คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ผม จขกท ครับ มาจากอนาคตครับ อยากจะขออัพเดทอาการให้เพื่อนๆ ที่เสิร์ชมาเจอกระทู้นี้นะครับ
จากวันนั้น ผมก็ได้ค้นพบว่า อาการของผม น่าจะเกิดจากการใช้หูฟังเป็นเวลานานครับ โดยเมื่อผมได้งดการใช้หูฟังลง แล้วสังเกตุอาการหลังจากนั้นแบบรายวัน ปรากฎว่า อาการค่อยๆ ทุเลาลง ปัจจุบันนี้ยังมีอาการอยู่บ้าง แต่น้อยลงกว่าเดิมประมาณ 50% ครับ อาจเป็นเพราะผมยังใช้หูฟังอยู่ แต่น้อยลงกว่าเดิมมาก และผมได้เปลี่ยนหูฟังจากเดิมเป็นแบบเล็กๆ ที่ยัดเข้าไปในรูหู มาเป็นแบบครอบหัว แล้วให้ส่วนของลำโพงไม่มาจ่อที่หูโดยตรง น่าจะนึกภาพออกนะครับ คือให้ส่วนของลำโพงมาแนบบริเวณข้างหูที่ไม่ตรงกับรูหู
ซึ่งอาการที่หายไป 50% นี้ เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมแล้วครับ เพราะไม่รู้สึกเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ที่แต่ก่อนแม้ตอนล้างจานได้ยินเสียงช้อนกระทบจานก็จะรู้สึกกึกๆ ที่หูทันที แต่ปัจจุบันนี้แทบไม่มีความรู้สึกแบบนั้น อาจจะมีก็ตอนที่ไปนึกถึงมัน แต่ก็จะรู้สึกน้อยมากๆ ครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตแต่อย่างไร
สำหรับเพื่อนๆ ที่เกิดปัญหาคล้ายๆ กันนี้ อาจจะมีส่วนหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากหูฟังเหมือนผม เพราะผมได้ค้นไปเจอกระทู้หนึ่ง เค้าก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน คือ เกิดจากการใช้หูฟังติดต่อกันเป็นเวลานาน
แต่หากเพื่อนๆ ท่านใดที่ไม่ได้ใช้หูฟัง แต่ยังเกิดปัญหานี้ ก็ลองหาสาเหตุอื่นดูครับ อาจจะพบเจอก็ได้ เช่น ต้องทำงานในโรงงานที่มีเสียงดังตลอดเวลา หรือชอบดูหนังในโรงหนังที่เสียงดังๆ ก็อาจมีส่วนก็ได้นะครับ เพราะแต่ก่อนผมก็ชอบดูหนังโรงเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ที่มีโควิด จนถึงตอนนี้ ผมไม่ได้ดูหนังโรงเลยครับ ครั้งล่าสุดที่ผมดูหนังโรง ผมจะใช้ที่อุดหูสีส้มๆ ซื้อที่ 7-11 กล่องละ 20 บาท มาอุดหูแบบหลวมๆ จะทำให้เสียงเข้ามาให้หูเบาลงในระดับที่โอเคเลย
ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกท่านหาสาเหตุจนพบ แล้วพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น แล้วสังเกตุอาการตัวเองดูว่ามันทุเลาลงไหม หากไม่ ก็อาจต้องลองไปปรึกษาคุณหมอดูครับ
อ้อ อีกเรื่องนึงก็คือ เสียงในหู หรือ Tinnitus ซึ่งคิดว่า เพื่อนๆ หลายท่านอาจกำลังสับสนระหว่างอาการหูไว กับเสียงในหู ซึ่งที่จริงแล้ว คนละอาการกันครับ เสียงในหูจะมีอาการที่ว่า อยู่ดีๆ ก็จะได้ยินเสียงวี๊ดขึ้นมา หรือมีเสียงลม เสียงจั๊กจั่น จนรบกวนการใช้ชีวิตของเรา (ยกเว้นเสียงของความเงียบนะครับ ซึ่งจะเป็นเสียงการทำงานของหลอดเลือดใกล้หู อันนั้นน่าจะเป็นเรื่องปกตินะครับ เพราะผมก็เป็นตั้งแต่เด็กๆ แล้ว) หลายคนไปหาหมอก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ มีผู้ที่เป็น Tinnitus นี้หลายคนครับ ผมขอแนะนำกลุ่มในเฟสบุ๊ค เผื่อเพื่อนๆ จะได้ถามไถ่อาการกัน
