สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 67
ก็คนไทยแบบคุณนั่นล่ะ ที่จะทำให้คนไทยคนหลังๆเจอชะตากรรมเลวร้ายลงไปอีก
1. Transit Area คือพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าไว้ให้คนที่รอต่อขึ้นเครื่องพักในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้นถ้าไฟลท์คุณห่างกันมาก คุณจะไม่มีสิทธิได้เข้าโซนนี้ คุณต้องผ่านตม.ขาเข้า เพื่อออกไปรอข้างนอกสนามบิน อันนี้เป็นกฎ ต้องเข้าใจด้วย
2. คุณบอกว่าจะรอ 14 ชม. ใน Transit Area คือมันไม่ปกติมากๆ คุณลองไปถามคนปกติดูก็ได้ ผมว่ามีไม่ถึง 1% ที่คิดอะไรบ้าๆ แบบนี้
3. ก็คุณเป็นคนบอกเองว่า คุณไม่ประสงค์จะเข้าเกาหลี มาแค่ต่อเครื่อง ดังนั้น เค้าจึงไม่ให้คุณผ่านเข้าไป เพราะถ้าแค่ต่อเครื่องคุณอยู่ในโซน ตม. ก็ได้ครับ เพราะตรงนี้มันเชื่อมกับ Gate ขาออกเลย
เพราะถ้าคุณผ่านเข้าไปมันเสี่ยงต่อการที่คุณจะหนีเข้าเมืองได้ ตม.เค้าไม่เอาหน้าที่การงานเค้ามาเสี่ยงกับคุณหรอกครับ ถ้าคุณหนีเข้าเมืองจริงคนซวยคือ ตม.
อีกอย่างคุณไม่มีหลักฐานอะไรที่น่าเชื่อถือได้เลยว่า ถ้าปล่อยคุณเข้าไปแล้ว อีก 14 ชม. คุณจะมาขึ้นเครื่องจริง เพราะลำพังแค่ตั๋วเครื่องบิน เกาหลี-ญี่ปุ่น อันนี้มันถูกมากๆเลย ถ้าคนจะหนีเข้าเมืองมันคุ้มค่ามากที่จะทิ้งตั๋วนี้ เพราะหนีเข้าไปได้ทำงานแค่ไม่กี่วันก็ได้เงืนคืนแล้ว
4. สิ่งที่คุณขอ คือ ให้ตม.ไปเอาตั๋วกับกระเป๋าให้แล้วไปส่งคุณที่ Transit มันไม่มีทางเป็นไปได้ และมันไม่ใช่เรื่องที่จะขอ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่เค้า เว้นแต่เค้าเป็นญาติคุณเป็นพ่อแม่คุณ เค้าคงจะทำให้
หน้าที่ตม. ที่ทำได้คือติดต่อสายการบิน ให้พาคุณไปขึ้นเครื่อง ตามเวลา boarding pass เท่านั้น อันนี้เป็นกฎระเบียบเค้า คุณต้องเข้าใจ
5. เอกสารที่เค้าให้คุณเซ็นต์คือ รับทราบการปฏิเสธการอนุญาตให้เข้าเมือง เพราะตามกฎหมาย คุณอยู่ในขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ถ้าคุณไม่เซ็นต์ยอมรับ คุณไม่มีสิทธิไปไหนทั้งนั้น จะต้องติดอยู่ตรง ตม. นั่นล่ะ เพราะเค้าไม่ให้คุณเข้า และคุณก็ออกไปไหนไม่ได้ถ้าคุณไม่เซ็นต์
และทันทีที่คุณเซ็นต์ สถานะของคุณคือ บุคคลที่ต้องถูกผลักดันออกนอกประเทศ ไม่ใช่ผู้โดยสารปกติ ดังนั้นคุณไม่มีอิสระที่จะไปไหนได้อีก เว้นแต่ให้ จนท.สายการบินมารับคุณไปส่งโดยตรงที่เครื่องเลยเท่านั้น
6. อันนี้สำคัญมาก สิ่งที่คุณทำ และจะทำให้คนไทยในภายภาคหน้าซวยไปด้วย คือ การที่คุณเลือกจะกลับเมืองไทย มากกว่าที่จะไปญี่ปุ่นตามโปรแกรมที่คุณบอก
เพราะการที่คุณตัดสินใจอย่างนี้ มันยิ่งได้ข้อสรุปชัดเจนเลยว่า คุณตั้งใจจะหลบหนีเข้าเกาหลี
ตม.เกาหลี เค้าคง Black list คุณไปแล้ว
