สวัสดีค่ะ ข้อความในกระทู้นี้ทั้งหมด เราเป็นคนเขียนเอง เราเป็นนักข่าว ที่ประสบปัญหานี้ด้วยตนเอง
เลยใช้พื้นที่คอลัมน์เขียนระบาย ฝากด้วยนะคะ อันนี้เป็นภาคแรก เดี๋ววจะมีภาคสองตามมาแน่นอนค่ะ
Home »
ภาคแรกโครงการบ้านสุดห่วย
Thursday, March 2, 2017 - 00:00
ในบรรดาความฝันของมนุษย์เงินเดือนในสังคมและสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือการอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เพื่อเป็นทรัพย์สมบัติจากน้ำพักน้ำแรงที่ต้องทนนั่งหลังขดหลังแข็ง เพื่อให้มีกำลังผ่อนซื้อ และเพื่อเป็นสมบัติตกไปสู่ลูกหลานในอนาคตได้ ดังนั้นการจะเลือกบ้านดีๆ จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญในขั้นตอนการตัดสินใจ เพราะหากเลือกผิด นั่นถือว่าเราต้องยอมรับสภาพไปตลอด เหมือนกับที่ผู้เขียนกำลังประสบอยู่ตอนนี้
เริ่มต้นที่ลองหาข้อมูล เทียบราคา ดูทำเล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางเงินจองคอนโดมิเนียม แต่เมื่อคำนึงถึงอนาคต เพราะกำลังจะมีลูก และเราอาจจะควบคุมเสียงของเด็กเล็กไม่ได้ จึงตัดสินใจทิ้งเงินจอง แล้วเดินหน้าหาทาวน์โฮมที่พอจะมีกำลังผ่อนได้ ด้วยการลองไปชมตัวอย่างโครงการต่างๆ จนมาถึงโครงการซิตี้เซนส์ ศาลายา ของ “บมจ.ปริญสิริ (PRIN)” ที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อนข้างใหญ่ในตลาดหุ้นไทย
ด้วยขณะนั้น ผู้ซื้ออาจจะบกพร่องตรงที่ตรวจรับบ้านไม่ละเอียด เนื่องจากเป็นบ้านหลังแรก และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการตรวจตราบ้าน ซึ่งหากมีจุดไหนที่เล็กๆ น้อยๆ จึงได้ข้ามไป เพราะเห็นว่าไม่ได้มีผลต่อโครงสร้างตัวบ้าน อย่างเช่น ผนังบ้านไม่เรียบ เป็นคลื่นอย่างเห็นได้ชัด เหลี่ยมรอยต่อผนังไม่ตรงแนว ที่สำคัญรอยต่อรั้วหลังบ้านระหว่างบ้านมีรอยร้าวแยกอย่างชัดเจน แต่เมื่อถามผู้รับเหมา ก็ได้คำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ ถึงจะแก้ก็ไม่หาย ในตอนนั้นผู้ซื้อคิดว่าหากฉาบปูนปิด คิดว่าจะไม่แยกเพิ่มจากเดิม แต่ปรากฏว่าในระยะเวลา 1 ปี ต้องทำการปิดรอยไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
ในช่วงที่อาศัยอยู่นั้น มีปัญหาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อย่างเช่น ท่อน้ำในห้องน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นออกมา ประตูห้องน้ำชั้นล่างปิดไม่ได้ เนื่องจากวงกบเลื่อน รวมถึงในส่วนที่ต่อเติมห้องครัว มีสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์อย่างเช่น หนู วิ่งอยู่บนหลังคา สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และไม่ได้เป็นแค่หลังเดียว จากที่สอบถามเพื่อนบ้าน พบว่าปัญหานี้เป็นทุกหลัง และแก้ไม่หาย
นอกจากนี้ ผู้ซื้อเองต้องทำการแจ้งซ่อมเพื่อปิดประกัน 1 ปี เจอปัญหาคือมีรอยร้าวบนผนังทุกห้อง ทุกผนัง ถึงกับต้องลางานเพื่อเฝ้าคนงานทำการซ่อม 1 อาทิตย์ ก็ยังไม่เสร็จ ในระหว่างทำการซ่อมก็ฝุ่นเยอะ ทำให้ต้องทำความสะอาดชุดใหญ่ ซึ่งหลายบ้านต้องทำการหยุดซ่อม เนื่องจากทนกับฝุ่นและต้องตามทำความสะอาดต่อไม่ไหว อีกทั้งงานที่เก็บซ่อมก็ไม่ได้มีความละเอียด บางจุดแก้ถึง 2-3 ครั้ง ก็ยังไม่หาย จนปัจจุบันใกล้จะหมดประกัน บ้านก็ยังซ่อมไม่เสร็จเสียที
