คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ใจเย็นๆเรื่องนี้มีทางออก แม้จะไม่ 100% แต่ผ่อนหนักเป็นเบาได้
กรณีที่ น้ำ ถูกฟ้องล้มละลาย ย่อมถือได้ว่า น้ำ มีการผิดนัดชำระหนี้แก่ ธนาคาร A มาแล้ว
ดังนั้น ธนาคาร A ต้องมีหนังสือถึงผู้ค้ำฯ คือ บี และ โอ๋ ภายใน 60 วันนับจากวันที่น้ำผิดนัด
หากไม่แล้ว บี และ โอ๋ จะรับผิดเพียงต้นเงินและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเพียง 60 วันเท่านั้น
ส่วนที่เกินกว่า 60 วัน บี และ โอ๋ ไม่ต้องรับผิดเลย ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายค้ำประกันฉบับที่แก้ไขใหม่
ความกังวลตรงนี้ ไปดูก่อนว่า ธนาคารมีการส่งหนังสือทวงถามมาที่ บี และ โอ๋ หรือไม่ภายใน 60 วันตอนที่ น้ำ ผิดนัดจนถูกฟ้องล้มละลาย
(ดูกำหนดช่วงเวลาบังคับใช้ กม.ใหม่ด้วยนะครับ หากน้ำถูกฟ้องในคดีแพ่ง และ ล้มละลายก่อนแก้ กม.ค้ำประกัน บีและโอ๋ คงลำบากแน่ๆ)
คราวนี้มาดูเรื่องที่ธนาคาร A จะฟ้องบีและโอ๋ได้หรือไม่
ตอบเลยว่าฟ้องได้แน่นอน การฟ้องนี้ ธนาคารจะฟ้องให้ทั้งบีและโอ๋ร่วมกันชำระหนี้ในส่วนที่ธนาคารยังไม่ได้รับชำระหนี้จากน้ำในส่วนที่ยังขาดอยู่ ในคดีล้มละลาย เช่น น้ำติดหนี้ธนาคาร 1 ล้านบาท ธนาคารได้รับชำระไปแล้ว 4 แสนบาท ธนาคารย่อมมาฟ้องเราได้เพียง 6 แสนบาทเท่านั้น เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารยังไม่ได้รับจากน้ำนั่นเอง
คราวนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้าง
อย่างแรก ต้องตรวจยอดหนี้ก่อนว่ามันถูกต้องตรงกันไหม
ดอกเบี้ยเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ และ ในคดีล้มละลายธนาคารได้เงินไปเท่าไร
มีการบอกกล่าวทวงถามภายใน 60 วันแก่เรานับจากวันที่น้ำผิดนัดหรือไม่
ทั้งหมดต้องตรวจสอบ เพื่อยอดหนี้จะได้ลดลงมาตามจริง และ เป็นข้อต่อสู้ตามกฎหมาย
แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ทำให้เราหลุดพ้นจากความรับผิดแต่อย่างใด
เพียงแต่ผ่อนหนักให้เบาได้เท่านั้นเอง
กรณีที่ น้ำ ถูกฟ้องล้มละลาย ย่อมถือได้ว่า น้ำ มีการผิดนัดชำระหนี้แก่ ธนาคาร A มาแล้ว
ดังนั้น ธนาคาร A ต้องมีหนังสือถึงผู้ค้ำฯ คือ บี และ โอ๋ ภายใน 60 วันนับจากวันที่น้ำผิดนัด
หากไม่แล้ว บี และ โอ๋ จะรับผิดเพียงต้นเงินและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเพียง 60 วันเท่านั้น
ส่วนที่เกินกว่า 60 วัน บี และ โอ๋ ไม่ต้องรับผิดเลย ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายค้ำประกันฉบับที่แก้ไขใหม่
ความกังวลตรงนี้ ไปดูก่อนว่า ธนาคารมีการส่งหนังสือทวงถามมาที่ บี และ โอ๋ หรือไม่ภายใน 60 วันตอนที่ น้ำ ผิดนัดจนถูกฟ้องล้มละลาย