และไม่แน่ต่อไป ตม. เกาหลี อาจจะเข้มงวดกับคนไทยที่ไป transit ที่เกาหลี มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเค้าคงยกเคสคุณเป็นกรณีตัวอย่าง ว่าเดี๋ยวนี้พวกหลบหนีเข้าเมืองมีลูกเล่นใหม่แบบนี้ด้วย
1. Transit Area คือพื้นที่เล็กๆ ที่เค้าไว้ให้คนที่รอต่อขึ้นเครื่องพักในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้นถ้าไฟลท์คุณห่างกันมาก คุณจะไม่มีสิทธิได้เข้าโซนนี้ คุณต้องผ่านตม.ขาเข้า เพื่อออกไปรอข้างนอกสนามบิน อันนี้เป็นกฎ ต้องเข้าใจด้วย
2. คุณบอกว่าจะรอ 14 ชม. ใน Transit Area คือมันไม่ปกติมากๆ คุณลองไปถามคนปกติดูก็ได้ ผมว่ามีไม่ถึง 1% ที่คิดอะไรบ้าๆ แบบนี้
3. ก็คุณเป็นคนบอกเองว่า คุณไม่ประสงค์จะเข้าเกาหลี มาแค่ต่อเครื่อง ดังนั้น เค้าจึงไม่ให้คุณผ่านเข้าไป เพราะถ้าแค่ต่อเครื่องคุณอยู่ในโซน ตม. ก็ได้ครับ เพราะตรงนี้มันเชื่อมกับ Gate ขาออกเลย
เพราะถ้าคุณผ่านเข้าไปมันเสี่ยงต่อการที่คุณจะหนีเข้าเมืองได้ ตม.เค้าไม่เอาหน้าที่การงานเค้ามาเสี่ยงกับคุณหรอกครับ ถ้าคุณหนีเข้าเมืองจริงคนซวยคือ ตม.
อีกอย่างคุณไม่มีหลักฐานอะไรที่น่าเชื่อถือได้เลยว่า ถ้าปล่อยคุณเข้าไปแล้ว อีก 14 ชม. คุณจะมาขึ้นเครื่องจริง เพราะลำพังแค่ตั๋วเครื่องบิน เกาหลี-ญี่ปุ่น อันนี้มันถูกมากๆเลย ถ้าคนจะหนีเข้าเมืองมันคุ้มค่ามากที่จะทิ้งตั๋วนี้ เพราะหนีเข้าไปได้ทำงานแค่ไม่กี่วันก็ได้เงืนคืนแล้ว
4. สิ่งที่คุณขอ คือ ให้ตม.ไปเอาตั๋วกับกระเป๋าให้แล้วไปส่งคุณที่ Transit มันไม่มีทางเป็นไปได้ และมันไม่ใช่เรื่องที่จะขอ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่เค้า เว้นแต่เค้าเป็นญาติคุณเป็นพ่อแม่คุณ เค้าคงจะทำให้
หน้าที่ตม. ที่ทำได้คือติดต่อสายการบิน ให้พาคุณไปขึ้นเครื่อง ตามเวลา boarding pass เท่านั้น อันนี้เป็นกฎระเบียบเค้า คุณต้องเข้าใจ
5. เอกสารที่เค้าให้คุณเซ็นต์คือ รับทราบการปฏิเสธการอนุญาตให้เข้าเมือง เพราะตามกฎหมาย คุณอยู่ในขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ถ้าคุณไม่เซ็นต์ยอมรับ คุณไม่มีสิทธิไปไหนทั้งนั้น จะต้องติดอยู่ตรง ตม. นั่นล่ะ เพราะเค้าไม่ให้คุณเข้า และคุณก็ออกไปไหนไม่ได้ถ้าคุณไม่เซ็นต์
และทันทีที่คุณเซ็นต์ สถานะของคุณคือ บุคคลที่ต้องถูกผลักดันออกนอกประเทศ ไม่ใช่ผู้โดยสารปกติ ดังนั้นคุณไม่มีอิสระที่จะไปไหนได้อีก เว้นแต่ให้ จนท.สายการบินมารับคุณไปส่งโดยตรงที่เครื่องเลยเท่านั้น
6. อันนี้สำคัญมาก สิ่งที่คุณทำ และจะทำให้คนไทยในภายภาคหน้าซวยไปด้วย คือ การที่คุณเลือกจะกลับเมืองไทย มากกว่าที่จะไปญี่ปุ่นตามโปรแกรมที่คุณบอก
เพราะการที่คุณตัดสินใจอย่างนี้ มันยิ่งได้ข้อสรุปชัดเจนเลยว่า คุณตั้งใจจะหลบหนีเข้าเกาหลี