ที่สำคัญ รอยแยกรั้วบ้านที่ได้ปิดรอยไป เพียงแค่เวลา 3 สัปดาห์ เกิดรอยซ้ำเดิมอีก ซึ่งไม่รู้ว่าหากปิดประกันสมบูรณ์ไปแล้ว ทางโครงการจะยังดูแลให้อีกหรือไม่ หรือต้องรับผิดชอบกันเอง เพราะตัวบ้านรับประกันแค่ 1 ปี ส่วนโครงสร้างรับประกัน 5 ปี และจากนี้ หากรอยร้าวยังเกิดอีก จะต้องทำใจใช่หรือไม่
ขณะที่เรื่องการซ่อมบ้านยังไม่จบ เกิดปัญหากับบ้านอื่นๆ ในโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และยังถกเถียงกันไม่จบ คือปัญหาปลวกเริ่มรุกล้ำเข้ามาในบ้าน และไม่ใช่จำนวนน้อยที่เจอปัญหานี้ คิดเป็นประมาณ 80% ของจำนวนบ้านที่เข้าอยู่แล้ว ที่สำคัญ บ้านที่ประสบปัญหาทั้งหมด ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการกำจัดปลวกครั้งละ 4,000-6,000 บาท จากการเชื่อใจโครงการที่บอกก่อนตัดสินใจซื้อว่า โครงการมีการราดน้ำยากันปลวกให้แล้ว แต่ทำไมกลับเจอปัญหาได้เร็วมาก เพียงแค่ไม่ถึง 1 ปี
เรียกได้ว่าราคาบ้านที่ค่อนข้างสูงเกือบ 3 ล้านบาท แต่คุณภาพบ้านที่ได้มา กลับต่ำกว่าราคาที่ทุกคนยอมจ่าย ยอมเป็นภาระผ่อนในแต่ละเดือน แต่ยิ่งอยู่ยิ่งมีภาระค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าผ่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น เพราะความชุ่ยของโครงการ
ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะอยู่มา 1 ปี จากที่กำลังเริ่มก่อสร้างไม่ถึง 20 หลัง จนตอนนี้ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงเพื่อต้องการปั๊มยอดขาย แต่ไม่สนใจคุณภาพ และความเดือดร้อนของลูกบ้าน ดังนั้นจึงขอบอกว่า ลูกบ้านกำลังจะมีการรวมตัวกันเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากโครงการ แน่นอนว่าจะต้องมีภาคต่อแน่นอน.
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2
ทาวน์โฮมราคาสูง แต่คุณภาพต่ำ
เลยใช้พื้นที่คอลัมน์เขียนระบาย ฝากด้วยนะคะ อันนี้เป็นภาคแรก เดี๋ววจะมีภาคสองตามมาแน่นอนค่ะ
Home »
ภาคแรกโครงการบ้านสุดห่วย
Thursday, March 2, 2017 - 00:00
ในบรรดาความฝันของมนุษย์เงินเดือนในสังคมและสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือการอยากมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เพื่อเป็นทรัพย์สมบัติจากน้ำพักน้ำแรงที่ต้องทนนั่งหลังขดหลังแข็ง เพื่อให้มีกำลังผ่อนซื้อ และเพื่อเป็นสมบัติตกไปสู่ลูกหลานในอนาคตได้ ดังนั้นการจะเลือกบ้านดีๆ จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญในขั้นตอนการตัดสินใจ เพราะหากเลือกผิด นั่นถือว่าเราต้องยอมรับสภาพไปตลอด เหมือนกับที่ผู้เขียนกำลังประสบอยู่ตอนนี้
เริ่มต้นที่ลองหาข้อมูล เทียบราคา ดูทำเล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางเงินจองคอนโดมิเนียม แต่เมื่อคำนึงถึงอนาคต เพราะกำลังจะมีลูก และเราอาจจะควบคุมเสียงของเด็กเล็กไม่ได้ จึงตัดสินใจทิ้งเงินจอง แล้วเดินหน้าหาทาวน์โฮมที่พอจะมีกำลังผ่อนได้ ด้วยการลองไปชมตัวอย่างโครงการต่างๆ จนมาถึงโครงการซิตี้เซนส์ ศาลายา ของ “บมจ.ปริญสิริ (PRIN)” ที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อนข้างใหญ่ในตลาดหุ้นไทย
ด้วยขณะนั้น ผู้ซื้ออาจจะบกพร่องตรงที่ตรวจรับบ้านไม่ละเอียด เนื่องจากเป็นบ้านหลังแรก และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการตรวจตราบ้าน ซึ่งหากมีจุดไหนที่เล็กๆ น้อยๆ จึงได้ข้ามไป เพราะเห็นว่าไม่ได้มีผลต่อโครงสร้างตัวบ้าน อย่างเช่น ผนังบ้านไม่เรียบ เป็นคลื่นอย่างเห็นได้ชัด เหลี่ยมรอยต่อผนังไม่ตรงแนว ที่สำคัญรอยต่อรั้วหลังบ้านระหว่างบ้านมีรอยร้าวแยกอย่างชัดเจน แต่เมื่อถามผู้รับเหมา ก็ได้คำตอบว่า เป็นเรื่องปกติ ถึงจะแก้ก็ไม่หาย ในตอนนั้นผู้ซื้อคิดว่าหากฉาบปูนปิด คิดว่าจะไม่แยกเพิ่มจากเดิม แต่ปรากฏว่าในระยะเวลา 1 ปี ต้องทำการปิดรอยไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
ในช่วงที่อาศัยอยู่นั้น มีปัญหาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อย่างเช่น ท่อน้ำในห้องน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นออกมา ประตูห้องน้ำชั้นล่างปิดไม่ได้ เนื่องจากวงกบเลื่อน รวมถึงในส่วนที่ต่อเติมห้องครัว มีสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์อย่างเช่น หนู วิ่งอยู่บนหลังคา สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และไม่ได้เป็นแค่หลังเดียว จากที่สอบถามเพื่อนบ้าน พบว่าปัญหานี้เป็นทุกหลัง และแก้ไม่หาย
นอกจากนี้ ผู้ซื้อเองต้องทำการแจ้งซ่อมเพื่อปิดประกัน 1 ปี เจอปัญหาคือมีรอยร้าวบนผนังทุกห้อง ทุกผนัง ถึงกับต้องลางานเพื่อเฝ้าคนงานทำการซ่อม 1 อาทิตย์ ก็ยังไม่เสร็จ ในระหว่างทำการซ่อมก็ฝุ่นเยอะ ทำให้ต้องทำความสะอาดชุดใหญ่ ซึ่งหลายบ้านต้องทำการหยุดซ่อม เนื่องจากทนกับฝุ่นและต้องตามทำความสะอาดต่อไม่ไหว อีกทั้งงานที่เก็บซ่อมก็ไม่ได้มีความละเอียด บางจุดแก้ถึง 2-3 ครั้ง ก็ยังไม่หาย จนปัจจุบันใกล้จะหมดประกัน บ้านก็ยังซ่อมไม่เสร็จเสียที
ที่สำคัญ รอยแยกรั้วบ้านที่ได้ปิดรอยไป เพียงแค่เวลา 3 สัปดาห์ เกิดรอยซ้ำเดิมอีก ซึ่งไม่รู้ว่าหากปิดประกันสมบูรณ์ไปแล้ว ทางโครงการจะยังดูแลให้อีกหรือไม่ หรือต้องรับผิดชอบกันเอง เพราะตัวบ้านรับประกันแค่ 1 ปี ส่วนโครงสร้างรับประกัน 5 ปี และจากนี้ หากรอยร้าวยังเกิดอีก จะต้องทำใจใช่หรือไม่
ขณะที่เรื่องการซ่อมบ้านยังไม่จบ เกิดปัญหากับบ้านอื่นๆ ในโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และยังถกเถียงกันไม่จบ คือปัญหาปลวกเริ่มรุกล้ำเข้ามาในบ้าน และไม่ใช่จำนวนน้อยที่เจอปัญหานี้ คิดเป็นประมาณ 80% ของจำนวนบ้านที่เข้าอยู่แล้ว ที่สำคัญ บ้านที่ประสบปัญหาทั้งหมด ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการกำจัดปลวกครั้งละ 4,000-6,000 บาท จากการเชื่อใจโครงการที่บอกก่อนตัดสินใจซื้อว่า โครงการมีการราดน้ำยากันปลวกให้แล้ว แต่ทำไมกลับเจอปัญหาได้เร็วมาก เพียงแค่ไม่ถึง 1 ปี
เรียกได้ว่าราคาบ้านที่ค่อนข้างสูงเกือบ 3 ล้านบาท แต่คุณภาพบ้านที่ได้มา กลับต่ำกว่าราคาที่ทุกคนยอมจ่าย ยอมเป็นภาระผ่อนในแต่ละเดือน แต่ยิ่งอยู่ยิ่งมีภาระค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าผ่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น เพราะความชุ่ยของโครงการ
ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะอยู่มา 1 ปี จากที่กำลังเริ่มก่อสร้างไม่ถึง 20 หลัง จนตอนนี้ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงเพื่อต้องการปั๊มยอดขาย แต่ไม่สนใจคุณภาพ และความเดือดร้อนของลูกบ้าน ดังนั้นจึงขอบอกว่า ลูกบ้านกำลังจะมีการรวมตัวกันเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากโครงการ แน่นอนว่าจะต้องมีภาคต่อแน่นอน.
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2