เข้าไปที่ลิงค์นี้
https://www.facebook.com/groups/601613243228554
หรือเข้า Facebook แล้วหาคำว่า "Tinnitus Society เสียงดังในหู" ก็ได้ครับ
เอาเป็นว่า ถ้าใครเกิดรู้สึกว่าตัวเองหูไว หรือมีเสียงในหู แต่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ก็ไม่ต้องไปสนใจมันครับ ยิ่งสนใจมันก็จะยิ่งทำให้เราไปวนลูปกับมันจนไม่มีสมาธิในการทำอะไรครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
จากวันนั้น ผมก็ได้ค้นพบว่า อาการของผม น่าจะเกิดจากการใช้หูฟังเป็นเวลานานครับ โดยเมื่อผมได้งดการใช้หูฟังลง แล้วสังเกตุอาการหลังจากนั้นแบบรายวัน ปรากฎว่า อาการค่อยๆ ทุเลาลง ปัจจุบันนี้ยังมีอาการอยู่บ้าง แต่น้อยลงกว่าเดิมประมาณ 50% ครับ อาจเป็นเพราะผมยังใช้หูฟังอยู่ แต่น้อยลงกว่าเดิมมาก และผมได้เปลี่ยนหูฟังจากเดิมเป็นแบบเล็กๆ ที่ยัดเข้าไปในรูหู มาเป็นแบบครอบหัว แล้วให้ส่วนของลำโพงไม่มาจ่อที่หูโดยตรง น่าจะนึกภาพออกนะครับ คือให้ส่วนของลำโพงมาแนบบริเวณข้างหูที่ไม่ตรงกับรูหู
ซึ่งอาการที่หายไป 50% นี้ เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมแล้วครับ เพราะไม่รู้สึกเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ที่แต่ก่อนแม้ตอนล้างจานได้ยินเสียงช้อนกระทบจานก็จะรู้สึกกึกๆ ที่หูทันที แต่ปัจจุบันนี้แทบไม่มีความรู้สึกแบบนั้น อาจจะมีก็ตอนที่ไปนึกถึงมัน แต่ก็จะรู้สึกน้อยมากๆ ครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตแต่อย่างไร
สำหรับเพื่อนๆ ที่เกิดปัญหาคล้ายๆ กันนี้ อาจจะมีส่วนหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากหูฟังเหมือนผม เพราะผมได้ค้นไปเจอกระทู้หนึ่ง เค้าก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน คือ เกิดจากการใช้หูฟังติดต่อกันเป็นเวลานาน
แต่หากเพื่อนๆ ท่านใดที่ไม่ได้ใช้หูฟัง แต่ยังเกิดปัญหานี้ ก็ลองหาสาเหตุอื่นดูครับ อาจจะพบเจอก็ได้ เช่น ต้องทำงานในโรงงานที่มีเสียงดังตลอดเวลา หรือชอบดูหนังในโรงหนังที่เสียงดังๆ ก็อาจมีส่วนก็ได้นะครับ เพราะแต่ก่อนผมก็ชอบดูหนังโรงเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ที่มีโควิด จนถึงตอนนี้ ผมไม่ได้ดูหนังโรงเลยครับ ครั้งล่าสุดที่ผมดูหนังโรง ผมจะใช้ที่อุดหูสีส้มๆ ซื้อที่ 7-11 กล่องละ 20 บาท มาอุดหูแบบหลวมๆ จะทำให้เสียงเข้ามาให้หูเบาลงในระดับที่โอเคเลย
ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกท่านหาสาเหตุจนพบ แล้วพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น แล้วสังเกตุอาการตัวเองดูว่ามันทุเลาลงไหม หากไม่ ก็อาจต้องลองไปปรึกษาคุณหมอดูครับ