(ดูกำหนดช่วงเวลาบังคับใช้ กม.ใหม่ด้วยนะครับ หากน้ำถูกฟ้องในคดีแพ่ง และ ล้มละลายก่อนแก้ กม.ค้ำประกัน บีและโอ๋ คงลำบากแน่ๆ)
คราวนี้มาดูเรื่องที่ธนาคาร A จะฟ้องบีและโอ๋ได้หรือไม่
ตอบเลยว่าฟ้องได้แน่นอน การฟ้องนี้ ธนาคารจะฟ้องให้ทั้งบีและโอ๋ร่วมกันชำระหนี้ในส่วนที่ธนาคารยังไม่ได้รับชำระหนี้จากน้ำในส่วนที่ยังขาดอยู่ ในคดีล้มละลาย เช่น น้ำติดหนี้ธนาคาร 1 ล้านบาท ธนาคารได้รับชำระไปแล้ว 4 แสนบาท ธนาคารย่อมมาฟ้องเราได้เพียง 6 แสนบาทเท่านั้น เพราะเป็นส่วนที่ธนาคารยังไม่ได้รับจากน้ำนั่นเอง
คราวนี้เราจะทำอย่างไรได้บ้าง
อย่างแรก ต้องตรวจยอดหนี้ก่อนว่ามันถูกต้องตรงกันไหม
ดอกเบี้ยเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ และ ในคดีล้มละลายธนาคารได้เงินไปเท่าไร
มีการบอกกล่าวทวงถามภายใน 60 วันแก่เรานับจากวันที่น้ำผิดนัดหรือไม่
ทั้งหมดต้องตรวจสอบ เพื่อยอดหนี้จะได้ลดลงมาตามจริง และ เป็นข้อต่อสู้ตามกฎหมาย
แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ทำให้เราหลุดพ้นจากความรับผิดแต่อย่างใด
เพียงแต่ผ่อนหนักให้เบาได้เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
ขอคำปรึกษาด่วน !!! กำลังจะโดนธนาคารฟ้อง
เราขอใช้นามสมมติในกระทู้นะคะ เราชื่อบี ทำงานเป็นข้าราชการสังกัดหน่วยงานหนึ่ง เราและเพื่อนร่วมงานชื่อ โอ๋ ได้ค้ำประกันเงินกู้ที่ธนาคาร A
ให้กับเพื่อนร่วมงานชื่อ น้ำ ในวงเงินกู้ ประมาณ 1,500,000 บาท ช่วงแรกการผ่อนชำระหนี้ของน้ำไม่มีปัญหาอะไร จนทำให้หนี้ของน้ำลดลงเหลือประมาณ 1,200,000 บาท ต่อมาน้ำได้ถูกฟ้องล้มละลาย ในฐานะของผู้ค้ำประกันจากธนาคาร B ทำให้น้ำโดนปลดออกจากราชการ ทำให้ขาดรายได้ ทางธนาคาร A ไม่สามารถติดตามทวงหนี้กับน้ำได้ ทางธนาคาร A เลยจะฟ้องเราและโอ๋ที่เป็นผู้ค้ำประกัน ให้ชำระหนี้ของน้ำโดยแบ่งกันคนละครึ่ง แต่เราและโอ๋ต่างก็มีภาระหนี้สินของตัวเอง ที่ต้องผ่อนชำระกับธนาคาร A แต่ละเดือนเป็นจำนวนมากเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ชำระหนี้ให้กับน้ำในฐานะผู้ค้ำประกันเรากลัวต้องโดนปลดออกจากราชการเพราะล้มละลาย เรากับโอ๋ได้ติดต่อไปทางธนาคาร A เพื่อขอประนอมหนี้ของน้ำ เพื่อจะได้ผ่อนชำระในแต่ละเดือน หลังจากรวมหนี้ของเราแล้วไม่หนักเกินไป แต่ธนาคาร A บอกต้องจ่ายหนี้ของน้ำที่เหลือทั้งหมด และชำระให้หมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี ทั้งที่ตอนที่น้ำกู้เงินมีระยะเวลาในการผ่อนชำระถึง 15 ปี ตอนนี้เราเครียดและกลุ้มมาก ถ้าเราจะปล่อยให้ธนาคาร A ฟ้อง แล้วไปไกล่เกลี่ยขอลดหนี้ในชั้นศาลจะได้ไหม ขอคำปรึกษาด่วนๆ ค่ะ ตอนนี้เครียดและกลุ้มมากจริงๆ ธนาคารกำลังจะส่งฟ้องแล้ว !!!!!