แปลก ที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงแทคติกที่เอนริเก้ใช้เมื่อคืน ทั้งๆที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บาซ่าถล่ม PSG อย่างราบคาบ และจำกัดการยิงประตูของ PSG ให้เหลือเข้ากรอบแค่ 3 ครั้ง จากที่เคยปล่อยให้ยิงเข้ากรอบถึง 10 ครั้งในการเจอกันนัดแรก แทคติกที่ว่าคือการใช้หลัง 3 แทนที่หลัง 4 ที่เราคุ้นตา ระบบนี้ของบาซ่า จะเป็น 3-4-3 แต่กลาง 4 คน ไม่ได้ยืนเรียงกันเป็นแถวแบบกลาง 4 ของเชลซี แต่จะยืนแบบมีกลางรับคนเดียว โดยให้บุสเก็ตรับหน้าที่ตรงนี้

เอนริเก้เริ่มใช้แผนนี้ในลีก หลังจากที่บาซ่าโดน PSG ถล่ม ผมคิดว่าในที่สุดเอนริเก้น่าจะมองออกแล้วว่า แบคซ้ายขวาของบาซ่ายุคนี้มันไม่ไหวจริงๆ การตัดแบคซ้ายขวาออก แล้วไปเพิ่มกลางมาช่วยต่อบอลแทน ทำให้บุสเก็ตที่ผมเคยด่าไป กลายเป็นเทพขึ้นมาทันที มีส่วนร่วมกับเกมส์ตลอดเวลาเหมือนสมัยพีคๆ และบอลถูกลำเลียงไปให้กองหน้าทั้ง 3 ได้ง่ายขึ้น และบ่อยขึ้น การที่เอนริเก้กล้าเปลี่ยนระบบในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ผมถือว่าเป็นความกล้าหาญอย่างมาก เพราะนี่คือระบบที่นักเตะบาซ่าไม่คุ้นเคย และการที่กล้าตัดแบ็คซ้ายทีมชาติสเปน อย่างจอร์ดี้ อัลบ้า ทั้งๆที่อัลบ้าก็ไม่ได้เล่นแย่อะไร ก็ยิ่งเป็นความเสี่ยงที่ต้องชื่นชมเอนริเก้ ที่กล้าตัดสินใจขนาดนี้

ถึงแม้ว่าสุดท้าย บาซ่าอาจจะไม่ได้แช้มป์บอลยุโรปปีนี้ เพราะคงต้องหลีกทางให้บาเยิร์นที่มีตัวผู้เล่นดีกว่า แต่เอนริเก้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือของจริง นับตั้งแต่รับมรดกทีมที่กำลังโรยราจากเป๊บ โดยเป๊บก็รู้ ถึงรีบชิ่งหนีไปก่อนแบบไม่รับผิดชอบอะไร ปล่อยให้เอนริเก้ต้องมาสานต่องานที่ยากลำบาก เพราะตัวผู้เล่นหลักๆของบาซ่ามีแต่ขาลง ซึ่งต่างกับยุคเป๊บ ที่นักเตะทั้งทีมอยู่ในช่วงพีค ทำให้เอนริเก้ต้องคอยปรับเปลี่ยนแทคติกตลอดเวลา แต่เขาก็เข็นพาจนทีมได้ 3 แช้มป์ตั้งแต่ปีแรกที่คุม ตัวอย่างชัดๆคือการเปลี่ยนจากกองหน้าตัวหลักสมัยเป๊บ ที่เน้นแต่เมสซี่ มาให้เป็นแค่ตัวสนับสนุน และเปลี่ยนให้ซัวเรซยืนแทน จนมาถึงเมื่อคืนนี้ ที่ปรับแทคติกจนช้อคโลกพาทีมถล่มคู่แข่งระดับแช้มป์ฝรั่งเศสถึง 6 ลูก ดึงบาซ่ากลับขึ้นมาจากหลุมอย่างยิ่งใหญ่ เอนริเก้ใช้แทคติกเข้าสู้ ทั้งๆที่ผู้เล่นบาซ่าตอนนี้หลายคนชั้นยังไม่ถึง และหลายคนก็ขาลง ทำให้ผมยอมรับว่า เอนริเก้เป็นหนึ่งในยอดโค้ชของยุคนี้อย่างแท้จริง