อ้อ อีกเรื่องนึงก็คือ เสียงในหู หรือ Tinnitus ซึ่งคิดว่า เพื่อนๆ หลายท่านอาจกำลังสับสนระหว่างอาการหูไว กับเสียงในหู ซึ่งที่จริงแล้ว คนละอาการกันครับ เสียงในหูจะมีอาการที่ว่า อยู่ดีๆ ก็จะได้ยินเสียงวี๊ดขึ้นมา หรือมีเสียงลม เสียงจั๊กจั่น จนรบกวนการใช้ชีวิตของเรา (ยกเว้นเสียงของความเงียบนะครับ ซึ่งจะเป็นเสียงการทำงานของหลอดเลือดใกล้หู อันนั้นน่าจะเป็นเรื่องปกตินะครับ เพราะผมก็เป็นตั้งแต่เด็กๆ แล้ว) หลายคนไปหาหมอก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ มีผู้ที่เป็น Tinnitus นี้หลายคนครับ ผมขอแนะนำกลุ่มในเฟสบุ๊ค เผื่อเพื่อนๆ จะได้ถามไถ่อาการกัน
เข้าไปที่ลิงค์นี้
https://www.facebook.com/groups/601613243228554
หรือเข้า Facebook แล้วหาคำว่า "Tinnitus Society เสียงดังในหู" ก็ได้ครับ
เอาเป็นว่า ถ้าใครเกิดรู้สึกว่าตัวเองหูไว หรือมีเสียงในหู แต่ยังไม่ถึงระดับที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ก็ไม่ต้องไปสนใจมันครับ ยิ่งสนใจมันก็จะยิ่งทำให้เราไปวนลูปกับมันจนไม่มีสมาธิในการทำอะไรครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
แสดงความคิดเห็น
อาการหูไวผิดปกติ
- เมื่อได้ยินเสียงช้อนกระทบจาน, ค้อนตอกตะปู, เสียงปรบมือ, เสียงเก้าอี้เสียดสี หรือเสียงไอจากเพื่อนร่วมงาน จะรู้สึกเสียดหู บางครั้งรู้สึกกึกๆในหูตามจังหวะการกระทบ บางครั้งก็มีอาการหูกระดิกเล็กน้อย หรือบางครั้งก็มีอาการใบหูเกร็งเล็กน้อย(แป๊บเดียวแล้วคลาย)เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ บางครั้งรู้สึกแว๊ปขึ้นไปถึงศีรษะส่วนบน(เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้)
- อาการมักจะเป็นที่หูข้างเดียว ของผมคือข้างขวา แต่บางครั้งก็เป็นที่ข้างซ้ายเหมือนกันแต่น้อยครั้งมากๆ
- แต่เมื่อใช้อุ้งมือปิดหูข้างซ้าย (ปิดสนิทสุดๆแบบที่ไม่ให้เสียงเล็ดลอดได้เลย) แล้วลองเคาะจานชามดู ปรากฎว่า อาการไวของหูข้างขวาน้อยลง หรือแทบไม่รู้สึกเลย ทั้งๆ ที่หูข้างที่ไวรับเสียงเต็มๆ
เคยไปหาหมอหู ตรวจการได้ยิน audiogram ผลอยู่ในเกณฑ์ดี มีหูอื้อเล็กน้อยเนื่องจากท่อยูสเตเชียนอาจบวม เมื่อกินยาแก้หูอื้อ (pseudoephedrine) อาการบวมของท่อยูสเตเชียนดีขึ้น (สังเกตุจากเสียงในหูน้อยลง) แต่อาการหูไวยังไม่หาย (กลับเป็นหนักขึ้น)
ไม่ทราบท่านใดมีอาการเช่นนี้บ้างครับ อยากแชร์อาการกันหน่อย เพราะค้นในเน็ตแล้วเจอคนที่เป็นอย่างนี้น้อยมาก พอหลังไมค์ไปถามก็เงียบ เคยถามในเวปผู้เชียวชาญด้านหูก็ไม่ได้คำตอบ เลยรบกวนถามในห้องนี้เผื่อจะได้คำตอบครับ ขอบคุณครับ
หมายเหตุ: เมื่อ 2 เดือนที่แล้วผมมีอาการบ้านหมุน ซึ่งหมอบอกว่าเป็นหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (BPPV) และอาการหูไวก็เริ่มเกิดในช่วงนั้น เหมือนมาพร้อมๆกัน แต่ตอนนี้อาการบ้านหมุนหายแล้ว แต่อาการหูไวยังมีอยู่