สวัสดีค่ะ ขออนุญาตสอบถามสำหรับผู้ที่ขับ Mazda 3 Skyactiv ว่าเจอปัญหาเสียงดังจากอาการต่างๆ บ้างมั้ยค่ะ ??

เจ้าของกระทู้ตัดสินใจซื้อรถ Mazda 3 Skyactiv รุ่น 2016 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2559 (ปีที่แล้ว)
รถใช้งานได้ประมาณ 2,XXX กิโลแรก เริ่มมีอาการงอแงค่ะ
อาการงอแงที่ว่านี้ คือ มีเสียงดังเวลาขับรถในทางขรุขระ หรือ เวลาขึ้นหลังเต่า ตัดสินใจเข้าศูนย์ ผลปรากฎว่า ...
เบ้ารองโช็คหน้าเสื่อม !!! รถใช้งานได้ไม่นาน เบ้ารองโช็คเสื่อมแล้ว ตอนนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้นะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ
เครมได้  ก็ทำเรื่องเครม เปลี่ยนแล้ว อาการเสียงดังหายไป

รับรถมาได้ไม่เกิน 1 เดือน ก็เริ่มงองแงด้วยการเสียงดัง (อีกแล้วค่ะ) หลังจากที่เพิ่งจะเปลี่ยนเบ้ารองโช็ค
ก็ตัดสินใจเอารถเข้าศูนย์อีกครั้ง ... ช่างแจ้งว่า ... "บูชปีกนก" แตก !!!
สาบานด้วยความสัตย์จริงค่ะ ใครจะขับรถลงหลุมขนาดทำให้เบ้ารองโช็คเสื่อมและบูชปีกนกแตกได้ในเวลาไม่กี่เดือนกันนะ
ยอมรับด้วยซ้ำว่าขับรถถนอมมาก เคยวิ่งต่างจังหวัดคือ กทม.-เชียงใหม่ ซึ่งถนนหนทางก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่โดยส่วนใหญ่ก็ใช้ใน กทม.
ซึ่งถนนหนทางที่ขับ ก็ไม่ได้เป็นหลุมบ่อ หรือกำลังก่อสร้างนะคะ เป็นถนนราดยางปกติเลย ... เฮ้ออออออ
สรุปครั้งนี้ ก็ทำเรื่องเครม เปลี่ยนบูชปีกนกค่ะ และอาการเสียงที่ดัง ก็หายไป

ขับรถแบบสบายใจได้ไม่นาน น้อง 3 ก็เริ่มงอแงอีกแล้วค่ะ
คราวนี้หนักหนากว่าครั้งก่อนๆ ด้วยการที่ดังเหมือนเสียงหินดีดมาจากซุ้มล้อด้านหลังรถ แรกๆ ที่ดัง ไม่ได้เอ๊ะใจอะไรนะคะ คิดว่าหินดีด
แต่มันเริ่มดังบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนแอบคิดว่าไม่น่าจะใช่หินดีดแล้วนะ เพราะถนนที่เราวิ่ง ก็ไม่ได้มีเศษหินขนาดที่จะสามารถดีดและดังถี่ๆ ได้
เสียงที่ดัง คือ แป๊กๆ แป๊กๆ เหมือนเสียงมีสิ่งอะไรสักอย่างกระทบกับตัวถังของรถ

ตัดสินใจรื้อหลังรถค่ะ .. ว่าเอ๊ะเราเอาอะไรมาใส่ไว้แล้วมันกลิ้งไปมาอยู่ด้านหลังรถรึป่าว .. ปรากฎว่าขยับยางอะไหล่ก็แล้ว เครื่องมือต่างๆ ก็แล้ว
อาการเสียงดังก็ยังคงมีอยู่ค่ะ เลยตัดสินใจไปให้ช่างดูดีกว่า

เลือกเข้า Mazda แถวๆ ที่ทำงานก่อนค่ะ
ครั้งแรกช่างรื้อรถแบบเห็นแล้วแทบช็อค เพราะข้างหลังนี้คือโป้เปลือย และช่างก็ใช้เวลาทั้งวัน หมดไปกับการตรวจหาต้นตอของเสียง
หมดวัน ผลปรากฎว่า "หาต้นเหตุของเสียงไม่เจอ" จึงแก้ไขอะไรไม่ได้ รถก็ยังคงดังต่อไป -*-
ช่างบอกกับเราว่า ... เรื่องเสียงนี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างหายากครับ เราต้องใช้เวลา และทำการนัดหมายเรา เพื่อให้เอารถเข้าไปให้เข้าดูอีกครั้งในวันที่ลูกค้าไม่เยอะมาก และสามารถดูแลรถเราได้เต็มที่ และช่างก็ยอมรับตรงๆ ว่า ไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อนเลย เฮ้ออออออออออ

