สะพัด ! สงฆ์พร้อมญาติโยมนับพันเตรียมเคลื่อนค้าน ม.44 รองผู้ว่าฯอุบลออกหนังสือ "ด่วนที่สุด" สั่งสกัด เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่เอกสารด่วนที่สุดถึงนายอำเภอทุกอำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี จากผู้ว่าราชการจังหวัด มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสั่งการให้เตรียมพร้อม กรณีพระสงฆ์ในจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงญาติโยมนับพันราย เตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 3 มีนาคม เคยมีพระสงฆ์ 10 รูป ฆราวาส 6 คน รวมตัวบริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แสดงป้ายข้อความ เรียกร้องให้ยกเลิกการใช้ ม.44 ต่อวัดพระธรรมกาย และคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แต่ไม่ได้มีการยื่นหนังสือใดๆ ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่ได้นมัสการพระครูโพธิสิริญาณวงศ์ เลขานุการเจ้าคณะ อ.โพธิ์ไทร ซึ่งเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์มาพูดคุย รวมถึงมีการทำความเข้าใจกับพระสงฆ์ที่วัดศรีบุญเรือง ต.นาคำ และวัดสวนสนสังฆาราม ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาล ส่วนอำเภอวารินชำราบและอำเภอตระการพืชผล ยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดอุบลราชธานีได้แจ้งประสานแนวทางการปฏิบัติให้นายอำเภอตรวจสอบความเคลื่อนไหวร่วมกับเจ้าคณะอําเภอ หากพบว่ามีความเคลื่อนไหวให้แจ้งพระสงฆ์ที่จะยื่นหนังสือเรียกร้องฯ ให้ยื่นต่อเจ้าคณะจังหวัด โดยให้นายอำเภอเป็นผู้แทนส่วนราชการไปร่วมรับมอบหนังสือที่วัดเจ้าคณะอําเภอ เพื่อให้กิจกรรมมีภาพลักษณ์เป็นกิจของสงฆ์
พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ประธานสงฆ์ธุดงคสถานอุบลราชธานี
อา.. อุบลเมืองดอกบัว เมืองสวยเมืองงาม เมืองศีลเมืองธรรม แถมได้ชื่อว่า "เมืองนักปราชญ์" บทเพลงก็ไพเราะเพราะพริ้ง ทั้ง สาวอุบลรอรัก ช้ำรักจากอุบล ฯลฯ แต่วันนี้ อุบลฯ กลับกลายเป็นบ้านร้อนเมืองร้อน อ้างว่า "ร้อนเพราะ ม.44" ที่วัดพระธรรมกาย คลองสาม ปทุมธานี ห่างจากอุบลหลายร้อยไมล์ ก็เลยแปลกว่า ทำไม ? เรื่องนี้ก็เลยต้อง..ขยาย ก็เริ่มตั้งแต่ "การเมือง" ในเมืองอุบล ซึ่งเล่นกันแรง แบ่งออกเป็น 2 ก๊กใหญ่ ก๊กหนึ่งนั้นมี น.ส.สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ เป็นหัวหน้า สามารถคว้าตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุบลราชธานีมาครองได้ แล้วก็เอาการเมืองไปหนุน "ธรรมกาย" จัดงาน "ตักบาตร 222 ปี เมืองอุบล" เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 สำเร็จสวยงาม สามารถเอา "มหาศรีพร-เจ้าคณะจังหวัดอุบล" มานั่งเป็นแขก ส่วนประธานจัดงานตัวจริงเสียงจริงนั้น ได้แก่ พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.9 หัวหน้าธุดงคสถานอุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอวารินชำราบ แต่แผ่อิทธิพลครอบคลุมทั้งจังหวัดอุบลได้เบ็ดเสร็จ
พระมหาเสถียรนั้น นามสกุล คำบุ เรียนจบ ป.ธ.9 เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี จึงมีฐานะเป็น "ลูกหลาน" ของชาวอุบล เรียนจบที่วัดพระธรรมกายคลองสาม แล้วหลวงพ่อใหญ่จึงให้กลับบ้าน ไปสร้างฐานธรรมกาย "ใหญ่ที่สุด" ในอีสานใต้ ได้ที่ดินจำนวน 200 ไร่ เป็นทุนเบื้องต้น จนสามารถจัดงานตักบาตร 222 ปี เมืองอุบล ได้ในที่สุด ต่อมา กระแส เออีซี มาแรง ทางศูนย์ใหญ่จึงวางงานระดับ "ภูมิภาค" ประกาศจัดงานตักบาตร 100,000 รูป วันที่ 24 เมษายน 2559 กะจะรวบเอาพระสงฆ์ทั้งเขมร ลาว และไทย ทั้งภาคอีสาน มาร่วมงาน ที่ขาดไม่ได้ก็คือ เจ้าคณะจังหวัดทั้งธรรมยุตและมหานิกาย แต่เกิดปัญหา รัฐบาลไม่เห็นชอบให้จัด ธัมมชโยเลยโอนงานมาจัดที่วัดพระธรรมกายเสียทีเดียว แก้เกี้ยว แต่ว่ากันว่า งานนั้น เล่นเอาพังไปหลายพันล้าน งานพังน่ะไม่เท่าไหร่ แต่หน้าพังน่ะสิ ระดับผู้นำพุทธโลก พูดแล้วต้องคืนคำ จัดไม่ได้ เขาไม่ให้จัด !
