คงเป็นเรื่อง"กรรมสนอง" ที่ขาต้องมาบวมดำเดินไม่ได้ ประจานให้ชาวบ้านได้เห็นว่า ไม่ได้วิเศษ ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อะไรหรอก

ถ้าขาไม่ดำ ไม่บวม ก็คงหลอกชาวบ้านไปได้อีก

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา

ทำอะไรไว้ ก็เตรียมใจ"รับกรรม"ที่ตามมาสนอง

ชิตังโม้

ประหลาดใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
นั่นล่ะค่ะ เห็นศิษยานุศิษย์แสดงความเป็นห่วงว่าผู้จาบจ้วงหลวงพ่อจะต้องตกนรก พยายามมากที่จะห้ามคนอื่นไม่ให้ตำหนิวิจารณ์พระผู้ทรงศีลของพวกท่าน

ศิษยานุศิษย์ไม่เอะใจสักนิดหรือคะ ว่าที่หลวงพ่อของพวกท่านรับกรรมอยู่ทุกวันนี้ ต้องหลบอยู่ในที่จำกัด(ไม่อยากจะใช้คำว่าหลบอยู่ในรูเดี๋ยวจะสะเทือนใจกันเกินไป) ไม่สามารถออกมาบอกบุญญาติโยมได้อยู่ทุกวันนี้เพราะท่านทำกรรมอันใดไว้แต่ปางก่อน

หากศิษยานุศิษย์มั่นใจว่าท่านบริสุทธิ์แต่ถูกใส่ร้าย ก็แสดงว่าแต่กาลก่อนท่าานเคยใส่ร้ายผู้มีศีลไว้สินะ ใช่หรือไม่คะ

ก่อนจะห่วงคนที่จาบจ้วงหลวงพ่อ พวกคุณห่วงหลวงพ่อก่อนเถอะค่ะ ว่าจะทนรับกรรมแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่ สุขภาพก็ไม่ดี ต้องคดีที่ไม่อยากออกมาแก้ต่าง(เพราะกลัวถูกจับสึก) แถมยังต้องทุกข์ใจเพราะรู้สึกผิดต่อการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่ปกป้องท่านด้วยชีวิตอีก น่าเห็นใจจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 8
การเยาะเย้ยถากถางอาการเจ็บป่วยผู้อื่นก็คือการสร้างกรรม อยากให้ท่านระวังกรรมจะสนองไปที่ปากหรือนิ้วมือของท่านด้วย
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ธรรมกาย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) วัด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่