สวัสดีครับ....เรื่องราวของผมมันอาจฟังดูแปลกหรือมีบางครั้งที่เล่นกับความรู้สึกผู้อ่านมั้ง แต่เรื่องราวเหล่านี้ ล้วนเป็นความจริงครับ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ผมชื่อที ครับ(เป็นชื่อย่อ)...กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ กรุงเทพ กำลังจะจบเเละเป็นเทอม์สุดท้ายเเล้วเเต่เรื่องราวนั้นมันเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีที่เเล้ว ที่ผมบังเอิญได้เล่น ไอจี (Instagram) ที่ช่วงนั้นกำลังฮิตๆ อยู่มาก ผมก็เล่นไปตามภาษาผู้ชายคนหนึ่งส่องสาวๆ ไปตามปกติ เล่นไปจนเจอโพสของรายการ VRZO เข้า...ผมก็เห็นว่ามันตลกดี เลยลองเข้าไปอ่านคอมเม้น เเละไปสะกิดกับคอมเม้นหนึ่งที่อ่านเเล้วตลกมาก จนต้องหัวเราะออกมาลั่นห้อง!!^0^'' ผมเลยตามภาษาครับ เข้าไปดูไอจีเขาดู เขาเป็นเด็กเรียน ม.ปลายตอนต้น หรือเรียกง่ายๆคือ ม.4 นั้นเอง เขาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอีก ซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังเเถวๆบางแค และมีขนาดใหญ่มาก ดูโอ่อ่าสวยงาม เเละเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี ที่ตอนนั้นผมกำลัง หาโรงเรียนดีดี ซักแห่งให้น้องชายเเท้ๆ ของผมเหมือนกัน เลยกดติดตามเขาไป เเละก็นั้นแหละครับ!! เรื่องราวมันเริ่มตรงนี้....ผมได้แอดเฟสบุค (Facebook) น้องเขาไปดู น้องเขาเป็นผู้ชาย ที่ดูจากรูปเเล้วเป็นเด็กที่ เฮฮา ร่าเริงตามอายุวัยนั้น ผมก็เริ่มแอดไปเเละกะจะคุยเรื่องโรงเรียน เกี่ยวกับค่าเทอม์ต่างๆ การเรียนการสอนที่นั้นก็เลยถือว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ด้วย วันแรก...ผมเริ่มทักไป...
"สวัสดีครับ...พี่ชื่อทีนะครับ น้องชื่ออะไรครับ?"เขาก็ตอบกลับมา
"สวัสดีครับ..ผมชื่อพีครับ (ชื่อย่อ) ยินดีที่ได้รูจักครับ" นั้นคือการสนทนาครั้งแรกของผมเเละน้องเขา
เราเริ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน ต่างๆนาๆ น้องเขาเป็นคนคุยสนุกมาก อัธยาศัยดี
เขาก็บอกให้ผมลองมาดูก่อน ว่าโรงเรียนเนี้ยมันอาจจะไม่ได้สวยเหมือนในรูปแน่นอนเขาก็แนะนำผมดีนะครับให้ผมไปดูสถานที่จริงดีกว่า ผมเลยตอบตกลงไปว่าจะไปดูโรงเรียน...ผมก็เลยจัดเวลาที่ผมสะดวกที่สุด....เมื่อผมจัดเวลาได้ผมก็ไปตั้งแต่บ่ายๆถึงโรงเรียนประมาณใกล้เลิกพอดีน้องเขาจะได้สะดวกด้วย เราเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียน ผมเข้าไปครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่า ที่นี้แหละเหมาะที่สุดเเล้ว เขาก็เข้ามาแนะนำตัวเอง เเละกำลังจะไปว่ายน้ำ หลังจากที่เขาแนะนำพาผมดูโรงเรียนเสร็จเเล้วเขาก็ไปว่ายน้ำ เเละระหว่างนั้นผมก็รอน้องเขาและคิดว่าจะทำอะไรตอบเเทนน้องเขาดี..อะไรก็ได้เล็กๆน้อยๆ เท่าที่ผมตอนนั้นพอจะทำได้และพ่อเเม่ของเขาก็มารับ กลับกันผมกลายเป็นฝ่ายที่ตกใจมากกว่าที่ เขาชวนผมไปกินมื้อค่ำด้วยกับครอบครัว เพราะผมไม่เคยโดนชวนมาก่อน และเขาแนะนำผมให้พ่อกับแม่เขารู้จักหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จเเล้วทุกคนก็พากันขึ้นรถไปกินที่ห้างซีคอน ร้านพิซ่า เราก็คุยกันเฮฮาดี ผมก็แนะนำว่าผมเรียนอะไร เคยเรียนอะไรตอนไปอยู่ต่างประเทศหลังจากนั้น แม่ของเขาก็บอกมาว่า น้องเขาเป็นคนกินเผ็ดไม่เป็นเท่าไร ผมก็ขำออกมาเล็กน้อย แถมแซวๆไปตามภาษาคนเพิ่งรู้จักกัน...อิอิ^^ ในระหว่างนั้นผมก็ลุกไปคุยกับ พนักงานแบบแอบๆคุยว่า เดียวเอา ใบเสร็จค่าอาหาร ไปให้ผมที่ด้านหลังของอีกฝากหนึ่งของร้าน เพราะผมอยากจะจ่ายค่าอาหารเอง เเละผมก็เกรงใจที่เขาถ้าเขาจะต้องจ่ายค่าอาหารให้ผม เเละเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจครั้งแรกด้วยผมเลยตัดสินใจจ่ายด้วยบัตรเครดิดของผมเอง เเละพอกินเสร็จ....ก็ตามภาษาผู้ใหญ่ละครับ ที่จะเรียกพนักงานมาคิดเงินค่าอาหาร แต่ผมก็พูดแทรกขึ้นมาว่า ผมจัดการเรียบร้อยเเล้วครับไม่ต้องห่วง เขาก็ตกใจเเละบอกว่า "ไม่ได้ๆๆ...เขาจ่ายเอง" ผมก็บอกว่า "ไม่เป็นไรครับ..ไว้ครั้งหน้าก็ได้ครับ" คุณเเม่เขาก็ยิ้มๆ เเละตอบตกลงมา เรื่องราวๆก็ นำเนินไปด้วยดีเหมือนกับเทพนิยาย เพราะผมไม่เคยได้เห็นครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้มานานเเล้ว.....อ้อ!! ผมลืมบอกไปเลย ฮ่าๆๆๆ ผมไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ผมยังเด็ก เเละอยู่ที่หอพักของโรงเรียน ผมเลยไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ของผมเองตั้งเเต่เล็กๆ เเละหลังจากที่ผมได้ทราบข่าวว่า พ่อและแม่ผมเขาได้หย่ากันเรียบร้อยเเล้วตอนผมเรียนจบ ผมก็ใจสลายไปพักใหญ่.........เนื่องด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่เขา นานับประการทำให้เขาอยู่กันไม่ยืด นั้นเลยทำให้ผมชอบครอบครัวของน้องพีมากถึงมากที่สุดครับ เพราะมันเหมือนมาเติมเต็มช่องว่างที่ผมไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน.....โอเคพอก่อนไม่ย้อนอดีตละ กลับมาหลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เขาก็มาส่งผมที่ BTS บางหว้า เราก็ลากันผมก็ไหว้ พ่อแม่ของน้องพี เเละขอบคุณพวกเขามาก สำหรับวันนี้......