ก็อ่านผมก็สวัสดีท่านผู้อ่านก่อนเลยนะครับ ผม
Icemanny ก็แค่มนุษย์ออฟฟิตคนหนึ่งที่เดินดินและอยากเล่าเรื่องเท่านั้นครับ วันนี้ผมก็อยากจะเล่าเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับผมแล้วเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาหรอกครับ เรื่องนั้นก็คือ
1 วันสุขใจ...จาก วัดโพธิ์ สู่วังหลัง ศิริราช หลายคนอาจจะงงว่ามันจะมีอะไรที่ประทับใจหนักหนาก็แค่การเดินทางธรรมดา จาก
วัดโพธิ์ ไป
ศิริราช เอง ผมก็เล่าเรื่องเลยก็แล้วกันครับ จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้คือ ผมตั้งต้นจาก
สนามหลวง ก็คือนั่งรถเมล์จาก
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วไปลงตรงสนามหลวง โดยงานนี้ผมต้องบอกก่อนนะครับจุดประสงค์หลักก็คือการใช้งานน้อยที่สุดและเที่ยวเพื่อเสพบรรยากาศโดยรอบให้มากที่สุดนะครับ เอาแหละพอผมมาถึงที่ สนามหลวง แล้วงานนี้ผมก็นัดพี่ชายผู้ร่วมชะตากรรมไปด้วยนะครับ 555 ถึงแม้จะเป็นการนัดที่แบบฉุกเฉินเลยก็ตาม แต่แกก็อยากมาด้วยนะครับ ก็ขอขอบคุณพี่ไว้นะที่นี่ด้วยนะครับ พอผมได้พบกับพี่ชายผู้ร่วมทริปครั้งนี้แล้วผมก็คิดก่อนเลยว่า...
โดยจุดแรกที่น่าไปสำหรับผมเลยก็คือ
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งผมและพี่ชายก็เดินไปตามทางโดยจุดสักเกตก็คือ อนุสาวรีย์ช้างหลายหัว เอาเป็นว่าผมเรียกอย่างนั้นก็แล้วกันครับ โดยที่ถ่ายรูปได้ก็ประมาณนี้นะครับ
นี่ไงช้างหลายหัวที่ผมพูดถึง
พอเดินไปอีกฝั่งของช้างหลายหัวที่ผมพูดถึงแล้ว ก็จะเห็น ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เลยนะครับสาเหตุที่ผมเลือกมาที่นี่เป็นที่แรกก็คือ การทำบุญเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นครับ เป็นหลักเป็นแหล่ง ตามความเชื่อที่เชื่อกันมานะครับ และแน่นอนว่าเราก็ทำบุญกันไปนั่งพักรับลมเย็นๆจากภายในศาลก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปนะครับ
นี่คือ 5 เทพภายในศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร นะครับ ขอบคุณภาพด้วยนะครับ
เอาล่ะครับ พอเสร็จจาก ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร แล้วผมก็ไม่รอช้าเลยครับ รีบออกเดินทางไปอีกทีเลยครับ ซึ่งนั่นก็คือ วัดโพธิ์ หรือชื่อเต็มที่ว่า
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร สำหรับวัดนี้ก็เป็นวัดดังที่ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรู้จักและแวะเวียนมาตลอด และนี่คือบรรยากาศวัดโพธิ์ที่ผมสามารถถ่ายได้แค่เนี่ยนะครับ น้อยไปก็ขออภัยแล้วครับ
เอาล่ะครับ...จากจุดที่ วัดโพธิ์ ผมกับพี่ชายก็เดินเลาะมาจาก
ย่านตึกเก่าแถววัดโพธิ์ เพื่อที่จะไป
ท่าเตียน ต่อและหาเรื่องนั่งเรือข้ามไปยังอีกฝั่ง...โดยเป้าหมายของผมครั้งนี้ก็คือ
แถวย่านโรงพยาบาลศิริราช หรือที่คนแถวนั้นชอบเรียกว่า