เมื่อวาน
พระมหาเสถียร นำเอาพระเณรจากอุบลเข้ามาช่วยวัดใหญ่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และพบบัญชีเงินฝากเป็นจำนวนถึง 13 ล้าน โดยพระมหาเสถียรอ้างว่า "เป็นเงินเก็บส่วนตัว" แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่อายัดไว้เพื่อตรวจสอบ พระมหาเสถียรนั้น ว่ากันว่า ถูกวางตัวให้ขึ้นเป็น "เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี" ในอนาคต เป็นมือวางอันดับหนึ่ง ของธรรมกายในภาคอีสาน ถือว่าเป็นหัวแก้วหัวแหวนของหลวงพ่อธัมมชโยเลยทีเดียว แต่มาถูกจับเงินทองมากมายแบบนี้ อนาคตก็ดับวูบ เหมือนตายทั้งเป็น !
เล่นทุบหม้อข้าวหม้อแกงแรงอย่างนี้ มีหรือจะยอม นั่นเอง วันนี้ จึงมีการปลุกระดมพลเพื่อต่อต้าน ม.44 จากอุบลราชธานี เมืองที่มี "พระมหาเสถียร" เป็นประธาน เหนือกว่าเจ้าคณะจังหวัดทั้งธรรมยุตและมหานิกาย ที่สามารถทำได้ ก็เพราะว่า "การเมือง" กับ "การศาสนา" ในอุบลนั้น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว เหมือนที่ไหนเอ่ย อ๋อ ! ก็คลองสามไง ตั้งแต่เจ้าอาวาสยันนายกเทศมนตรี มีสังกัดเดียวกัน ต่อให้ใช้ ม.44 ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เชื่อหรือยังว่า "พ่อใหญ่ไม่เล่นการเมือง แต่เอาจริง" และรู้หรือยังว่า "เมืองอุบลใครใหญ่" ชิตัง เม !
แค่โดนสอบ และอายัดเงินไว้ 13 ล้าน ถึงกับลั่น จัดตั้งม๊อบพระ ธรรมกายอุบลฮือต้าน ม.44
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 3 มีนาคม เคยมีพระสงฆ์ 10 รูป ฆราวาส 6 คน รวมตัวบริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี แสดงป้ายข้อความ เรียกร้องให้ยกเลิกการใช้ ม.44 ต่อวัดพระธรรมกาย และคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แต่ไม่ได้มีการยื่นหนังสือใดๆ ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่ได้นมัสการพระครูโพธิสิริญาณวงศ์ เลขานุการเจ้าคณะ อ.โพธิ์ไทร ซึ่งเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์มาพูดคุย รวมถึงมีการทำความเข้าใจกับพระสงฆ์ที่วัดศรีบุญเรือง ต.นาคำ และวัดสวนสนสังฆาราม ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาล ส่วนอำเภอวารินชำราบและอำเภอตระการพืชผล ยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดอุบลราชธานีได้แจ้งประสานแนวทางการปฏิบัติให้นายอำเภอตรวจสอบความเคลื่อนไหวร่วมกับเจ้าคณะอําเภอ หากพบว่ามีความเคลื่อนไหวให้แจ้งพระสงฆ์ที่จะยื่นหนังสือเรียกร้องฯ ให้ยื่นต่อเจ้าคณะจังหวัด โดยให้นายอำเภอเป็นผู้แทนส่วนราชการไปร่วมรับมอบหนังสือที่วัดเจ้าคณะอําเภอ เพื่อให้กิจกรรมมีภาพลักษณ์เป็นกิจของสงฆ์
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ประธานสงฆ์ธุดงคสถานอุบลราชธานี
