราแล้ว แต่เราก็จะขอสู้จนวินาทีสุดท้าย เราบอกเค้าไปว่า เรามั่นใจว่าความรู้ที่เรามี สามารถ apply กับตำแหน่งนี้ได้ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับว่า เค้าเป็นธุรกิจผลิตยางรถยนต์ ส่วนเราจบวิศวะเคมี มา เราพอจะมีความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการผลิตอยู่บ้าง และ ประสบการณ์ทำงานของเราถึงแม้จะไม่ตรงสายที่คุณต้องการแต่เราก็สามารถ ใช้ skill การ manage ที่ใช้บ่อยในงานที่เคยทำได้ พอตอบเค้าไปอย่างนั้น เค้าก้บอกว่า ok แล้วเราจะติดต่อกลับไป
ตอนนั้นก็คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ แต่ลึกๆก็คิดอยู่ล่ะว่าไม่น่าจะได้ หลังจากนั้นก็ มี email มาแจ้งว่าเราไม่ผ่านสัมภาษณ์ เราก้เสียอยู่นะ แต่จะทำไงได้
ก็ต้องทำใจ จนผ่านไปปีนึง แต่ช่วงระหว่างปีที่ผ่านเราก็ส่งไปอีกนะ แต่คราวนี้ เค้าไม่เรียกสัมภาษณ์ ทุกวันนี้เรายังเห็นบริษัทที่เราอยากเข้า รับตำแหน่งอื่น อีก เราควรจะสมัครอีกดีไหม หรือเราควรจะตัดใจได้แล้ว เพราะประสบการณ์ที่เรามี มันไม่ตรงสายที่เค้าต้องการ เราไม่รู้จะตอบเค้ายังไงเลย และเราทำงานปัจบันก็ลำบากใจเพราะ มันฉีกจากสายงานเราไป และเวลาก้ผ่านไปเรื่อยๆ เรากลัวว่าเราจะไม่มีโอกาส กลับ ไปใน field ที่เราอยากทำอีกแล้ว
ถ้าเรายังอยากจะทำงานที่นั้น จริงๆ เราควรทำไงดีคะ
อยากขอคำแนะนำหน่อยอ่ะคะ
ขออนุญาตขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยคะ
อยากเข้าบริษัทนึงมาก ตั้งแต่เรียนจบ เคยมีโอกาสได้เรียกสัมภาษณ์ 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทั้ง 2 ครั้ง
และก็มีบริษัทนึง ซึ่งเป็น บริษัท ผลิตยางรถยนต์ ที่เรียกเราสัมภาษณ์ ตอนนั้น เรายังไม่มีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์งานมากนัก
เพราะเพิ่งจบได้แค่เดือนกว่าๆเอง และก็เป็นที่แรกที่เรียกเราสัมภาษณ์ด้วย ตอนนั้น เราได้สัมภาษณ์ในตำแหน่งเกี่ยวกับ product development
อ่ะคะ เราได้ผ่านรอบแรกมา ซึ่งสัมภาษณ์รอบแรกนั้นไม่ค่อยยากเท่าไหร่ สัมภาษณ์โดย HR ซึ่งหลังจากนั้นเราก้ได้เรียกสัมภาษณ์รอบ Final
ตอนนั้นเราก็ตอบคำถาม แบบไม่ได้มีอะไรมากที่จะ show เค้าอ่ะนะ เพราะเพิ่งจบใหม่ ก็ได้แต่เล่าประสบการณ์ฝึกงานที่เคยทำมา แล้วเค้าถามเกี่ยวกับ
ว่าตำแหน่งที่เราได้สัมภาษณ์เนี้ยเกี่ยวกับอะไร เราก็ตอบตามที่ HR เคยบอกเราตอนที่สัมภาษณ์รอบแรกอ่ะคะ ทุกอย่างก็ดูเหมื่อน กรรมการอาจจะถูกใจแค่บางคน
แต่ที่ทำให้เราตายสนิทเลยตอนนั้นก็คือ เค้าถามว่า มีแผนจะเรียนต่อ โท ไหม ? ซึ่งตอนนั้นเรา ไม่รู้จริงๆว่า การตอบว่ามีนั้น ทำให้เค้าถามกลับว่า
"อ่าวงั้นคุณก็จะอยู่กับเราอีกไม่นานล่ะซิ" ตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีไหวพริบในการแก้ตัวอะไรเลย และก้ไม่ได้มีเจตนาจะให้เค้าคิดแบบนั้นด้วย