ย่านวังหลัง อันที่จริงผมก็ไม่รู้อะไรมากมายหรอกครับในโซนนั้นแต่พี่ที่ร่วมทริปไปด้วยนั้นเขารู้จักเขาก็เลยเล่าถึงบรรยากาศในสมัยก่อนให้ผมฟังและผมก็ลองคิดตามในเชิงจินตนาการตามว่าถ้าสมัยก่อนเป็นอย่างที่พี่ว่าไปแล้ว แปลว่าเวลามันเปลี่ยนไปตามกาลเวลามากมายแต่นั้นแหละครับ กาลเวลา มักจะเปลี่ยนแปลงไปทุกสิ่ง...ถึงแม้กระทั่งประวัติศาสตร์ของสถานที่ตรงนั้นด้วย เอาแหละครับ ย่านตลาดวังหลังตรงศิริราช มีอะไรล่ะ...ทำไมผมถึงพูดถึงหนักหนา...คำตอบส่วนตัวของผมเลยก็คือ
หอยทอด อีก 1 เมนูสุดโปรดส่วนตัวเฉพาะผมเลย งานนี้ผมก็เลยถามพี่ที่ร่วมทริปด้วยว่า “แถวนี้มีอาหารอะไรที่น่าอร่อยไหม ?” และคำตอบที่ได้ก็คือ.....พี่ก็ไม่รู้ว่ะน้อง...ผมก็เลยนึกถึงท่อนเพลงขึ้นได้เลยว่า อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่เคยพูดไว้นิว่า แต่นั้นแหละครับ ผมก็แอบคิดและแซวเล่นแกไปนะครับ อย่าโกรธผมนะพี่ อิอิ พอๆ กลับมาเล่าต่อ...และนี่คือ เมนูที่ผมพูดถึงนะครับ
นี่คือ หอยทอด ย่านศิริราช ที่ผมพูดถึงนะครับ
มาถึงเมนูนี่...ใครจะเชื่อล่ะว่าแค่ 80 หรือ 90 บาทเนี่ยแหละผมก็จำราคาที่แน่นอนไม่ได้นะครับ แต่เอาเป็นว่าไม่เกิน 100 บาทอย่างแน่นอน พอหลังจากทาน หอยทอด เสร็จแล้วผมกับพี่ที่ร่วมทริปไม่รู้นึกยังไงอยากไปวัดระฆังปิดท้ายก็ไปกัน...แต่ก็เอาแล้วครับ พอเดินทางไปโดยอาศัยวินมอเตอร์ไซต์ไปวัดระฆังกัน...คราวนี้เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากครับ กินอิ่ม แล้วมาทำบุญต่อปิดท้าย และก็นั่นแหละครับ สุดท้ายนี่ผมก็ขอปิดเรื่องนี้ด้วยภาพที่ท่าน้ำวัดระฆังก็แล้วกันนะครับ ผมสัญญาก็แล้วกันครับว่าคราวหน้าผมจะเล่าให้ดีกว่านี้อย่างแน่นอนครับ
ภาพสุดท้ายของทริปนี้ที่ท่าน้ำ วัดระฆัง
**สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ ใครมีสถานที่อะไรดีๆ ก็มาคอมเม้นท์แลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ถือว่าทุกใจคอคนชอบเที่ยวเหมือนกันครับ**
Icemanny นักเล่าเรื่องจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง
1 วันสุขใจ...จาก วัดโพธิ์ สู่วังหลัง ศิริราช
ก็อ่านผมก็สวัสดีท่านผู้อ่านก่อนเลยนะครับ ผม Icemanny ก็แค่มนุษย์ออฟฟิตคนหนึ่งที่เดินดินและอยากเล่าเรื่องเท่านั้นครับ วันนี้ผมก็อยากจะเล่าเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับผมแล้วเรื่องนี้มันไม่ธรรมดาหรอกครับ เรื่องนั้นก็คือ 1 วันสุขใจ...จาก วัดโพธิ์ สู่วังหลัง ศิริราช หลายคนอาจจะงงว่ามันจะมีอะไรที่ประทับใจหนักหนาก็แค่การเดินทางธรรมดา จาก วัดโพธิ์ ไป ศิริราช เอง ผมก็เล่าเรื่องเลยก็แล้วกันครับ จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้คือ ผมตั้งต้นจาก สนามหลวง ก็คือนั่งรถเมล์จาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วไปลงตรงสนามหลวง โดยงานนี้ผมต้องบอกก่อนนะครับจุดประสงค์หลักก็คือการใช้งานน้อยที่สุดและเที่ยวเพื่อเสพบรรยากาศโดยรอบให้มากที่สุดนะครับ เอาแหละพอผมมาถึงที่ สนามหลวง แล้วงานนี้ผมก็นัดพี่ชายผู้ร่วมชะตากรรมไปด้วยนะครับ 555 ถึงแม้จะเป็นการนัดที่แบบฉุกเฉินเลยก็ตาม แต่แกก็อยากมาด้วยนะครับ ก็ขอขอบคุณพี่ไว้นะที่นี่ด้วยนะครับ พอผมได้พบกับพี่ชายผู้ร่วมทริปครั้งนี้แล้วผมก็คิดก่อนเลยว่า...
โดยจุดแรกที่น่าไปสำหรับผมเลยก็คือ ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งผมและพี่ชายก็เดินไปตามทางโดยจุดสักเกตก็คือ อนุสาวรีย์ช้างหลายหัว เอาเป็นว่าผมเรียกอย่างนั้นก็แล้วกันครับ โดยที่ถ่ายรูปได้ก็ประมาณนี้นะครับ
พอเดินไปอีกฝั่งของช้างหลายหัวที่ผมพูดถึงแล้ว ก็จะเห็น ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เลยนะครับสาเหตุที่ผมเลือกมาที่นี่เป็นที่แรกก็คือ การทำบุญเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นครับ เป็นหลักเป็นแหล่ง ตามความเชื่อที่เชื่อกันมานะครับ และแน่นอนว่าเราก็ทำบุญกันไปนั่งพักรับลมเย็นๆจากภายในศาลก่อนที่จะออกเดินทางต่อไปนะครับ
เอาล่ะครับ พอเสร็จจาก ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร แล้วผมก็ไม่รอช้าเลยครับ รีบออกเดินทางไปอีกทีเลยครับ ซึ่งนั่นก็คือ วัดโพธิ์ หรือชื่อเต็มที่ว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร สำหรับวัดนี้ก็เป็นวัดดังที่ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรู้จักและแวะเวียนมาตลอด และนี่คือบรรยากาศวัดโพธิ์ที่ผมสามารถถ่ายได้แค่เนี่ยนะครับ น้อยไปก็ขออภัยแล้วครับ
เอาล่ะครับ...จากจุดที่ วัดโพธิ์ ผมกับพี่ชายก็เดินเลาะมาจาก ย่านตึกเก่าแถววัดโพธิ์ เพื่อที่จะไป ท่าเตียน ต่อและหาเรื่องนั่งเรือข้ามไปยังอีกฝั่ง...โดยเป้าหมายของผมครั้งนี้ก็คือ แถวย่านโรงพยาบาลศิริราช หรือที่คนแถวนั้นชอบเรียกว่า ย่านวังหลัง อันที่จริงผมก็ไม่รู้อะไรมากมายหรอกครับในโซนนั้นแต่พี่ที่ร่วมทริปไปด้วยนั้นเขารู้จักเขาก็เลยเล่าถึงบรรยากาศในสมัยก่อนให้ผมฟังและผมก็ลองคิดตามในเชิงจินตนาการตามว่าถ้าสมัยก่อนเป็นอย่างที่พี่ว่าไปแล้ว แปลว่าเวลามันเปลี่ยนไปตามกาลเวลามากมายแต่นั้นแหละครับ กาลเวลา มักจะเปลี่ยนแปลงไปทุกสิ่ง...ถึงแม้กระทั่งประวัติศาสตร์ของสถานที่ตรงนั้นด้วย เอาแหละครับ ย่านตลาดวังหลังตรงศิริราช มีอะไรล่ะ...ทำไมผมถึงพูดถึงหนักหนา...คำตอบส่วนตัวของผมเลยก็คือ หอยทอด อีก 1 เมนูสุดโปรดส่วนตัวเฉพาะผมเลย งานนี้ผมก็เลยถามพี่ที่ร่วมทริปด้วยว่า “แถวนี้มีอาหารอะไรที่น่าอร่อยไหม ?” และคำตอบที่ได้ก็คือ.....พี่ก็ไม่รู้ว่ะน้อง...ผมก็เลยนึกถึงท่อนเพลงขึ้นได้เลยว่า อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่เคยพูดไว้นิว่า แต่นั้นแหละครับ ผมก็แอบคิดและแซวเล่นแกไปนะครับ อย่าโกรธผมนะพี่ อิอิ พอๆ กลับมาเล่าต่อ...และนี่คือ เมนูที่ผมพูดถึงนะครับ
มาถึงเมนูนี่...ใครจะเชื่อล่ะว่าแค่ 80 หรือ 90 บาทเนี่ยแหละผมก็จำราคาที่แน่นอนไม่ได้นะครับ แต่เอาเป็นว่าไม่เกิน 100 บาทอย่างแน่นอน พอหลังจากทาน หอยทอด เสร็จแล้วผมกับพี่ที่ร่วมทริปไม่รู้นึกยังไงอยากไปวัดระฆังปิดท้ายก็ไปกัน...แต่ก็เอาแล้วครับ พอเดินทางไปโดยอาศัยวินมอเตอร์ไซต์ไปวัดระฆังกัน...คราวนี้เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากครับ กินอิ่ม แล้วมาทำบุญต่อปิดท้าย และก็นั่นแหละครับ สุดท้ายนี่ผมก็ขอปิดเรื่องนี้ด้วยภาพที่ท่าน้ำวัดระฆังก็แล้วกันนะครับ ผมสัญญาก็แล้วกันครับว่าคราวหน้าผมจะเล่าให้ดีกว่านี้อย่างแน่นอนครับ
**สุดท้ายผมขอขอบคุณทุกผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ ใครมีสถานที่อะไรดีๆ ก็มาคอมเม้นท์แลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ถือว่าทุกใจคอคนชอบเที่ยวเหมือนกันครับ**
Icemanny นักเล่าเรื่องจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง