"สำหรับงานละครเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเหนื่อยเพราะถ่ายกันทุกวัน ถ่ายติดต่อกันตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม
เรื่องนี้ก็จะมีอุปสรรคตรงที่เราต้องใช้ภาษาไทยโต้ตอบกับเกาหลี ก็เลยทำให้งงๆ นิดนึงในช่วงแรก
แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว เรื่องนี้พระเอกเขาจะแสดงเป็นคนไทย ตัวมายด์เองก็เล่นเป็นคนไทย
แต่เป็นเด็กที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า แล้วตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีแมวมองเห็นแววในตัวเรา
ก็เลยจับปั้นเข้าวงการ พอมีชื่อเสียง ทางบริษัทพระเอกซึ่งเป็นโมเดลลิ่งเขาก็มาดูแลเรา
พระเอกก็เลยได้มาดูแลเรา แต่ก็เหมือนเราชอบทำเรื่องให้เขามาตามแก้ปัญหา
พออยู่ไปอยู่มาก็เลยใกล้ชิดจนตกหลุมรักกัน"
ในส่วนของการทำงานก็สนุกสนาน
พระเอกเขาก็เป็นคนชอบแกล้ง
ช่างแต่งหน้าที่มากับเขาก็ชอบแกล้ง แกล้งทุกคน แล้วเขาก็ชอบเรียนรู้ภาษาไทย
ก็จะมาถามเราบ่อยๆ ว่าถ้าคำนี้ในประเทศไทยพูดว่าอะไร อย่างคำว่า
เร็วๆ เขาก็ถามว่าในภาษาไทยพูดว่าอะไร
เราก็บอกไป เขาก็ชอบพูดว่า เร็วๆ ซึ่งเขาก็ให้สอนคำนั้นคำนี้ อย่างเช่นคำว่า แล้วไง, แล้วแต่ อะไรแบบนี้
ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงต่างชาติ เราก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจที่ทางผู้ใหญ่ให้โอกาส
อยากทำให้มันออกมาดีที่สุดเพราะโอกาสมาถึงแล้ว ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าโอกาสจะมาหาเราอีกเมื่อไหร่
ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราได้มาเล่นเรื่องนี้
สำหรับการเล่นละครครั้งนี้ก็กดดันนิดหน่อยในช่วงแรกๆ แต่ตอนหลังเริ่มปรับตัวได้ โอเคขึ้น
พระเอกเขาก็เฟรนด์ลี่มาก แล้วเขาก็เล่นเก่งมาก ซึ่งเราก็มีคุยกับเขาเรื่องการทำงานของประเทศเกาหลี
เขาก็เล่าให้ฟังว่าในส่วนของการทำงานของทีมงานเกาหลีกับไทยก็ไม่ต่างกันเลย
ทางฝั่งนั้นจะถ่ายหนักกว่าด้วยซ้ำ ถ่ายยันเช้า ไม่ได้พักเลยก็มี
ภาพจาก Jungilwoo Thailand กับ True Lakorn
มาย เม้า อิลอู อปป้าคือพระเอกสายแกล้ง!
"สำหรับงานละครเรื่องนี้ก็ค่อนข้างเหนื่อยเพราะถ่ายกันทุกวัน ถ่ายติดต่อกันตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม
เรื่องนี้ก็จะมีอุปสรรคตรงที่เราต้องใช้ภาษาไทยโต้ตอบกับเกาหลี ก็เลยทำให้งงๆ นิดนึงในช่วงแรก
แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว เรื่องนี้พระเอกเขาจะแสดงเป็นคนไทย ตัวมายด์เองก็เล่นเป็นคนไทย
แต่เป็นเด็กที่มาจากบ้านเด็กกำพร้า แล้วตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีแมวมองเห็นแววในตัวเรา
ก็เลยจับปั้นเข้าวงการ พอมีชื่อเสียง ทางบริษัทพระเอกซึ่งเป็นโมเดลลิ่งเขาก็มาดูแลเรา
พระเอกก็เลยได้มาดูแลเรา แต่ก็เหมือนเราชอบทำเรื่องให้เขามาตามแก้ปัญหา
พออยู่ไปอยู่มาก็เลยใกล้ชิดจนตกหลุมรักกัน"
ในส่วนของการทำงานก็สนุกสนาน พระเอกเขาก็เป็นคนชอบแกล้ง
ช่างแต่งหน้าที่มากับเขาก็ชอบแกล้ง แกล้งทุกคน แล้วเขาก็ชอบเรียนรู้ภาษาไทย
ก็จะมาถามเราบ่อยๆ ว่าถ้าคำนี้ในประเทศไทยพูดว่าอะไร อย่างคำว่า เร็วๆ เขาก็ถามว่าในภาษาไทยพูดว่าอะไร
เราก็บอกไป เขาก็ชอบพูดว่า เร็วๆ ซึ่งเขาก็ให้สอนคำนั้นคำนี้ อย่างเช่นคำว่า แล้วไง, แล้วแต่ อะไรแบบนี้
ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงต่างชาติ เราก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจที่ทางผู้ใหญ่ให้โอกาส
อยากทำให้มันออกมาดีที่สุดเพราะโอกาสมาถึงแล้ว ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าโอกาสจะมาหาเราอีกเมื่อไหร่
ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราได้มาเล่นเรื่องนี้
สำหรับการเล่นละครครั้งนี้ก็กดดันนิดหน่อยในช่วงแรกๆ แต่ตอนหลังเริ่มปรับตัวได้ โอเคขึ้น
พระเอกเขาก็เฟรนด์ลี่มาก แล้วเขาก็เล่นเก่งมาก ซึ่งเราก็มีคุยกับเขาเรื่องการทำงานของประเทศเกาหลี
เขาก็เล่าให้ฟังว่าในส่วนของการทำงานของทีมงานเกาหลีกับไทยก็ไม่ต่างกันเลย
ทางฝั่งนั้นจะถ่ายหนักกว่าด้วยซ้ำ ถ่ายยันเช้า ไม่ได้พักเลยก็มี
ภาพจาก Jungilwoo Thailand กับ True Lakorn