ผมว่าเพราะนาโอมิ แต่จริงๆ แล้วมีหลายสาเหตุ

1.เด็กไม่เก่ง โดยรวมๆ แล้วคนเก่งๆ ไปสมัคร Next Top Model หมด เลยไม่น่าเชียร์
2.โลกหมุนรอบตัวนาโอมิ แล้วนางเป็นเจ้าของรายการด้วย เลยเหวี่ยง วีน ทำอะไรตามใจได้ค่อนข้างเยอะ
3.ต้นฉบับ ค้นหานางแบบอย่างเดียว แคมเปญเลยไม่หลากหลาย ไม่มีคลาส Acting หรือแคมเปญ Acting เลย ยิ่งทำให้ดูด้อยลงไปอีก เมื่อเทียบกับ Next Top Model
4.ทุกอย่างสดหมด ไม่มีการบรีฟ หรือเอื้อให้เกิดความสูสีกันเกิดขึ้น
อย่าง The Face Thailand SS.2 จะเห็นได้ว่า บางแคมเปญ ทั้งกรรมการ คอสตูม ถูกจัดเอาไว้แล้วว่าประเคนให้ทีมนี้ชนะเต็มที่ เพื่อให้มีซีนบ้าง เกิดความสูสีบ้าง แต่เมืองนอกไม่ อ่อนแอก็แพ้ไป มันเลยไม่ได้ลุ้นอะไรเลย เช่นของ AUS ที่โดนคัดออกหมดทั้งทีม ตั้งแต่ EP กลางๆ
5.มันไม่บันเทิง มันเหมือนเรียลลิตี้เกินไป ดูการทำงานของวงการแฟชันจ๋า ที่เคเบิลช่องแฟชัน มันก็มีให้เห็นอยู่แล้ว

ของไทย มันถูก "วาง" จัดองค์ประกอบไว้เกือบหมดแล้ว มันกลายเป็นความบันเทิง
แม้แต่ตัวผู้เข้าแข่งขัน ก็มีการบรีฟกันคร่าวๆ แล้วว่าเมนทอร์คนไหน จะเลือกใคร แล้วทำมาเป็นไฝว์กันสร้างสีสัน
สังเกตุว่า ทุกทีม ต้องมีตัวจิ๊ด ตัวสวย ตัวสีสัน ตัวง่อย ซึ่งอะไรมันจะ "เป๊ะ" ขนาดนั้น

The Face Thailand สร้าง คาแรคเตอร์ให้ เมนทอร์และผู้แข่งขัน สร้างภาพลักษณ์ให้คนจดจำ ให้เชียร์
ทีมนางเอก ทีมนางร้าย ทีมป้าข้างบ้าน
ทุกสิ่งทุกอย่างมันถูกตัดต่อมาใช้ชมหมดแล้ว
คนนี้ฉลาดวางตัวดี คนนี้ปากจัด จิกแซะ คนนี้ฮาๆ บ้าๆ รั่วๆ

ของเมืองนอก ยิ่งลูกทีมเหลือน้อย ยิ่งสู้เค้าลำบาก เชียร์ไม่ขึ้น เพราะเมืองนอกเค้าเน้นทีมเวิร์ค
แต่ของไทย เกิดปรากฏการณ์ ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งน่ากลัว ทั้ง 2 SS มาแล้ว (SS.3 เดี๋ยวก็มีปรากฏการณ์นี้อีก)
เพราะคนเอเชีย เด่นเรื่องของความเป็น Individual ยิ่งคนน้อย ยิ่ง Shine ยิ่ง Energy เยอะ
ทีมญิ๋ง ทีมเวิร์คดีแค่ไหน ตีโจทย์แตกแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถสู้ รอยยิ้มของคาริสา กับเพนนีได้
ทีมลูกเกดรู้ความจริงข้อนี้ดี เลยพยายามไฝว์เพื่อเอาเจสซี่เข้าทีม และไฝว์เพื่อเอาจูลี่เข้าทีม