เรื่องราวของผมก็นำเนินไปด้วยดีไม่มีอะไร เเละผมก็ตั้งใจเรียน จนได้ทุนจากมหาลัยที่ผมเรียนอยู่ไปเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ระยะเวลาประมาณ สี่ถึงห้า เดือน หรือประมาณหนึ่งเทอม์ เเต่ก่อนหน้านั้นระยะหนึ่ง ทางครอบครัวของผมเขาก็บอกว่าไม่สามารถ ส่งน้องชายผมมาอยู่ที่ กรุงเทพได้ เพราะเหตุผลบางประการ ผมเลยต้องตัดใจเรื่องหาโรงเรียน เรื่องนั้นไป และระหว่างที่ผมเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ผมก็ยังติดต่อกับน้องพีตลอด น้องเขาก็โทรมาบ้าง ปรึกษาเรื่องเรียน เรื่องจิปาถะ บางครั้งเราคุยกันเป็น ชั่วโมงผมก็ช่วยเเนะนำ เรื่องต่างๆทั้งเรื่องการนำเนินชีวิต การวางแผน ว่าเราควรทำยังไง เมื่อเจอกับปัญหาต่างๆ ช่วยเหลือน้องเขาให้ผ่านมันไปได้ ทำให้ผมภูมิใจ ในตัวน้องพีมากขึ้น เเละเขาก็เริ่มได้รับรางวัลต่างๆ จากกิจกรรม เเละกีฬาที่เขาชอบ...วันหนึ่ง ผมเลยตัดสินใจขอน้องพีว่า..."พีครับ...พี่ขอเป็นพี่ชายน้องน้องได้มั้ยครับ?" เขาก็ตอบ "ตกลงครับ" ผมดีใจเเละมีความสุขมากในขณะนั้น ที่ผมสามารถทำให้ใครหนึ่งคน นั้นภูมิใจและเชื่อใจในตัวผมได้เป็นดั่งพี่น้องที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เเละนั้นคือสิ่งที่ผมมองหามาโดยตลอดเพราะเติมเต็มชีวิตผมได้มากเลยทีเดียว
ไว้มาต่อกัน....ตอนที่ 2 นะครับ
ขอบคุณทุกคนมากครับที่เข้ามาอ่าน
อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ...ขอบคุณครับ
ผมควรเลือก อย่างไรดีครับ กับความรักครั้งนี้? Ep1.
ผมชื่อที ครับ(เป็นชื่อย่อ)...กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ กรุงเทพ กำลังจะจบเเละเป็นเทอม์สุดท้ายเเล้วเเต่เรื่องราวนั้นมันเริ่มขึ้นเมื่อ 2 ปีที่เเล้ว ที่ผมบังเอิญได้เล่น ไอจี (Instagram) ที่ช่วงนั้นกำลังฮิตๆ อยู่มาก ผมก็เล่นไปตามภาษาผู้ชายคนหนึ่งส่องสาวๆ ไปตามปกติ เล่นไปจนเจอโพสของรายการ VRZO เข้า...ผมก็เห็นว่ามันตลกดี เลยลองเข้าไปอ่านคอมเม้น เเละไปสะกิดกับคอมเม้นหนึ่งที่อ่านเเล้วตลกมาก จนต้องหัวเราะออกมาลั่นห้อง!!^0^'' ผมเลยตามภาษาครับ เข้าไปดูไอจีเขาดู เขาเป็นเด็กเรียน ม.ปลายตอนต้น หรือเรียกง่ายๆคือ ม.4 นั้นเอง เขาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนอีก ซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังเเถวๆบางแค และมีขนาดใหญ่มาก ดูโอ่อ่าสวยงาม เเละเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี ที่ตอนนั้นผมกำลัง หาโรงเรียนดีดี ซักแห่งให้น้องชายเเท้ๆ ของผมเหมือนกัน เลยกดติดตามเขาไป เเละก็นั้นแหละครับ!! เรื่องราวมันเริ่มตรงนี้....ผมได้แอดเฟสบุค (Facebook) น้องเขาไปดู น้องเขาเป็นผู้ชาย ที่ดูจากรูปเเล้วเป็นเด็กที่ เฮฮา ร่าเริงตามอายุวัยนั้น ผมก็เริ่มแอดไปเเละกะจะคุยเรื่องโรงเรียน เกี่ยวกับค่าเทอม์ต่างๆ การเรียนการสอนที่นั้นก็เลยถือว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ด้วย วันแรก...ผมเริ่มทักไป...