ขับรถกลับบ้านแบบเซงๆ ค่ะ แต่ก็เข้าใจทีมช่างทุกคน เพราะเราเองที่เป็นเจ้าของก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร
แต่ที่แน่ๆ มั่นใจ เกิน ล้าน เปอร์เซ็นต์ ค่ะ ว่าไม่ได้ไปชนหนัก เกิดอุบัติเหตุ อะไรทั้งสิ้น ไม่เคยเข้าเครมอุบัติเหตุค่ะ

ครั้งที่ 2 เราทำการนัดหมายกับช่างศูนย์เดิม เพื่อทำการเช็คเสียงดังอีกครั้ง
คราวนี้เริ่มมีอาการดังถี่ขึ้น และเสียงดังมากขึ้น เปิดเพลง vol.20 ยังได้ยินชัดเจน
ช่างก็ใจดี ดูแลดี หาตรงนั้น ดูตรงนี้ ไปลองรถ ช่างคนที่ 1 ขับ คนที่ 2 นอนตรงประตูหลังรถ เพื่อฟังว่าต้นเสียงมาจากไหน
ใช้เวลาอีก 1 วัน ผ่านไปแล้ว แต่ .... ก็ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ และก็ไม่รู้สาเหตุของต้นกำเนิดเสียงอยู่ดี

ครั้งที่ 3 เราเอารถเข้าศูนย์ที่บ้านต่างจังหวัด ช่างแนะนำว่าให้ทิ้งรถไว้ค่ะ เพื่อที่จะได้มีเวลาลองรถและหาต้นตอของเสียง
เรากลับบ้านไปวันศุกร์ ทิ้งรถไว้ วันศุกร์ เสาร์ไปรับรถ ผลที่ได้คือ เหมือนเดิมค่ะ คือไม่หาย !!!
ช่างที่นี่สงสัยว่าอาจจะเกิดจากกล่องเบลหลังรถรื้อออกมาแล้วไปลองขับก็ไม่หาย ดังมาจากซุ้มล้อขันน็อตทุกตัวให้แน่นไปลองรถก็ไม่หาย
สุดท้ายช่างก็บอกว่า แก้ไขไม่ได้ ถ้าอยากแก้ให้ส่งรถไปที่โรงงานผลิต ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน ... กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ครั้งที่ 4 เราเอารถเข้าศูนย์แถวบ้าน ซึ่งเอาจริงๆ ไม่อยากเปลี่ยนศูนย์นะคะ เพราะมันเหมือนการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่
แต่ถ้าไปศูนย์เดิม เค้าก็ช่วยเราไม่ได้ การลองเปลี่ยนศูนย์จึงเป็นตัวเลือกของเราที่พอจะทำได้
การเปลี่ยนศูนย์ครั้งนี้ ... ช่างที่รับรถ เข้าพูดกับเราว่า "มีรถเข้ามาด้วยอาการเสียงดังจากท้ายรถแบบนี้ค่อนข้างเยอะ" คุณพระ !!!!

และช่างก็บอกว่า ถึงแม้เสียงดังจะเหมือนกัน แต่ต้นกำเนิดเสียงอาจจะต่างกัน บางคันน็อตหลวม ขันน็อตหยอดจาระบี ก็หาย
บางคันก็เกิดจากเสียงของช่องเบลด้านหลัง รื้อมาประกอบใหม่ ก็หาย
แต่บางคันก็หาต้นตอของเสียงยาก ใช้เวลา 2-3 วัน กว่าจะเจอ แต่ก็เจอ และก็หาย

เราจอดรถไว้ครึ่งวัน .. มารับรถตอนเย็น ช่างบอกว่า อากาารที่เกิดขึ้น เกิดจาก "ตัวถังรถบิด" ซึ่งช่างได้ทำการอาร์คตัวถังให้ตามรอยตะเข็บแล้ว
ให้เราเอารถไปขับก่อน หากมีอาการเสียงดัง ให้นำรถกลับเข้ามาใหม่