ตม.เกาหลี เค้าคง Black list คุณไปแล้ว
และไม่แน่ต่อไป ตม. เกาหลี อาจจะเข้มงวดกับคนไทยที่ไป transit ที่เกาหลี มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเค้าคงยกเคสคุณเป็นกรณีตัวอย่าง ว่าเดี๋ยวนี้พวกหลบหนีเข้าเมืองมีลูกเล่นใหม่แบบนี้ด้วย
ความคิดเห็นที่ 86
สรุปได้ว่า ก่อนบิน
1. เจ้าของกระทู้และเพื่อนรวม 7 คนจองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงฟุกุโอกะ (ญี่ปุ่น)
2. ไฟลท์ที่จองต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่อินชอน (เกาหลีใต้) รอ 20 ชั่วโมง
3. ตามไฟล์ที่จองจะถึงอินชอนเวลา 17:10 ขึ้นเครื่องอีกที อีกวันนึงตอน 13:10 แล้วเดินทาง 1:20 ชั่วโมงถึงฟุกุโอกะ
4. เคาท์เตอร์เช็คอินที่สุวรรณภูมิบอกว่าต้องผ่าน ตม. เกาหลีออกมาก่อน เนื่องจากเวลารอขึ้นเครื่องเกิน 14 ชั่วโมง เป็นไปตามกฎ
5. ทุกคนเพิ่งทำพาสปอร์ตใหม่ ขาวทั้งเล่ม
(บินไปถึงเกาหลี)
6. 17:30 7 คนมีคนผ่านตม.เกาหลีได้คนเดียวเป็นผู้หญิง อีก 6 คนไม่ผ่าน ถูกนำมาสัมภาษณ์
7. 20:00 เจ้าหน้าที่ติดต่อกับสายการบิน
8. 21:30 จขกท. บอกว่าโดนหลอกให้เซ็นยินยอม เพื่อนที่จะเข้าไปทรานสิท แต่จริงๆ ถูกนำไปกักตัว
9. 09:00 ได้กินแฮมเบอร์เกอร์กับน้ำผลไม้ (ผ่านมา 11:30 ชั่วโมง)
10. 10:00 เจ้าหน้าที่มาถามว่า จะไปญี่ปุ่นไหม แต่จขกท.ไม่ไป อยากกลับบ้าน (จขกท.บอกว่ากินไปได้สักพัก ตีเกินๆ ให้) ก็เลยถูกส่งกลับไทย
บอกก่อนว่าถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นนี่ น่าสงสารมากค่ะ พาสปอร์ตขาวทุกคนอาจจะไม่มีประสบการณ์การเดินทางต่างประเทศ และอาจจะศึกษามาน้อยเกินไป
=========================================================
ทีนี้เรามาลองดูกันว่าอะไรที่ทำให้ตม.เกาหลีต้องกักตัวเจ้าของกระทู้ และเพื่อนกัน มองในมุมมองของตม.นะคะ
1. ทำไมรอเครื่องนานมาก 20 ชั่วโมง ?
ฝั่งเจ้าของกระทู้ก็อาจจะคิดว่าที่จองเพราะมันถูก แต่ถ้าคิดอีกนิดคือ เป็นช่วงเวลาที่สามารถออกไปเที่ยวในเกาหลีได้ เพราะเครื่องลง 17:10 บินอีกที 13:10 รอแบบนี้ตาม "กฎ" แล้วต้องผ่านตม. ออกมารับกระเป่าออกมาก่อน = ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองประเทศเกาหลีใต้
2. ถ้าไม่ออกไปเที่ยว ก็มีโรงแรม และที่ในสนามบินให้นอน ทำไมไม่จองหรือหาข้อมูลมา ?
สามารถจองก่อนมาได้ (จองตอนอยู่สนามบินสุวรรณภูมิก็ทัน) หรือถ้าค้นคว้าหามาแล้วปรินท์หรือแจ้งตม.ว่าจะไปพักที่ไหนช่วงกลางคืน แต่เจ้าของกระทู้อาจจะอยากประหยัดมากๆ นอนเล่นในสนามบินได้กับเพื่อน แต่ฝั่งตม.เค้าไม่สามารถมาเฝ้าได้ตลอดจนเช็คอินอีกรอบเค้าเลยให้ไปอยู่ในห้องกักตัว ซึ่งก็รอในสนามบินเหมือนกับอยู่ด้านนอก
3. แผนการเที่ยวญี่ปุ่น มี และได้แสดงให้ตม.เกาหลีดูหรือไม่ ?
