สวัสดีครับ
ผม เป็นคนนึงที่ติดเชื้อ HIV น่ะครับ มารู้ว่าตัวเองว่ามีเชื้อก็หลังที่แฟนจากไปนานพอสมควร (ดราม่า สั้นๆ) และผมก็เป็นคนนึงที่จัดฟันมาก่อน และต้องร่วมกับการผ่าตัดด้วย
     ปัญหาเรื่องการเรียงของฟัน ฟันหน้าบนเกไปทางซ้าย มีปัญหาของฟันซ้อน โครงสร้างของหน้า ฟันล่างยื่นออกมา ปํญหาฟันสบกันไม่ดีเลย คุณหมอฟันวินิจฉัยว่า ต้องจัดฟัน ร่วมกับการผ่าตัด เท่านั้น ตอนนั้นผมก็ตกลงทันทีเลย (ไม่รู้หรอกว่า การผ่าตัดเป็นอย่างไร.... ก็แอบคิดว่า คงไม่ยุ่งยากหรอก) ผมเริ่มจัดฟัน ก.ค. 2552 รักหมอมาก ไปหาหมอทุกเดือน ยกเดือนมีช่วงที่เดินทางไป ต่างประเทศ 2 เดือนครึ่ง หมอเห็นผมทีไร พูดกับผมทุกครั้งเลย "คุณอย่าลืมนัดหมอน่ะ ปัญหาฟันคุณเยอะ" 55+
     ผ่านมาจนกระทั่ง ปี เม.ย 2555 ไม่สบายหนักมาก และตรวจเจอไวรัส HIV ก็ตกใจ เครียดน่ะตอนนั้น ยังมึนๆ แต่ หมอที่ รพ. เอกชน ที่ผมไปตรวจ รักษา ไม่โอเคเลย พูดจาแย่มาก ผมนี่ยิ่งทุกข์กว่าเดิม  พอกลับมาบ้าน ช่วงรักษาตัวก็นอนคิดๆ ว่าจะทำอย่างไรดี แต่ก็มาตกผลึกว่า เอาหว่ะ ก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ แต่อย่ามาดื้อ จนทำให้ ข้าป่วยอีกน่ะ  ผมก็เข้าไปรับ ตรวจ และ รับยาต้าน ที่ รพ. ช่วงเดือน พ.ค. 2555 ผมรับเป็นยา study ภายใต้โครงการของคุณหมอ
     ครั้งแรกเลย ที่เห็นปริมาณเชื้อ กะค่า CD 4 ก็ตกใจ เลย คือจะมี เยอะแท้ เชื้อเอ๊ยยยยย แอบคิดในใจ ข้าจะกำจัดแก จะฆ่าแก ก็กินยามาเรื่อย ตรงเวลา และไม่เคยขาด ออกกำลังกาย ตลอด และแล้ว ก็ควบคุมเชื้อได้ 55+
    
     และแล้วการจัดฟัน ก็มาถึงที่สุด คุณหมอฟัน ให้ไปพบคุณหมอผ่าตัด เพื่อกำหนดทิศทางการผ่าตัด และแล้วก็เข้าสู่กระบวนการ แน่นอนครับ อย่างแรกเลยคือเรียนให้คุณหมอผ่าตัดทราบคือเรื่องการที่ผมมีเชื้อ (ออ ลืมบอกว่า ผมได้เรียน คุณหมอจัดฟัน คุณหมอถอนฟัน ขูดหินปูน ก่อนหน้านี้แล้ว) แผนการผ่าตัด ก็ออกมา ว่า คงผ่าได้เฉพาะขากรรไกรล่างเท่านั้น และให้ไปปรึกษาคุณหมอที่ผมไปรับยาต้าน ซึ่งคุณหมอก็ไม่ว่าอะไร เพราะ ตราบใดที่การผ่าตัด แต่ยังสามารถกินยาได้ ไม่ขาดยา ก็สามารถผ่าได้ ประกอบกับ ค่าต่างๆ ของร่างกายผม แข็งแรงดี เชื้อคุมได้ CD4 ปกติ แน่นอน รอขึ้นเขียงได้เลย ได้วันมาแล้ว 9 ก.ย. 59 (เลขสวย..... แต่เจ็บ ตัว... ไม่เป็นไร ก้าว ต่อไป ตามประสงค์)

    หลังการผ่าตัด ช่วงแรก ๆ ๆก็ สภาพ เหมือนคนปกติ ทั่วไป หมดแรง น้ำหนักลด เพราะกินอาหารได้ไม่ตามปกติ ช่วงนี้ผมเฝ้าระวัง และคอยสังเกตุ ตัวเองตลอด มีงูสวัดมั๊ย ลิ้นดูไม่ได้ เพราะเค้าใช้ยางคล้องเครื่องมือไว้ (ปกติ เค้าจะใช้วิธีมัดปาก อ้าไม่ได้เลย) เต็มปากเลย แต่เหลือส่องไว้ให้ดูดไซริงค์ยา ใส่ได้ ผมบดยาผ่าน ไซริงค์ไม่นาน พอเริ่มเห็นช่อง ผมก็แอบกินยาเม็ดเลย มารู้ายหลังว่า คุณหมอตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เพราะผมต้องรับยาต้าน แต่ผมก็บ้า ระห่ำเร็วเกินไปน่ะ เพราะยางหมอ ผมอ้าจนขาด ประจำ อีกอย่าง ผมกินข้าวเหลวๆ อาหารไม่ต้องเคี้ยงผ่านช้อนกาแฟได้ ไม่ต้องใช้ไซริงค์ดูด (บางทีผมก็ อาจทำอะไรเกินหมอแนะนำ บ้าง) และ ได้ไปตรวจเลือด ช่วงกลางๆ พ.ย. ผลของเลือด ก็ไม่ได้เลือดไม่ได้ผิดปกติอะไร และก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ

   ตอนนี้ฟันเรียงกันสวย โครงฟันก็แกติเหมือนคนอื่น ล่ะ แก้มเยอะ น่าหยิกมาก น่ารักอ่ะ (หยอก ตัวเอง ก็เป็น) ไปตรวจเลือดตามหมอนัด เชื้อก็คุมได้ ค่าเลือด ค่าร่างกาย เหมือนคนปกติทั่วไป (มันดีตรงนี้ เราจะรู้ทุกระยะว่าร่างกายเรา สภาพเป็นอย่างไร ... ซึ่ง คนอื่นๆ จะไม่มีทางรู้ จนกว่าจะป่วยหนักๆ จริงม่ะ... ซึ่งบางทีมันสายเกินไป) ไปหาหมอฟัน หมอผ่าตัดตามนัด ก็ปกติดี

    ช่วงนี้ก็ ทำงาน ออกกำลังกาย พักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ และที่สำคัญอยากบอกว่า โสด น่ะครับ ถ้ามีแฟน ก็อยากมีที่เข้าใจกัน และรับเรื่องนี้ได้ ใช่ม่ะ (อ่อย... แล้วน่ะครับ)