ทำไมกระทู้นี้ไม่เห็นเลยค่ะ เพิ่งเห็นนี่แหละ

อยากบอกว่าชอบมากค่ะ ติดตามข่าวคราวเขาตลอด เหมือนเฝ้ามองลูกจะออกเรือนเลยล่ะ ไม่อยากให้เขาสองคน ที่ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าเขาสองคนมีความรู้สึกที่พิเศษต่อกันแน่นอน ในทวิตเตอร์ และ ไอจี ของคนหลายประเทศตอนนี้ก็มีการทำ Timeline ของทั้งคู่ออกมา มีการติดตามข่าวล่าสุดที่ว่าเขาไปบาหลีด้วยกัน และต้นสังกัดออกมาปฏิเสธ (ตามหลักการ) และแฟนคลับหลายคนก็ช่วยกันเตือนกันว่าอย่าไปเร่งเร้าหรือกดดันเขาสองคนมากเกินไป ปล่อยให้เขามีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง  

เราทุกคนอยากรู้เหมือนกันหมดนั่นแหละว่าจริง ...ไม่จริง  
แต่สังคมบ้านเขา พวกเขาสองคนคือคนดังระดับไม่ใช่แค่ประเทศ แต่เป็นระดับนานาชาติแล้ว  สายตาคงกี่ล้านคนที่จับจ้องพวกเขา ความดังของจุงกิ ความดังของเฮเคียว  ความสมบูรณ์แบบของทั้งคู่   ความมีชื่อเสียง  ทำให้เกิดความกดดันอย่างแน่นอน เราทุกคนไม่อยากให้พวกเขากดดันซะจนต้องปล่อยมือกัน กว่าคนสองคนจะหากันเจอ เข้าใจกัน ยอมรับกันได้ขนาดนี้ มันหาไม่ได้ง่าย ๆ นะ

จุงกิเอง แม้จะยังหนุ่ม  กำลังดังสุดขีด ยังมีโอกาสมากมายที่เขาจะเจอใคร ๆ แต่ สำหรับเฮเคียว เหมือน นางในฝันของเขา เหมือนคนที่เขาปลื้ม  ครั้งหนึ่งเหมือนเกินเอื้อม ทั้งสถานะที่เขาเป็นรุ่นพี่  ดังมากในวงการ เหมือนมวยคนละรุ่น แต่พระเจ้าก็ประทานโอกาสให้จุงกิ (รวมกับความตั้งใจจริงของเขาด้วย เชื่อว่านะ) ได้รู้จัก ได้ใกล้ชิด ได้เรียนรู้กันและกัน  และเวลาที่เขาได้ใช้ด้วยกันจริง ๆ เกือบ 300 วันในการถ่ายทำ DOTS ทำให้คนสองคนได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน  เหมือนได้ร่วมต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันสองคน  ทั้งการถ่ายทำปกติที่ต้องส่งอารมณ์ให้กัน เพราะจุงกิเอง ก็เหมือนเพิ่งมาทำงานใหม่หลังจากออกจากกรมหมาด ๆ เวลาสองปีที่หายไปนี่ทำให้เขาต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่า  ยิ่งต้องเป็นนักแสดงนำด้วย ยิ่งกดดันเขา คนที่ใคร ๆก็รู้ว่า อ่อนเยาว์แต่หน้าตา แต่จริง ๆแล้วเขาเป็นคนจริงจัง และเข้มงวดกับการทำงานมาก

ความกดดันอย่างที่สอง ทีคงเป็นจุดที่ จุงกิ  เทใจให้เฮเคียวทั้งหมด เพราะ

ในช่วงท้าย ๆ ของ DOTS จุงกิบาดเจ็บมากจากการเล่นฉากบู๊ แขนหัก ขาน่าจะหักด้วย ต้องพักรักษาตัวหลายสัปดาห์  แต่ส่วนแขนที่หักยังใส่เฝือก จะเห็นได้ในหลายฉากของเรื่องนี้  
แน่นอนความเครียดนี้สำหรับคนที่มีความรับผิดชอบสุงอย่างจุงกิ  มันคงจะโถมเข้ามาหาเขา เหมือนเขาทำให้ทุกคนเสียเวลา  เงินทุนที่ลงทุนมหาศาล งานอาจจะไม่เสร็จทันกำหนดเดิมเพราะตัวเองเป้นเหตุ  เข้าใจเลยกับความรู้สึกเครียดมาก ๆและโทษตัวเองอย่างมากในวันนั้นของจุงกิ  มันเป็นงานแรกที่รับหลังออกมาจากกรม  เป็นงานใหญ่ลงทุนสูง  คาดว่าคงมีหลายคนที่พูดหรือทำอะไรสักอย่างให้เขารู้สึกผิดอย่างมาก จนหลายหนที่เขาเคยพูดตอนหลังว่า ในช่วงการทำงานกับ DOTS เขาร้องให้บ่อยมาก จนใคร ๆก็ว่าเขาเหมือนเด็ก เอ็นดูนางนะ

แล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาในชีวิตที่กำลังดิ่ง และเคว้งคว้างของจุงกิ ...

...เฮเคียว โทรศัพท์หาเขา (ตรงนี้แหละ หลายคนไม่แน่ใจว่าพวกเขาสองคนเริ่มคบกันหรือยัง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเฮเคียวถึงทำขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย และจุงกิก็แค่รุ่นน้อง แต่คาดว่าอีกเหตุผลคือ เฺฮเคียวต้องการให้งานชิ้นแรกที่เธอรับหลังจากพักหลายปี เธอคงอยากให้งานออกมาดีที่สุด เธอถึงต้องหาทางช่วยแก้ไขจุดนี้ให้ได้ ณ ตอนนั้น อาจจะเพราะเป็นคนรับผิดชอบงาน อยากช่วยแก้ไข อยากช่วยน้องในฐานะรุ่นพี่  ตามประสาคนใจดีต่อทุกคน ไม่คิดว่าน้องจะคิดปีนเกลียว 555)

ในตอนพิเศษของเรื่อง ทั้งสองก็พูดถึงเรื่องนี้  เฮเคียวโทร.หาจุงกิ ไม่ให้เขาโทษตัวเอง และคงบอกว่าทุกอย่างมันแก้ไขได้ ตอนนั้นอาจจะพูดแบบพี่พูดกับน้อง นะคิดว่า ให้กำลังใจ แล้วก็คิดแก้ไขปัญหา

เฮเคียว ดูบท และปรึกษากับผู้กำกับ จึงรู้ว่าสามารถถ่ายทำฉากไหนได้โดยไม่ต้องมีจุงกิ ก็ถ่ายไปก่อน เธอยอมถ่ายทำในฉากที่ต้องแสดงอารมณ์เศร้าโดยไม่ต้องใช้พระเอกมากระตุ้นหรือบีบให้ซีนนั้นเป็นไปได้ดี คิดดูคนเราต้องแสดงคนเดียวเพื่อให้เหมือนมีอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย ต้องใช้คนระดับเธอเท่านั้นถึงจะเข้าถึงซีนแบบนั้นได้เป็นอย่างดี

แล้วทกุอย่างก็ผ่านไปด้วยดี  จนถึงวันที่ทุกอย่างมันประสบความสำเร็จเกินคาด เรตติ้งพุ่งไม่หยุด ไม่ใช่แค่ในเกาหลีนะ กี่ประเทศล่ะ ...