ถ้าเจ้าของกระทู้และเพื่อนไม่มีประสบการณ์การเที่ยวมาก่อน แล้วมาเป็นกลุ่มแบบนี้ก็ต้องมีใครสักคนในกลุ่มเป็นคนนำ ซึ่งเป็นคนที่เตรียมตัวมามากๆ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีแผนการเที่ยวคร่าวๆ ใบจองที่พักที่ญี่ปุ่น ข้อนี้เจ้าของกระทู้ยังไม่ตอบคนที่เข้ามาถามในนี้ 2-3 ท่าน
4. ทำไมถึงอยากกลับไทย ?
ทั้งที่บอกว่ามาเกาหลีแค่ต้องการมาทรานสิท เดินเล่นในสนามบินรอ 20 ชั่วโมง เทียบกับการให้อยู่ในห้องกักตัว 12 ชั่วโมงก็เหมือนให้มานอนพัก (แม้ว่าสภาพจะแย่มากก็เถอะ) ยังมีเวลาอีก 4 ชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก ทำไมถึงไม่อยากไปญี่ปุ่นต่อ???? พอเจ้าของกระทู้บอกว่าไม่ไปแล้ว ตม.ก็ส่งกลับ
เราคิดว่า ข้อ 4 เป็นสิ่งที่น่าสงสัยมาก และเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ตม.เกาหลีใต้ส่งเจ้าของกระทู้และเพื่อนกลับค่ะ ในเมื่อเจ้าของกระทู้ยืนยันว่าจุดประสงค์คือจะไปญ่ปุ่น พร้อมใจรอเครื่องในสนามบินอินชอน 20 ชั่วโมงแล้ว การที่รอเท่าเดิม แม้ว่าสภาพที่รอช่วงกลางคืน 12 ชั่วโมงไม่ดี การสื่อสารกับตม.เกาหลีไม่ดี แต่สุดท้ายก็จะได้ขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นตามกำหนดอยู่ดี ซึ่งไม่ได้รอว้าเหว่อยู่คนเดียว แต่รอกับเพื่อนรวมแล้ว 6 คน ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ยอมทิ้งทริปญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะแพลนการเที่ยวมาจนจบทริป และจองโรงแรมไปเรียบร้อยแล้ว ที่ตม.ถามว่าจะไปไหม ถ้าจขกท.บอกว่าไป แล้วบินไปญี่ปุ่น ก็ไม่มี cost อะไรเสียจากที่นี่เลย ยกเว้นเสียใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ (ซึ่งเขาทำตามกฎ)
1. เจ้าของกระทู้และเพื่อนรวม 7 คนจองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงฟุกุโอกะ (ญี่ปุ่น)
2. ไฟลท์ที่จองต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่อินชอน (เกาหลีใต้) รอ 20 ชั่วโมง
3. ตามไฟล์ที่จองจะถึงอินชอนเวลา 17:10 ขึ้นเครื่องอีกที อีกวันนึงตอน 13:10 แล้วเดินทาง 1:20 ชั่วโมงถึงฟุกุโอกะ
4. เคาท์เตอร์เช็คอินที่สุวรรณภูมิบอกว่าต้องผ่าน ตม. เกาหลีออกมาก่อน เนื่องจากเวลารอขึ้นเครื่องเกิน 14 ชั่วโมง เป็นไปตามกฎ
5. ทุกคนเพิ่งทำพาสปอร์ตใหม่ ขาวทั้งเล่ม
(บินไปถึงเกาหลี)
6. 17:30 7 คนมีคนผ่านตม.เกาหลีได้คนเดียวเป็นผู้หญิง อีก 6 คนไม่ผ่าน ถูกนำมาสัมภาษณ์
7. 20:00 เจ้าหน้าที่ติดต่อกับสายการบิน
8. 21:30 จขกท. บอกว่าโดนหลอกให้เซ็นยินยอม เพื่อนที่จะเข้าไปทรานสิท แต่จริงๆ ถูกนำไปกักตัว
9. 09:00 ได้กินแฮมเบอร์เกอร์กับน้ำผลไม้ (ผ่านมา 11:30 ชั่วโมง)
10. 10:00 เจ้าหน้าที่มาถามว่า จะไปญี่ปุ่นไหม แต่จขกท.ไม่ไป อยากกลับบ้าน (จขกท.บอกว่ากินไปได้สักพัก ตีเกินๆ ให้) ก็เลยถูกส่งกลับไทย
บอกก่อนว่าถ้าเจ้าของกระทู้ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นนี่ น่าสงสารมากค่ะ พาสปอร์ตขาวทุกคนอาจจะไม่มีประสบการณ์การเดินทางต่างประเทศ และอาจจะศึกษามาน้อยเกินไป
=========================================================
ทีนี้เรามาลองดูกันว่าอะไรที่ทำให้ตม.เกาหลีต้องกักตัวเจ้าของกระทู้ และเพื่อนกัน มองในมุมมองของตม.นะคะ
1. ทำไมรอเครื่องนานมาก 20 ชั่วโมง ?
