ขอเขียนยาวนิดนึงเพื่อให้เห็นภาพ เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของการใช้บริการขอวีซ่าท่องเที่ยว มีดราม่านิดๆ ถ้าไม่ชอบผ่านเลยนะคะ

เราจะไปเที่ยวจีนกับครอบครัว 11-15 เม.ย. เราให้บริษัททัวร์จัดการเอกสารให้ เราเป็นผู้หญิงข้ามเพศ

28 ก.พ.
บริษัททัวร์แจ้งมาทางโทรศัพท์ว่าเราต้องแสดงตัวเพิ่มเติม เหตุเพราะชื่อเราเป็นนายซึ่งไม่ตรงกับหน้าตาที่เป็นผู้หญิง เราก็โอเค ได้  เค้าบอกมาว่า ให้เตรียมเอกสารเพิ่มอีกสองสามอย่าง ให้เราเขียนจดหมายเพิ่มว่า เราประกอบอาชีพอะไรอยู่ ไปจีนทำไม ให้เรายืนยันว่าจะไม่ไปแสดงคาบาเรต์ที่นั่น เราก็ขำๆ รีบเตรียมจดหมายเขียนยืนยันว่าจะไม่ไปหาจ๊อบที่นั่น เราเขียนตอนหนึ่งว่า

I am writing to you to apply for a Chinese visa for the aforementioned travel reasons. During this trip, I will only travel. I can guarantee that I will not seek any job while traveling in China.

เราส่งเอกสารเพิ่มเติมและจม.ให้บริษัททัวร์ดูก่อนทางไลน์ เค้าบอกใช้ได้แล้ว

1 มี.ค.
วันถัดมา เรารีบไปตั้งแต่เก้าโมงเช้าเพื่อเจอกับคนจากบริษัททัวร์เพราะอยากให้เสร็จไวๆ  เราต้องการพาสปอร์ตคืนโดยเร็ว เพราะปลายมี.ค.จะไปเที่ยวลาวกับเพื่อน

รอพักใหญ่ ถึงคิวเรา พนง.เห็นจดหมายเรา ซุบซิบกันเองซักพักแล้ว หันมาบอกเราว่า ไม่ได้  เราก็ถามทำไมไม่ได้ เค้าบอกต้องมีคีย์เวิร์ดคำว่า cabaret ด้วย เพราะมันเป็นกฎ เราคิดในใจ สาดดด กฎบ้าไรฟระ แล้วงานคาบาเรต์มันก็เป็น subset ของ job ไม่ใช่เหรอฟระ แต่เราไม่ได้ตอบโต้อะไรเป็นคำพูดนะ แค่ชักสีหน้าและมองบนหน่อยๆแค่นั้น

พนง.ไล่ให้เราลงไปชั้นสองมีร้านของชำเล็กๆ บริการพิมพ์ A4 หน้าละ 15 บาท เราเริ่มหงุดหงิด แต่ก็คิดว่า เออ ทำๆไปให้เสร็จ เราลงไปแก้ เราคิดว่าเราโชคดีที่เซฟไฟล์จม.ไว้ใน OneDrive รอคิวแก้แป๊บเดียวเสร็จ ไม่ต้องนั่งพิมพ์ใหม่ทั้งฉบับ  

ขึ้นมานั่งรออีกพักใหญ่ ยื่นเสร็จแล้วคราวนี้พนง.ซุบซิบงุบงิบ แล้วหันมาบอกเรากับคนของบริษัททัวร์ว่าให้วีซ่า 30 วันนะคะ เราก็เหวอ เพราะมันไม่คัฟเวอร์ทริปกลางเม.ย. แปลว่าเราต้องถ่อเข้ากรุงเทพฯไปอีกรอบ แปลว่าเราต้องถอนใบคำร้องออกมาก่อนเพื่อจะยื่นใหม่ และจะต้องมาแสดงตัวอีกรอบหนึ่งด้วย เราปรี๊ดขึ้น พูดด้วยเสียงอันดังว่า ทำไมคนอื่นในทริปเดียวกันในครอบครัวเดียวกันได้วีซ่าท่องเที่ยว 90 วันแต่ดิฉันได้ 30 วัน เพราะว่าดิฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศอย่างนั้นเหรอ พนง.บอกอีกครั้งว่า มันเป็นกฎ เราถามพนง.ว่า กฎอะไรคะ เขียนไว้ตรงไหนคะ ขอดูกฎหน่อยสิคะ พนง.ยิ้มเจื่อน พูดย้ำว่า มันเป็นกฎน่ะครับ พร้อมยกมือขึ้นปางห้ามญาติมาทางเรา แล้วรีบเดินไปทางอื่น เรายัวะมาก เดินผลุนผลันออกมา ลงไปร้องไห้ในห้องน้ำชั้นใต้ดินพักนึง