"สวัสดีครับ...พี่ชื่อทีนะครับ น้องชื่ออะไรครับ?"เขาก็ตอบกลับมา
"สวัสดีครับ..ผมชื่อพีครับ (ชื่อย่อ) ยินดีที่ได้รูจักครับ" นั้นคือการสนทนาครั้งแรกของผมเเละน้องเขา
เราเริ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียน ต่างๆนาๆ น้องเขาเป็นคนคุยสนุกมาก อัธยาศัยดี
เขาก็บอกให้ผมลองมาดูก่อน ว่าโรงเรียนเนี้ยมันอาจจะไม่ได้สวยเหมือนในรูปแน่นอนเขาก็แนะนำผมดีนะครับให้ผมไปดูสถานที่จริงดีกว่า ผมเลยตอบตกลงไปว่าจะไปดูโรงเรียน...ผมก็เลยจัดเวลาที่ผมสะดวกที่สุด....เมื่อผมจัดเวลาได้ผมก็ไปตั้งแต่บ่ายๆถึงโรงเรียนประมาณใกล้เลิกพอดีน้องเขาจะได้สะดวกด้วย เราเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียน ผมเข้าไปครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่า ที่นี้แหละเหมาะที่สุดเเล้ว เขาก็เข้ามาแนะนำตัวเอง เเละกำลังจะไปว่ายน้ำ หลังจากที่เขาแนะนำพาผมดูโรงเรียนเสร็จเเล้วเขาก็ไปว่ายน้ำ เเละระหว่างนั้นผมก็รอน้องเขาและคิดว่าจะทำอะไรตอบเเทนน้องเขาดี..อะไรก็ได้เล็กๆน้อยๆ เท่าที่ผมตอนนั้นพอจะทำได้และพ่อเเม่ของเขาก็มารับ กลับกันผมกลายเป็นฝ่ายที่ตกใจมากกว่าที่ เขาชวนผมไปกินมื้อค่ำด้วยกับครอบครัว เพราะผมไม่เคยโดนชวนมาก่อน และเขาแนะนำผมให้พ่อกับแม่เขารู้จักหลังจากแนะนำตัวกันเสร็จเเล้วทุกคนก็พากันขึ้นรถไปกินที่ห้างซีคอน ร้านพิซ่า เราก็คุยกันเฮฮาดี ผมก็แนะนำว่าผมเรียนอะไร เคยเรียนอะไรตอนไปอยู่ต่างประเทศหลังจากนั้น แม่ของเขาก็บอกมาว่า น้องเขาเป็นคนกินเผ็ดไม่เป็นเท่าไร ผมก็ขำออกมาเล็กน้อย แถมแซวๆไปตามภาษาคนเพิ่งรู้จักกัน...อิอิ^^ ในระหว่างนั้นผมก็ลุกไปคุยกับ พนักงานแบบแอบๆคุยว่า เดียวเอา ใบเสร็จค่าอาหาร ไปให้ผมที่ด้านหลังของอีกฝากหนึ่งของร้าน เพราะผมอยากจะจ่ายค่าอาหารเอง เเละผมก็เกรงใจที่เขาถ้าเขาจะต้องจ่ายค่าอาหารให้ผม เเละเพื่อเป็นการสร้างความประทับใจครั้งแรกด้วยผมเลยตัดสินใจจ่ายด้วยบัตรเครดิดของผมเอง เเละพอกินเสร็จ....ก็ตามภาษาผู้ใหญ่ละครับ ที่จะเรียกพนักงานมาคิดเงินค่าอาหาร แต่ผมก็พูดแทรกขึ้นมาว่า ผมจัดการเรียบร้อยเเล้วครับไม่ต้องห่วง เขาก็ตกใจเเละบอกว่า "ไม่ได้ๆๆ...เขาจ่ายเอง" ผมก็บอกว่า "ไม่เป็นไรครับ..ไว้ครั้งหน้าก็ได้ครับ" คุณเเม่เขาก็ยิ้มๆ เเละตอบตกลงมา เรื่องราวๆก็ นำเนินไปด้วยดีเหมือนกับเทพนิยาย เพราะผมไม่เคยได้เห็นครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้มานานเเล้ว.....