ฝั่งเจ้าของกระทู้ก็อาจจะคิดว่าที่จองเพราะมันถูก แต่ถ้าคิดอีกนิดคือ เป็นช่วงเวลาที่สามารถออกไปเที่ยวในเกาหลีได้ เพราะเครื่องลง 17:10 บินอีกที 13:10 รอแบบนี้ตาม "กฎ" แล้วต้องผ่านตม. ออกมารับกระเป่าออกมาก่อน = ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองประเทศเกาหลีใต้
2. ถ้าไม่ออกไปเที่ยว ก็มีโรงแรม และที่ในสนามบินให้นอน ทำไมไม่จองหรือหาข้อมูลมา ?
สามารถจองก่อนมาได้ (จองตอนอยู่สนามบินสุวรรณภูมิก็ทัน) หรือถ้าค้นคว้าหามาแล้วปรินท์หรือแจ้งตม.ว่าจะไปพักที่ไหนช่วงกลางคืน แต่เจ้าของกระทู้อาจจะอยากประหยัดมากๆ นอนเล่นในสนามบินได้กับเพื่อน แต่ฝั่งตม.เค้าไม่สามารถมาเฝ้าได้ตลอดจนเช็คอินอีกรอบเค้าเลยให้ไปอยู่ในห้องกักตัว ซึ่งก็รอในสนามบินเหมือนกับอยู่ด้านนอก
3. แผนการเที่ยวญี่ปุ่น มี และได้แสดงให้ตม.เกาหลีดูหรือไม่ ?
ถ้าเจ้าของกระทู้และเพื่อนไม่มีประสบการณ์การเที่ยวมาก่อน แล้วมาเป็นกลุ่มแบบนี้ก็ต้องมีใครสักคนในกลุ่มเป็นคนนำ ซึ่งเป็นคนที่เตรียมตัวมามากๆ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีแผนการเที่ยวคร่าวๆ ใบจองที่พักที่ญี่ปุ่น ข้อนี้เจ้าของกระทู้ยังไม่ตอบคนที่เข้ามาถามในนี้ 2-3 ท่าน
4. ทำไมถึงอยากกลับไทย ?
ทั้งที่บอกว่ามาเกาหลีแค่ต้องการมาทรานสิท เดินเล่นในสนามบินรอ 20 ชั่วโมง เทียบกับการให้อยู่ในห้องกักตัว 12 ชั่วโมงก็เหมือนให้มานอนพัก (แม้ว่าสภาพจะแย่มากก็เถอะ) ยังมีเวลาอีก 4 ชั่วโมงกว่าเครื่องจะออก ทำไมถึงไม่อยากไปญี่ปุ่นต่อ???? พอเจ้าของกระทู้บอกว่าไม่ไปแล้ว ตม.ก็ส่งกลับ
เราคิดว่า ข้อ 4 เป็นสิ่งที่น่าสงสัยมาก และเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ตม.เกาหลีใต้ส่งเจ้าของกระทู้และเพื่อนกลับค่ะ ในเมื่อเจ้าของกระทู้ยืนยันว่าจุดประสงค์คือจะไปญ่ปุ่น พร้อมใจรอเครื่องในสนามบินอินชอน 20 ชั่วโมงแล้ว การที่รอเท่าเดิม แม้ว่าสภาพที่รอช่วงกลางคืน 12 ชั่วโมงไม่ดี การสื่อสารกับตม.เกาหลีไม่ดี แต่สุดท้ายก็จะได้ขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นตามกำหนดอยู่ดี ซึ่งไม่ได้รอว้าเหว่อยู่คนเดียว แต่รอกับเพื่อนรวมแล้ว 6 คน ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ยอมทิ้งทริปญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะแพลนการเที่ยวมาจนจบทริป และจองโรงแรมไปเรียบร้อยแล้ว ที่ตม.ถามว่าจะไปไหม ถ้าจขกท.บอกว่าไป แล้วบินไปญี่ปุ่น ก็ไม่มี cost อะไรเสียจากที่นี่เลย ยกเว้นเสียใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ (ซึ่งเขาทำตามกฎ)
ความคิดเห็นที่ 26
จขกท ใจเย็นๆก่อนนะคะ เข้าใจว่า กำลังโมโห แต่คุณก็ต้องเข้าใจ ตม เกาหลีเขาด้วยเหมือนกัน