เราแค่อยากจะให้เค้าเห็นว่าเรามีความกระตือรือร้นเท่านั้นเอง สุดท้ายก็จบด้วยไม่มีการติดต่อเรากลับมาเลย สรุปเราตกสัมภาษณ์
หลังจากนั้นเราก็ได้งานในบริษัทอื่นที่ไม่ตรงกับสายงานของเราเท่าไหร่ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ตอนนั้นเราไม่มีทางเลือก เราต้องทำไปก่อน เพราะเรา ว่างงานมาพอสมควรแล้ว เราทำที่นี้มาได้สัก 5 เดือน เราก็ส่ง resume ไปที่บริษัท ที่เราเคยอยากเข้าอีกครั้ง โดยตอนนั้น ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก แต่ก้ได้รับการติดต่อมาอีก แต่เป็น HR คนละคน เค้าเสนอตำแหน่งเกี่ยวกับ OEM ให้เรา เราก็ไปสัมภาษณ์อีกครั้ง โดย เราก็ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกเหมื่อนเดิม พอถึงรอบ Final คราวนี้เราตั้งใจจะทำให้เต็มที่มาก แต่วันนั้นมี candidate หลายคนมาก เราเป็นคนท้ายๆ พอเราเข้าไปในห้องสัมภาษณ์
เค้าก้ให้เราแนะนำตัว พอพูดว่าเราจบสาขา อะไรมา และตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ เค้าก้บอกว่า คุณจะใช้ประสบการณ์อะไรของคุณ เพื่อที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ได้ เพราะ เราไม่รู้ว่าคุณจะ apply ความรู้ของคุณ กับ ประสบการณ์(ไม่ตรงสาย)ของคุณ ยังไง พร้อมทั้งตอนนั้นเราก็สังเกตเห็นว่ากรรมการบางท่านก้ไม่สนใจเราแล้ว แต่เราก็จะขอสู้จนวินาทีสุดท้าย เราบอกเค้าไปว่า เรามั่นใจว่าความรู้ที่เรามี สามารถ apply กับตำแหน่งนี้ได้ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับว่า เค้าเป็นธุรกิจผลิตยางรถยนต์ ส่วนเราจบวิศวะเคมี มา เราพอจะมีความรู้เกี่ยวกับ กระบวนการผลิตอยู่บ้าง และ ประสบการณ์ทำงานของเราถึงแม้จะไม่ตรงสายที่คุณต้องการแต่เราก็สามารถ ใช้ skill การ manage ที่ใช้บ่อยในงานที่เคยทำได้ พอตอบเค้าไปอย่างนั้น เค้าก้บอกว่า ok แล้วเราจะติดต่อกลับไป
ตอนนั้นก็คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วจริงๆ แต่ลึกๆก็คิดอยู่ล่ะว่าไม่น่าจะได้ หลังจากนั้นก็ มี email มาแจ้งว่าเราไม่ผ่านสัมภาษณ์ เราก้เสียอยู่นะ แต่จะทำไงได้
ก็ต้องทำใจ จนผ่านไปปีนึง แต่ช่วงระหว่างปีที่ผ่านเราก็ส่งไปอีกนะ แต่คราวนี้ เค้าไม่เรียกสัมภาษณ์ ทุกวันนี้เรายังเห็นบริษัทที่เราอยากเข้า รับตำแหน่งอื่น อีก เราควรจะสมัครอีกดีไหม หรือเราควรจะตัดใจได้แล้ว เพราะประสบการณ์ที่เรามี มันไม่ตรงสายที่เค้าต้องการ เราไม่รู้จะตอบเค้ายังไงเลย และเราทำงานปัจบันก็ลำบากใจเพราะ มันฉีกจากสายงานเราไป และเวลาก้ผ่านไปเรื่อยๆ เรากลัวว่าเราจะไม่มีโอกาส กลับ ไปใน field ที่เราอยากทำอีกแล้ว
ถ้าเรายังอยากจะทำงานที่นั้น จริงๆ เราควรทำไงดีคะ
อยากขอคำแนะนำหน่อยอ่ะคะ
ขออนุญาตขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยคะ