วันนี้รีบตื่นแต่เช้า ขับรถจากโรงแรมมุ่งหน้าไป ท่าเรือ Uminchu Warf Fisheria เพื่อไปล่องเรือชมวาฬค่ะ

ปลาวาฬหลังค่อมจะมาบริเวณเกาะโอกินาว่า ช่วงเดือน ธ.ค. ถึงต้นเดือนเม.ย.ค่ะ เข้าใจว่ามาออกลูกมั้งคะถ้าอ่านไม่ผิดนะคะ

ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นตัวลูกด้วยค่ะ

เราจองทัวร์รอบเช้าไว้ค่ะ เรือออก 9:30 am ให้มาถึง 9:00 am ค่ะ


ทัวร์ชมวาฬที่โอกินาว่ามีหลายเจ้าให้เลือกค่ะ ราคาก็พอๆกันคือ 4,200 เยน ต่อคนค่ะ

เราเลือกเข้านี้เพราะมีท่าเรือที่ Chatan ที่ใกล้โรงแรมเราค่ะ

ส่วนอีกท่าเรือนึงก็คือ Naha ค่ะ ถ้าขึ้นท่าเรือนี้ ส่วนใหญ่ทุกเจ้าก็จะมีบริการรถรับส่งถึงโรงแรมใน Naha ฟรีด้วย


ทัวร์จะมีรอบเช้าหรือบ่ายให้เลือกค่ะ เท่าที่อ่านดูก็ไม่ต่างกันค่ะ

จองทัวชมปลาวาฬร์เว็ปไซต์ : https://www.cerulean-blue.co.jp/whale-watching-en/

มาถึงก็เข้าไปใน Uminchu Warf Fisheria  ให้แจ้งชื่อกับเค้า แล้วก็นั่งเล่นรอเรียกขึ้นเรือค่ะ

(ที่ Chatan จะมีค่าบริการการใช้สถานที่เพิ่มอีก คนละ 100 yenค่ะ)


ตอนขึ้นเรือเจ้าหน้าที่ก็จะแจกชูชีพให้ทุกคนค่ะ (มีชูชีพสำหรับเด็กด้วยค่ะ)

ได้เวลาออกเรือแล้วค่ะ  เค้าจะเอาถุงอ้วกมาแจกให้เผื่อมีคนไม่ไหว....


ช่วงนี้อาการยังหนาวอยู่ค่ะ ยังดีที่ด้านข้างของเรือเค้าจะมีพลาสติกปิดไว้ระหว่างแล่นค่ะ

แล่นออกไปน่าจะชั่วโมงนึงได้ค่ะ โคลงเคลงสุดๆ คนที่จะไม่ไหวคงเป็นเรานี่เอง พะอืดพะอมมาก

ไม่ได้มีเรือเราลำเดียวนะคะ มีของเจ้าอื่นด้วยประมาณ 5-6 ลำค่ะ

เรือก็เริ่มชะลอค่ะ จนท.ก็บอกว่าใกล้ถึงแล้วจะจอดให้ดูค่ะ

แล้วก็ให้เราไปดูที่หน้าเรือค่ะ บางส่วนให้ไปดูชั้นสองของเรือค่ะ

เราก็เดินไปหน้าเรือค่ะ ช็อตแรกเห็นเลยค่ะ  เห็นหลังใหญ่ๆ ว่ายมาบนผิวน้ำ แล้วก็เห็นหางค่ะ เสียดายยังไม่ได้ตั้งตัวถ่ายรูปไม่ทัน

แล้วก็หายไปสักพัก ก็โผล่มาอีก มีพ่นน้ำด้วย กล้องเพื่อนถ่ายไว้ได้


เห็นหลังปลาวาฬไหมคะ


ดูไปก็วิงเวียนไปด้วย เวลาเรือลำอื่นขับผ่านก็จะมีคลื่น โคลงเคลงเข้าไปอีก แล้วก็ต้องระวังน้ำทะเลกระเด็นเข้ามาด้วยค่ะ เข้าหน้าเราไปทีนึง หนาวด้วย

ปลาวาฬก็โผล่มาอีกนิดหน่อยค่ะ ถ่ายรูปยากมาก พกกล้องส่งทางไกลไปด้วยก็ใช้มองไม่ทัน


เห็นหลังก็ดีใจ

แล้วเราก็กลับมานั่งในเรือค่ะ แบบว่าไม่ไหวแล้วววว

ปกติก็ไม่เมาเรือนะคะ เคยไปเที่ยว เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพงัน หรือไปนั่งที่เรือเวนิส ก็ไม่เมานะคะ

เค้าจอดเรือให้ชมประมาณ 20 นาที แล้วก็มุ่งหน้ากลับท่าเรือค่ะ

ระหว่างกลับนี่แบบเมื่อไหร่จะถึง โคตรทรมาน เตรียมหยิบถุงอ้วกทุกเมื่อ

มีคนอ้วกด้วยนะคนนึง  แต่เราสามารถอดทนกลับมาถึงฝั่งได้ T^T

มาถึงท่าเรือก็ประมาณ เที่ยงนิดๆค่ะ  นั่งพักแปปนึงให้หายเมาเรือก่อน  

อาหารกลางวันก็ไม่ต้องไปไหนไกลค่ะ ที่นี่มี 2 ร้านค่ะ ร้านนึงจะเป็นอาหารญี่ปุ่นค่ะ

ส่วนเราทานร้านนี้ค่ะ เป็นปลาดิบแพคๆ ทานง่ายๆ





ปลาดิบแพค 500 yen ค่ะ นั่งทานได้เลย ขอโชยุได้ค่ะ
ข้าวปั้น 170 yen





กินปลาดิบแล้วรู้สึกดีขึ้น 555+

ปลาหมึกอร่อยมาก ไม่เนียว และหวานมากกกกก

หลังจากอิ่มท้องก็มุ่งหน้าไป Shuri Castle ค่ะ

ขับรถผ่านถนนสวยๆด้วย

GPS พางงๆด้วย พาไปด้านหลัง แต่ก็ดีเหมือนกันค่ะ เหมือนจะเดินใกล้กว่าด้านหน้าค่ะ แล้วก็มีลานจอดรถเอกชนให้จอดใกล้ๆค่ะ

เราจอดที่ตรงข้ามทางเข้าเลยค่ะ จะแพงกว่าอีกที่นึงต้องเข้าไปในซอย เป็นเนินลงด้วย

ระบบจ่ายเงินแบบอัติโนมัติ พอตอนจะออกให้หยอดเงินที่ตู้ แล้วที่กั้นล้อจะพับลง แล้วค่อยขับออกมาค่ะ (ลืมถ่ายรูปมาค่ะ)


Shuri castle เป็นที่ต้องมาของ Okinawa เลยค่ะ

วันที่ไปมีดอกไม้ให้ถ่ายรูปด้วยค่ะ




เดินเข้ามาเพื่อซื้อตั๋วด้านในค่ะ ค่าเข้าคนละ 840 yen ค่ะ


เห็นการแสดงของริวกิวให้ชมพอดีเลยค่ะ ยืนชมอยู่แปปนึง ก็เดินเข้าไปเที่ยวข้างในดีกว่าเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา


สำเนาถูกต้อง


ให้เดินมาทางขวา เพื่อชมด้านในค่ะ



มีบางโซนเค้าห้ามถ่ายรูปนะคะ

เดินตามทางมาเรื่อยๆ

มีบริการดื่มชา ชมวิวสวนญี่ปุ่นค่ะ เป็นห้องที่สมัยก่อนเอาไว้พักผ่อนของพระราชาและก็รับแขกค่ะ

นั่งเงียบๆชมวิวก็ฟินแบบญี่ปุ่นๆ


ค่าบริการ 310 yen ต่อคนค่ะ

มีชามะลิ และก็ขนม 4 แบบค่ะ





ดื่มชาเสร็จแล้วก็เดินชมต่อค่ะ






จะมาช่วงที่ต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ เค้าจะมีถุงพลาสติกให้หิ้ว คล้ายๆที่วัดโพธิ์ค่ะ

กลับมาที่รถมากดเครื่องอัติโนมติ ถ้าจำไม่ผิดโดนไป 500-600 yen ค่ะ

ต่อไปก็จะไปเที่ยว ถนน Kokusai Dori ค่ะ

( Kokusai แปลว่า นานาชาติ)

ลืมบอกอีกอย่างว่า ที่ Naha จะมีช่วงเวลาที่ห้ามขับรถในบัสเลนค่ะ ถ้าจำไม่ผิดก็ 7:30 ~ 9 a.m. และ 5:30 p.m. ~ 7 p.m. ค่ะ

เราก็ตัดปัญหาโดยการไปถึง Kokusai Dori ตั้งแต่ 4 โมงครึ่งค่ะ

แต่ 4 โมงรถก็เริ่มติดแล้วค่ะ

เราขับรถไปเส้นกลางเลยค่ะ ผ่านร้าน Donki ซ้ายมือ แล้วเราก็หาที่จอดขวามือเลยค่ะ มีหลายจุดให้เลือกค่ะ มองหาป้ายตัว P ไว้เลย แล้วก็เลี้ยวเข้าไปค่ะ

ที่จอดอันนี้ฮาร์ดคอร์พอสมควร ทางเข้าประตูก็แคบ เข้ามามีสะพานเล็กๆแคบๆอีกด้วย

ก่อนออกไปที่นี่ให้ฝากกุญแจรถไว้ค่ะ ที่อื่นอาจจะไม่ต้องฝากกุญแจนะคะ สงสัยที่นี่เค้ากลัวคนลืมจ่ายตัง



ถนน Kokusai ก็เป็นแหล่ง Shopping คล้ายๆสยามบ้านเราค่ะ

ได้แวะซื้อของที่ Donki อีกแล้วค่ะ ที่นี่มี 4 ชั้น ต้องแยกจ่ายแต่ละชั้นนะคะ เพราะฉะนั้นเวลาจะขอ Tax-free ต้องมียอด 5,000 yen ขึ้นไปก็จะลำบากหน่อย
ดังนั้นเราแนะนำว่าไปสาขา Uruma ที่เราได้รีวิวกระทู้ที่แล้ว หรือไปสาขา Ginowan จะดีกว่าค่ะ





แล้วก็เดิน Makishi fish market ค่ะ อยู่ซอยติดๆตรงนี้เลยค่ะ

พอเดินไปถึงตรงตัวตลาดสัก 5 โมงครึ่งเค้าเริ่มปิดกันแล้วค่ะ งงเลยค่ะ ก็เลยไม่ได้ทานค่ะ

ไม่แน่ใจว่าปกติปิดเวลานี้ หรือวันนี้มันผิดปกติค่ะ เพราะเห็นป้ายก็เขียนว่าปิด 9 pm แล้วก็เห็นรีวิวอื่นๆเค้าก็มาทานมื้อเย็นกันนะคะ


เดินเล่นกันอีกนิดหน่อย ก็ตัดสินใจทานร้านนี้ก็แล้วกัน


สาหร่ายพวงองุ่นเม็ดแน่นมาก อร่อยด้วย





ชอบปลาหมึกแบบสดมากค่ะ กินทุกร้าน ปลาหมึกอร่อยมากเลย อันที่เป็นสีขาวอะค่ะ ถ้าหากินที่ไทย มีแต่เหนียวๆ



เทมปุระกุ้งอร่อยดี มะระก็เป็นอีกอย่างนึงที่ขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ เค้าให้มะระเยอะมากเลย ขมคอ 555+

มื้อนี้หมดไป 5,000 yen ค่ะ

เสร็จแล้วก็กะจะออกไปเดินเล่นต่อ พอเดินออกมาฝนตกปรอยๆ อากาศก็หนาว


เราเลยตัดสินใจกลับไปเอารถและที่พักค่ะ โดนค่าจอดรถไป 700 yen ค่ะ

แถวนี้ยิ่งช่วงเย็นๆรถติดมากเลยค่ะ เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดีค่ะ

ตอนต่อไป 5. [Review] เที่ยว Okinawa วันที่ 5 Okinawa world + Gyokusendo Cave - Bibi beach - Ashibinaa Outlet [สรุปค่าใช้จ่าย] https://ppantip.com/topic/36245311