การเดินทางแบบนี้ ง่ายๆก็คือ เดินทางเข้าประเทศเขาค่ะ ถึงคุณจะบอกว่า ไม่ได้มีเจตนาจะเที่ยวเกาหลีก็เหอะ แต่ ความเป็นจริงคือคุณเหยียบเข้าแผ่นดินเขา ก็ต้องยึดตามกฎระเบียบข้อบังคับของเขา อันนี้ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ เรียกว่าโชคร้ายเลยก็ว่าได้ ส่วนนึงก็เกิดจากคนไทยด้วยกันเองเนี่ยแหละ ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
คนไทยหนี เข้า เกาหลีกันเป็นว่าเล่น flight ของ จขกท อาจจะเป็น เทคนิคใหม่ๆ ที่พวกนี้เอามาใช้ เพื่อที่จะเป็นข้ออ้าง ว่าต้องเข้าประเทศไปเอากระเป๋าก่อนแล้วค่อย เช็คอินเข้ามาอีกที แต่ที่ไหนได้ พอได้กระเป๋า ก็หายไปเลย เขาก็เลย ระมัดระวังเพิ่ม คนจะหนี มันหาวิธีใหม่ๆตลอดเวลา
และมันก็มีอีกหลาย ประเด็นที่มันดูแปลก เลยทำให้ จนท สงสัยนะแหละค่ะ 1 ในนั้นคือ flight bangkok - fukuoka by Korea Air เนี่ย มีตัวเลือกให้เลือกเยอะมาก เริ่มที่ ใช้เวลาบิน+ทรานสิท ที่ 8,9,11,12,13,14,20,21,24 ชม และ ตัวเลือกสุดท้าย คือ 26 ชม (แต่ละวันไม่เหมือนกัน แต่ ก็มีตัวเลือกให้เลือกมากกว่า 4 แบบต่อวัน จากในเวบนะ) แต่ เอเจนซี่ จขกท กลับเลือก ตัวเลือกที่ต้อง รอพักเครื่องนาน ถึง 14 ชม++ โดยที่ จขกท ไม่มีความคิดจะเข้าประเทศเขา ถึงแม้คุณจะอ้างว่า เรื่องตั๋วเต็ม แต่ จนท เขาไม่ได้อยู่ตอนคุณจองใช่ไหมคะ เขาไม่มีทางรู้ว่า เรื่องที่คุณพูด มันจริง หรือ มัน make ขึ้นมาเพื่อให้ได้เข้าประเทศเขา แล้วโดยจริต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะเลือก flight ที่ใช้เวลา เดินทาง+ทรานซิท น้อยที่สุด เพื่อประหยัดเวลา ยกเว้น กรณีที่เลือกไม่ได้เช่นตั๋วเต็ม ส่วนใหญ่ ก็เลือกที่จะ เข้าประเทศนั้นๆ ไปพักผ่อน เปิดหูเปิดตาสัก วันสองวัน แต่เคส ของ จขกท และ เพื่อน คือ เลือกที่จะรอ .. เราคิดว่ามันเลยดูแปลกอ่ะคะ
แล้วยังมีเรื่องที่เพื่อนหลายคนในนี้ถามเรือ่งพาสปอร์ต , ประวัติการเดินทาง ฯลฯ คือพวกนี้ มันเป็นตัวช่วย ถึงโอกาส ในการเข้าประเทศของเขาค่ะ เขาถึงได้ถามกัน เพราะถ้า พาสไทย ขาวๆ ไม่เคยเดินทาง จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษอยู่แล้ว เรียกว่าโชคร้ายแล้วกันนะคะ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
จนท เขาไม่ได้ ดูถูกคนไทยค่ะ แต่คนไทยเองต่างหาก ที่สร้างเรื่องจนทำให้เขาดูถูก และ ญี่ปุ่น จะเป็นประเทศต่อไปที่อาจจะเจริญรอยตามเกาหลี เพราะหนีเข้าประเทศเขาเยอะมากจริงๆ
การเดินทางแบบนี้ ง่ายๆก็คือ เดินทางเข้าประเทศเขาค่ะ ถึงคุณจะบอกว่า ไม่ได้มีเจตนาจะเที่ยวเกาหลีก็เหอะ แต่ ความเป็นจริงคือคุณเหยียบเข้าแผ่นดินเขา ก็ต้องยึดตามกฎระเบียบข้อบังคับของเขา อันนี้ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ เรียกว่าโชคร้ายเลยก็ว่าได้ ส่วนนึงก็เกิดจากคนไทยด้วยกันเองเนี่ยแหละ ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