อา.. อุบลเมืองดอกบัว เมืองสวยเมืองงาม เมืองศีลเมืองธรรม แถมได้ชื่อว่า "เมืองนักปราชญ์" บทเพลงก็ไพเราะเพราะพริ้ง ทั้ง สาวอุบลรอรัก ช้ำรักจากอุบล ฯลฯ แต่วันนี้ อุบลฯ กลับกลายเป็นบ้านร้อนเมืองร้อน อ้างว่า "ร้อนเพราะ ม.44" ที่วัดพระธรรมกาย คลองสาม ปทุมธานี ห่างจากอุบลหลายร้อยไมล์ ก็เลยแปลกว่า ทำไม ? เรื่องนี้ก็เลยต้อง..ขยาย ก็เริ่มตั้งแต่ "การเมือง" ในเมืองอุบล ซึ่งเล่นกันแรง แบ่งออกเป็น 2 ก๊กใหญ่ ก๊กหนึ่งนั้นมี น.ส.สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ เป็นหัวหน้า สามารถคว้าตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุบลราชธานีมาครองได้ แล้วก็เอาการเมืองไปหนุน "ธรรมกาย" จัดงาน "ตักบาตร 222 ปี เมืองอุบล" เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 สำเร็จสวยงาม สามารถเอา "มหาศรีพร-เจ้าคณะจังหวัดอุบล" มานั่งเป็นแขก ส่วนประธานจัดงานตัวจริงเสียงจริงนั้น ได้แก่ พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.9 หัวหน้าธุดงคสถานอุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอวารินชำราบ แต่แผ่อิทธิพลครอบคลุมทั้งจังหวัดอุบลได้เบ็ดเสร็จ
พระมหาเสถียรนั้น นามสกุล คำบุ เรียนจบ ป.ธ.9 เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี จึงมีฐานะเป็น "ลูกหลาน" ของชาวอุบล เรียนจบที่วัดพระธรรมกายคลองสาม แล้วหลวงพ่อใหญ่จึงให้กลับบ้าน ไปสร้างฐานธรรมกาย "ใหญ่ที่สุด" ในอีสานใต้ ได้ที่ดินจำนวน 200 ไร่ เป็นทุนเบื้องต้น จนสามารถจัดงานตักบาตร 222 ปี เมืองอุบล ได้ในที่สุด ต่อมา กระแส เออีซี มาแรง ทางศูนย์ใหญ่จึงวางงานระดับ "ภูมิภาค" ประกาศจัดงานตักบาตร 100,000 รูป วันที่ 24 เมษายน 2559 กะจะรวบเอาพระสงฆ์ทั้งเขมร ลาว และไทย ทั้งภาคอีสาน มาร่วมงาน ที่ขาดไม่ได้ก็คือ เจ้าคณะจังหวัดทั้งธรรมยุตและมหานิกาย แต่เกิดปัญหา รัฐบาลไม่เห็นชอบให้จัด ธัมมชโยเลยโอนงานมาจัดที่วัดพระธรรมกายเสียทีเดียว แก้เกี้ยว แต่ว่ากันว่า งานนั้น เล่นเอาพังไปหลายพันล้าน งานพังน่ะไม่เท่าไหร่ แต่หน้าพังน่ะสิ ระดับผู้นำพุทธโลก พูดแล้วต้องคืนคำ จัดไม่ได้ เขาไม่ให้จัด !
เมื่อวาน พระมหาเสถียร นำเอาพระเณรจากอุบลเข้ามาช่วยวัดใหญ่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และพบบัญชีเงินฝากเป็นจำนวนถึง 13 ล้าน โดยพระมหาเสถียรอ้างว่า "เป็นเงินเก็บส่วนตัว" แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่อายัดไว้เพื่อตรวจสอบ พระมหาเสถียรนั้น ว่ากันว่า ถูกวางตัวให้ขึ้นเป็น "เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี" ในอนาคต เป็นมือวางอันดับหนึ่ง ของธรรมกายในภาคอีสาน ถือว่าเป็นหัวแก้วหัวแหวนของหลวงพ่อธัมมชโยเลยทีเดียว แต่มาถูกจับเงินทองมากมายแบบนี้ อนาคตก็ดับวูบ เหมือนตายทั้งเป็น !
เล่นทุบหม้อข้าวหม้อแกงแรงอย่างนี้ มีหรือจะยอม นั่นเอง วันนี้ จึงมีการปลุกระดมพลเพื่อต่อต้าน ม.44 จากอุบลราชธานี เมืองที่มี "พระมหาเสถียร" เป็นประธาน เหนือกว่าเจ้าคณะจังหวัดทั้งธรรมยุตและมหานิกาย ที่สามารถทำได้ ก็เพราะว่า "การเมือง" กับ "การศาสนา" ในอุบลนั้น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว เหมือนที่ไหนเอ่ย อ๋อ ! ก็คลองสามไง ตั้งแต่เจ้าอาวาสยันนายกเทศมนตรี มีสังกัดเดียวกัน ต่อให้ใช้ ม.44 ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เชื่อหรือยังว่า "พ่อใหญ่ไม่เล่นการเมือง แต่เอาจริง" และรู้หรือยังว่า "เมืองอุบลใครใหญ่" ชิตัง เม !