อ้อ!! ผมลืมบอกไปเลย ฮ่าๆๆๆ ผมไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ผมยังเด็ก เเละอยู่ที่หอพักของโรงเรียน ผมเลยไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ของผมเองตั้งเเต่เล็กๆ เเละหลังจากที่ผมได้ทราบข่าวว่า พ่อและแม่ผมเขาได้หย่ากันเรียบร้อยเเล้วตอนผมเรียนจบ ผมก็ใจสลายไปพักใหญ่.........เนื่องด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่เขา นานับประการทำให้เขาอยู่กันไม่ยืด นั้นเลยทำให้ผมชอบครอบครัวของน้องพีมากถึงมากที่สุดครับ เพราะมันเหมือนมาเติมเต็มช่องว่างที่ผมไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน.....โอเคพอก่อนไม่ย้อนอดีตละ กลับมาหลังจากกินมื้อค่ำเสร็จ เขาก็มาส่งผมที่ BTS บางหว้า เราก็ลากันผมก็ไหว้ พ่อแม่ของน้องพี เเละขอบคุณพวกเขามาก สำหรับวันนี้......เรื่องราวของผมก็นำเนินไปด้วยดีไม่มีอะไร เเละผมก็ตั้งใจเรียน จนได้ทุนจากมหาลัยที่ผมเรียนอยู่ไปเป็นนักเรียนเเลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ระยะเวลาประมาณ สี่ถึงห้า เดือน หรือประมาณหนึ่งเทอม์ เเต่ก่อนหน้านั้นระยะหนึ่ง ทางครอบครัวของผมเขาก็บอกว่าไม่สามารถ ส่งน้องชายผมมาอยู่ที่ กรุงเทพได้ เพราะเหตุผลบางประการ ผมเลยต้องตัดใจเรื่องหาโรงเรียน เรื่องนั้นไป และระหว่างที่ผมเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ผมก็ยังติดต่อกับน้องพีตลอด น้องเขาก็โทรมาบ้าง ปรึกษาเรื่องเรียน เรื่องจิปาถะ บางครั้งเราคุยกันเป็น ชั่วโมงผมก็ช่วยเเนะนำ เรื่องต่างๆทั้งเรื่องการนำเนินชีวิต การวางแผน ว่าเราควรทำยังไง เมื่อเจอกับปัญหาต่างๆ ช่วยเหลือน้องเขาให้ผ่านมันไปได้ ทำให้ผมภูมิใจ ในตัวน้องพีมากขึ้น เเละเขาก็เริ่มได้รับรางวัลต่างๆ จากกิจกรรม เเละกีฬาที่เขาชอบ...วันหนึ่ง ผมเลยตัดสินใจขอน้องพีว่า..."พีครับ...พี่ขอเป็นพี่ชายน้องน้องได้มั้ยครับ?" เขาก็ตอบ "ตกลงครับ" ผมดีใจเเละมีความสุขมากในขณะนั้น ที่ผมสามารถทำให้ใครหนึ่งคน นั้นภูมิใจและเชื่อใจในตัวผมได้เป็นดั่งพี่น้องที่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เเละนั้นคือสิ่งที่ผมมองหามาโดยตลอดเพราะเติมเต็มชีวิตผมได้มากเลยทีเดียว
ไว้มาต่อกัน....ตอนที่ 2 นะครับ
ขอบคุณทุกคนมากครับที่เข้ามาอ่าน
อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ...ขอบคุณครับ