คนไทยหนี เข้า เกาหลีกันเป็นว่าเล่น flight ของ จขกท อาจจะเป็น เทคนิคใหม่ๆ ที่พวกนี้เอามาใช้ เพื่อที่จะเป็นข้ออ้าง ว่าต้องเข้าประเทศไปเอากระเป๋าก่อนแล้วค่อย เช็คอินเข้ามาอีกที แต่ที่ไหนได้ พอได้กระเป๋า ก็หายไปเลย เขาก็เลย ระมัดระวังเพิ่ม คนจะหนี มันหาวิธีใหม่ๆตลอดเวลา
และมันก็มีอีกหลาย ประเด็นที่มันดูแปลก เลยทำให้ จนท สงสัยนะแหละค่ะ 1 ในนั้นคือ flight bangkok - fukuoka by Korea Air เนี่ย มีตัวเลือกให้เลือกเยอะมาก เริ่มที่ ใช้เวลาบิน+ทรานสิท ที่ 8,9,11,12,13,14,20,21,24 ชม และ ตัวเลือกสุดท้าย คือ 26 ชม (แต่ละวันไม่เหมือนกัน แต่ ก็มีตัวเลือกให้เลือกมากกว่า 4 แบบต่อวัน จากในเวบนะ) แต่ เอเจนซี่ จขกท กลับเลือก ตัวเลือกที่ต้อง รอพักเครื่องนาน ถึง 14 ชม++ โดยที่ จขกท ไม่มีความคิดจะเข้าประเทศเขา ถึงแม้คุณจะอ้างว่า เรื่องตั๋วเต็ม แต่ จนท เขาไม่ได้อยู่ตอนคุณจองใช่ไหมคะ เขาไม่มีทางรู้ว่า เรื่องที่คุณพูด มันจริง หรือ มัน make ขึ้นมาเพื่อให้ได้เข้าประเทศเขา แล้วโดยจริต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ จะเลือก flight ที่ใช้เวลา เดินทาง+ทรานซิท น้อยที่สุด เพื่อประหยัดเวลา ยกเว้น กรณีที่เลือกไม่ได้เช่นตั๋วเต็ม ส่วนใหญ่ ก็เลือกที่จะ เข้าประเทศนั้นๆ ไปพักผ่อน เปิดหูเปิดตาสัก วันสองวัน แต่เคส ของ จขกท และ เพื่อน คือ เลือกที่จะรอ .. เราคิดว่ามันเลยดูแปลกอ่ะคะ
แล้วยังมีเรื่องที่เพื่อนหลายคนในนี้ถามเรือ่งพาสปอร์ต , ประวัติการเดินทาง ฯลฯ คือพวกนี้ มันเป็นตัวช่วย ถึงโอกาส ในการเข้าประเทศของเขาค่ะ เขาถึงได้ถามกัน เพราะถ้า พาสไทย ขาวๆ ไม่เคยเดินทาง จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษอยู่แล้ว เรียกว่าโชคร้ายแล้วกันนะคะ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
จนท เขาไม่ได้ ดูถูกคนไทยค่ะ แต่คนไทยเองต่างหาก ที่สร้างเรื่องจนทำให้เขาดูถูก และ ญี่ปุ่น จะเป็นประเทศต่อไปที่อาจจะเจริญรอยตามเกาหลี เพราะหนีเข้าประเทศเขาเยอะมากจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 47
ผมว่า immature ไป ดราม่าเวิ่นเว้อเกินเหตุ
โดน detain เพราะ transit เกิน 14 ชม ไม่แปลก เพราะมันเป็นกฏของเค้า เพราะคนไทยหนีเข้าเมืองเยอะ โดยเฉพาะผู้หญิงน่ะแหละ
เค้าก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ detain เฉยๆ แล้วจะไปร้องไห้เสียใจ ทำไมนะผมไม่เข้าใจ (คุยกันไม่เข้าใจเหรอ )
ทีหลังมีปัญหาอะไร ให้ขอพบเจ้าหน้าที่สถานฑูต ขอล่ามอะไรก็ว่าไป
แล้วพอเค้าปล่อยก็ร้องไห้งอแง ไม่ยอมไปต่ออีก เกาหลีมันคงงง อะไรวะ
คือ แสดงว่ายังไม่โตพอจะไปเที่ยวไกลๆ อยู่เมืองไทยก่อน โตกว่านี้ค่อยไปใหม่