ขับออกจากศูนย์มาได้สักพัก แทบกรี๊ด เพราะมันเงียบมาก ไปกับคุณแม่ พูดกับคุณแม่ว่า แม่ช่างเค้าเก่งจัง ทำไมใกล้เกลือกินด่างแบบนี้
ไม่ทันขาดคำพูด... แป๊กๆๆ.. แป๊กๆ คุณพระ !!!! ไ ม่ ห า ย ย ย ย ย

เราไม่รอช้า โทร.กลับที่ศูนย์ ช่างบอกว่าขอเวลา 1 วัน จะทำการอาร์คตะเข็บให้ใหม่
ตามคำร้องขอค่ะ เราเอารถเข้าไปให้ช่างในอีก 2 วันถัดมา และทิ้งรถไว้ (นับเป็นครั้งที่ 5)

ผ่านไป 2  วัน ศูนย์โทร.มาให้ไปรับรถ เราดีใจแทบบ้าาา.. ขับรถมาเกือบถึงบ้าน หลอกให้ดีใจอีกแล้ววววว น้อง 3 ของพี่
เพราะตลอดระยะทางที่ขับมาไม่ได้ยินเสียงเลย จนมาแวะปั้มน้ำมัน (น้ำมันหมดจากการที่ช่างขับลอง..ไม่ว่ากันค่ะ) ขับออกจากปั๊มปุ๊บ
มาเลยจ้าาาา .. แป๊กๆๆ.. แป๊ก แป๊กๆๆ ... แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง -*-

โทร.กลับไปที่ศูนย์อีกครั้ง ช่างแจ้งว่าตอนช่างลองรถก็เงียบดีนะ เอ๊ะ.. ยังไงกัน
แล้วทำไมตอนนี้มันดังอีกแล้ว ... แต่เราแจ้งกับช่างไปค่ะว่า .. เราขอทดลองขับสัก 2 วันก่อน เผื่อเราจิตตกไปเอง
ช่างก็โอเคค่ะ .. แต่ตลอดระยะเวลา 2 วันที่ใช้รถ .. มันดังขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

ดังจนเราทนไม่ไหวแล้ว ขับรถไปร้องไห้ไปแบบคนเป็นบ้าา คุณแม่บอกให้แจ้ง สคบ. แต่เราก็สงสารช่าง
เพราะพี่ๆ ทีมช่างทุกคน ทุกศูนย์ เค้าใจดี ยินดีบริการ และอดทนกับเรามาก ขอบคุณตรงนี้เลยนะคะ ทีมช่างน่ารักทุกท่านจริงๆ
และพี่ๆ ทีมช่าง เค้าก็ขอไว้ บอกว่ารอให้ถึงช่วยที่แก้ไม่ได้จริงๆ แล้วค่อยให้ถึงกระบวนการฟ้องร้อง

เอาจริงๆ เราไม่อยากมีเรื่องค่ะ ไม่อยากมี แต่เสียความรู้สึกจัง
เราสาบานตรงนี้ พูดตรงนี้ด้วยความสัตย์ว่า ไม่เคยชนหนัก ไม่เคยขับรถตกหลุม ไม่เคยขับเร็วบนถนนขรุขระ และส่วนใหญ่ใช้บนถนนราดยาง
เราไม่รู้จริงๆ ว่าทั้งหมดมันเกิดจากสาเหตุอะไร มีผู้ใช้ Mazda 3 Skyactiv ท่านไหนเป็นแบบนี้บ้างค่ะ แล้วแก้ไขยังไงหรอ มีศูนย์ไหนแนะนำมั้ยค่ะ

ตอนนี้เราจิตตกไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้จะแก้ไขยังไง กลัวมีปัญหาตามมาที่หลัง
ตอนนี้รถเราเกือบจะปีแล้ว แต่เข้าศูนย์มากกว่าคันเก่า Honda Jazz ซะอีก แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เราซื้อรถราคาเป็นล้านนะ หวังอยากขับรถเงียบๆ ไม่ต้องมาจิตตกกับเสียงแป๊กๆๆๆๆๆ ที่ด้านหลัง ซึ่งดังมาก และถี่มากจริงๆ
มีใครรู้วิธีแก้ไข โปรดแนะนำเราทีนะคะ

ถึงเราจะเป็นผู้หญิง แต่ก็รู้เรื่องรถพอสมควร แต่เรื่องนี้เรารับมือไม่ไหวจริงๆ
เหนื่อยใจมากจริงๆ

วานผู้รู้ช่วยเหลือแนะนำให้ที่นะคะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ และขอบคุณที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