เราไม่เข้าใจ ทำไมศูนย์วีซ่าไม่บอกบริษัททัวร์ตั้งแต่ต้นว่านทท.กะเทยทุกคน ต้องแนบจม.ว่าจะไม่ไปทำงาน cabaret ตั้งแต่ต้น

เราไม่เข้าใจ ทำไมต้องบอกให้เราลงไปแก้จม.ในเมื่อจม.กับใบจองโรงแรมก็เขียนอยู่ว่าไป 11-15 เม.ย. ถ้ามันมีกฎอย่างนั้นจริงๆ ว่าผู้หญิงข้ามเพศได้วีซ่าไม่เกิน 30 วัน จะให้เสียเวลาเสียเงินแก้จม.แล้วก็ไม่ครอบคลุมทริปอยู่ดีทำไม

ส่วนตัวเราไม่เชื่อว่ามีกฎแบบนี้ จนถึงวันนี้ (8 มี.ค.) ทั้งในเว็บของศูนย์วีซ่าจีนและเว็บสถานทูตจีน เราก็หากฎที่ว่าไม่เจอ

เราอยากถาม ถ้าสถานทูตไทยบังคับให้นนท.จีนเขียนจม.แนะนำตัวว่าจะไม่มาขากฉี่อึริมถนนในไทย จะรู้สึกอย่างไร (อย่าดราม่านะ เราสมมุติเฉยๆ นทท.จีนดีๆมีเยอะแยะ ใครๆก็รู้)

เราอยากถาม มีศูนย์วีซ่าประเทศไหนเค้าให้คนไทยเขียนจดหมายแบบนี้มั้ย เช่น ชายไทยต้องเขียนรับรองว่าจะไม่ข่มขืนคนอื่นเหมือนในละครหลังข่าว หญิงไทยจะไม่ค้าบริการทางเพศ (ยกตัวอย่างเฉยๆ ผู้ชายดีๆมีเยอะแยะ ผู้หญิงเรามีอาชีพได้หลากหลาย) เท่าที่ทราบมันไม่มีศูนย์วีซ่าไหนเค้าทำกันหรอก เพราะมันจะเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะมายาคติทางเพศไง เรื่องอาชีพเรื่องความผิดทางอาญามันเป็นเรื่องของแต่ละคน นางโชว์สวยๆเก่งๆส่วนมากเป็นสาวสอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราทำได้อยู่อาชีพเดียว กรณีของเรามันคือการถูกเลือกปฏิบัติเพราะเพศสภาพไง คนในครอบครัวเราไม่มีใครต้องเขียนจดหมายแบบนี้ ไม่มีใครต้องเขียนยืนยันเรื่องอาชีพคาบาเรต์แบบนี้ในการขอวีซ่าท่องเที่ยว

เราอยากถามศูนย์บริการวีซ่าจีน ถ้าเรามีคีย์เวิร์ดที่เค้าอยากเห็นคือคำว่า cabaret แล้ว พอไปจีนจริงๆ เราดันไปรับจ๊อบเสิร์ฟอาหาร จะไม่ผิดกฎหมายหรือไง

ไปประเทศไหนก็ปฏิบัติตัวตามกฎหมายประเทศนั้น จบ ไปเที่ยวคือห้ามทำงาน ไม่ว่างานอะไรก็ตาม จบ

ส่วนตัวเรายังเชื่อว่า สถานทูตไม่เคยออกกฎแบบนี้นะ เรากังขามากว่าสถานทูตเลือกจ้างศูนย์บริการวีซ่าจีนนี้ด้วยเหตุผลอะไร มีการเทรนอะไรบ้างมั้ย