ผมไปเกาหลีไม่เห็นมีปัญหา ตม.ถามมาทำอะไรก็ บอก business เก๊กสำเนียงหน่อย มันก็ให้ผ่าน ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ ขนาด passport ใหม่เอี่ยม
คนที่จะมีปัญหาคือ ผู้หญิงไทย เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่
โดน detain เพราะ transit เกิน 14 ชม ไม่แปลก เพราะมันเป็นกฏของเค้า เพราะคนไทยหนีเข้าเมืองเยอะ โดยเฉพาะผู้หญิงน่ะแหละ
เค้าก็ไม่ได้ทำอะไร แค่ detain เฉยๆ แล้วจะไปร้องไห้เสียใจ ทำไมนะผมไม่เข้าใจ (คุยกันไม่เข้าใจเหรอ )
ทีหลังมีปัญหาอะไร ให้ขอพบเจ้าหน้าที่สถานฑูต ขอล่ามอะไรก็ว่าไป
แล้วพอเค้าปล่อยก็ร้องไห้งอแง ไม่ยอมไปต่ออีก เกาหลีมันคงงง อะไรวะ
คือ แสดงว่ายังไม่โตพอจะไปเที่ยวไกลๆ อยู่เมืองไทยก่อน โตกว่านี้ค่อยไปใหม่
ผมไปเกาหลีไม่เห็นมีปัญหา ตม.ถามมาทำอะไรก็ บอก business เก๊กสำเนียงหน่อย มันก็ให้ผ่าน ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ ขนาด passport ใหม่เอี่ยม
คนที่จะมีปัญหาคือ ผู้หญิงไทย เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่
ความคิดเห็นที่ 139
อ่านหมดทุกคอมเมนท์
จับใจความได้ว่า ถ้า จขกท.ไม่ได้มีเจตนาจะหนีเข้า เกาหลีจริงๆ
ก็แปลว่า จขกท.และคณะ "ไม่มีความรู้" เรื่องการบินเลยแม้แต่นิดเดียว หรือขออนุญาตเรียกว่า "โง่และไม่เตรียมตัว"
เพราะขนาดมีคนมาอธิบายหลายคนมากๆ ว่าคุณไม่ใช่เคส ของการใช้สิทธิ์ในการทรานเฟอร์เครื่องได้ ณ ขณะนั้น คุณก็ยังจะตอบซ้ำๆ ว่าทำไม ต.เกาหลี ไม่ปล่อยคุณไปกินนอนรอทรานสิตเครื่อง
แค่นี้ก็บ่งบอกแล้วว่าคุณไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับตั๋วท่ตัวเองถือเลยซักนิด
แถมคุณยังเล่าแบบตีไข่ผสมว่าถูกักตัวเพื่อส่งกลับไทย
ทั้งที่เค้ากักคุณ เพื่อรอเวลาให้มันครบตามกำหนดเช็คอินไป ญี่ปุ่นต่างหาก
คุณโง่ แล้วคุณก็โทษ ตม.ครับ
จับใจความได้ว่า ถ้า จขกท.ไม่ได้มีเจตนาจะหนีเข้า เกาหลีจริงๆ
ก็แปลว่า จขกท.และคณะ "ไม่มีความรู้" เรื่องการบินเลยแม้แต่นิดเดียว หรือขออนุญาตเรียกว่า "โง่และไม่เตรียมตัว"
เพราะขนาดมีคนมาอธิบายหลายคนมากๆ ว่าคุณไม่ใช่เคส ของการใช้สิทธิ์ในการทรานเฟอร์เครื่องได้ ณ ขณะนั้น คุณก็ยังจะตอบซ้ำๆ ว่าทำไม ต.เกาหลี ไม่ปล่อยคุณไปกินนอนรอทรานสิตเครื่อง
แค่นี้ก็บ่งบอกแล้วว่าคุณไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับตั๋วท่ตัวเองถือเลยซักนิด
แถมคุณยังเล่าแบบตีไข่ผสมว่าถูกักตัวเพื่อส่งกลับไทย
ทั้งที่เค้ากักคุณ เพื่อรอเวลาให้มันครบตามกำหนดเช็คอินไป ญี่ปุ่นต่างหาก
คุณโง่ แล้วคุณก็โทษ ตม.ครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไม ตม.เกาหลีกับสายการบินKorea Air ถึงทำกับพวกเราแบบนี้หรือแค่ว่าเราเป็นคนไทย