ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เบื่ออากาศหนาว กับเสื้อขนเป็ดตัวซ้ำๆที่ยังไม่ได้ซักเดือนกว่า วันหยุดทั้งทีชะนีขอออกเที่ยว ทริปนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมสี่คน วันนี้เราปักหมุดกันที่ซูโจวไปเช้าเย็นกลับ เมืองแหล่งท่องเที่ยวและของกินหลากหลาย
นางทั้งสามอยู่บ้านเอเอฟหลังเดียวกัน มีแต่เราคนเดียวระหกระเหินอยู่ชานเมือง วันนี้เรานัดกันเจอสถานีรถไฟตอน10โมงเช้า ที่สถานีรถไฟ มาถึงยังไม่เจอผู้ใด เลยซัดอาหารเช้ารอไปพลางๆ จะเรียกมันภาษาไทยว่าไรดีล่ะ นัง手抓饼โส่ว จา ปิ่ง 。。。เรียกมันว่าเครปเมืองจีนละกัน เลือกไส้ได้สารพัด แฮม ไส้กรอก ชีส ไก่ หมูหยอง บลาๆ ราดซอส มะเขือเทศ ซอสพริก มายองเนสตามใจ แถมผักกาด แตงกวา ให้ แม่มไส้งงปนกันไปหมด มีขายกันให้เกลื่อนตามรสเคลื่อนที่ เห็นทุกวันจนเอียน ไม่รู้คนจีนแม่มกินได้ไงทุกวัน
กินจนหมด พวกนางก็ยังไม่มา ยืนมองคนจีนบ่นไปมา เจือกขึ้นผิดฝั่ง แล้วของนางนึกว่าย้ายบ้าน อยากจะเข้าช่วยนะ แต่ด้วยร่างเล็กๆของชะนีคงไม่ไหว คือต้องบอกว่าใครอยู่เซี่ยงไฮ้จะนัดเจอเพื่อนที่สถานีรถไฟ นัดกันให้ดีๆ ว่าโผล่มาเจอกันฝั่งไหน เหนือหรือใต้ ไม่งั้นเดินกลับขาลาก ซึ่งชะนีก็แอบหึกเหิมใจ สถานการณ์ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราแน่นอน เพราะมาอยู่ที่นี่ก็ปีกว่าและ หึๆ ยิ้มมุมปาก สักพักจ้า วีแชทเข้า นางบ้านเอเอฟมาถึงกันและ ถามอยู่ไหน นัดกันไว้ประตู1ไม่เห็นเจอ…เราผู้ซึ่งรอประตู1เหมือนกัน ก็โวยวายกลับ ขึ้นมายังล่ะ โผล่ขึ้นมาเห็นเลย เสื้อขนเป็ดยืนแดงอยู่ตรงทางออกเนี่ยคะ จนดูและท่าไม่ได้การ เลยแชร์โลเคชั่นกลุ่มแบบเรียวไทม์ สรุปได้แว้ ประตู1แม่มเจือกมีสองที่อีก มีประตู1จากสาย1 และประตู1จากสาย4 พลาดได้ไงวะตรู เสียชื่อหมดเลย สุดท้ายไม่พ้นโดนเพื่อนด่ารัวจร้า ขึ้นมาผิดฝั่ง ขอโต๊ดดเพื่อนๆทุกคนที่ต้องเดินกลับมาหา แง่ว
โอเครค่ะ ทริปจะเริ่มและ หลังจากนัดกันสิบโมง กว่าจะครบทีมตอนสิบเอ็ดโมง ไม่ได้เอาพาสปอร์ตมาหนึ่ง เราก็คิดว่าโอเครไม่น่าเป็นไรมั้ง มีรูปพาสปอร์ตในมือถือก็ได้ เพราะเมื่อก่อนเราใช้วิธีนี้เค้าก็ให้เข้า พอกำลังต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ พี่คนนึงหน้าเริ่มซี๊ด นึกว่าจะเป็นลม เลยถามแกเป็นไร….เอ่อ ผมก็ลืมเอาพาสปอร์ตมาเหมือนกัน !!นั่นไง สองและ คุณพี่ตัวตั้งตัวดีนำทริปด้วยนะเนี่ย ฮ่าๆ กุมขมับเลย เอาไงดี แยกย้ายมะ กลับบ้านไปนอน ไม่ไปแม่มและ จบทริปรีวิวเที่ยวเซี่ยงไฮ้-ซูโจวแล้วจร้า สวัสดี
.................
.................................
เฮ้ย!!ไม่ๆเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆหรอกหน่ะ กว่าจะมาจากชานเมืองได้ เราคิดว่าเอางี้ มีสองทาง กลับไปบ้านพร้อมกันสองคนไปเอาพาสปอร์ตมา ไม่มีเค้าก็ไม่ให้ขึ้นรถไฟจิ อีกทางนึงคือ เดี๋ยวเราจะเนียนไปต่อแถวซื้อบัตรรถทัวร์ ถ้านางไม่ขอพาสปอร์ตก็เนียนๆไป ขึ้นรถทัวร์ไปก็ได้ ช้ากว่าหน่อย ถ้ารถไฟความเร็วสูง จากเซี่ยงไฮ้-ซูโจว ประมานครึ่งชม ส่วนรถทัวร์ ประมานหนึ่งชมครึ่ง ไปถึงก็บ่ายโมงครึ่ง หมดไปครึ่งค่อนวันและ –เมื่อเราวางแผนเสร็จก็ตามแผน วิ่งข้ามไปอีกฝั่งนึงสถานีขนส่ง เอาจริงๆเราเป็นคนชอบแพลนทริปนะ ถ้าให้เราแพลนทริป รับรองกิจกรรมเที่ยวแน่นเอี๊ยด ไม่ได้หลับไม่ได้นอนแน่ๆ เราเป็นพวกแบบมาทั้งทีต้องเที่ยวให้คุ้ม เพื่อนๆเลยไม่ค่อยอยากมาเที่ยวกับเราเท่าไหร่ เพราะเหนื่อย ฮ่าๆ
ตัดมาที่สถานีขนส่ง เราเลือกลงไปซื้อใต้ดิน ซึ่งเข้าใจว่ามันนจะขายสองที่บนตึกด้วย แต่เราดูว่าใต้ดินมันดูไม่เป็นทางการ น่าจะเนียนๆไม่ตรวจพาสปอร์ตได้ ….วิเคราะห์ ฉลาดเริ่ดจริงช้านน ฮ่าๆ จนถึงคิวก่อนหน้าๆก็จะเห็นคนจีนยื่นบัตรประชาชน เริ่มใจเสีย เอาไงดี??ไม่เป็นไร ใจดีสู้เสือไว้ จนถึงคิวเรา จองเวลาเสร็จปุ๊บช่วงกำลังจ่ายเงิน นางขอดูพาสปอร์ต เอาแล้วไงคะ ทริปล่มชัวร์ๆ เรายื่นของเราไปแค่เล่มเดียว นางถามของคนอื่นหล่ะ ……ด้วยความไหวพริบค่อนข้างไว เพราะเริ่มรู้นิสัยของคนจีน เลยตอบไปว่า เพื่อนคนที่เหลือรอข้างบนแล้ว นางเจ็บขา บลาๆแถลไปเรื่อย กฎของการอยู่ที่นี่ คือเมิงต้องมั่นใจ มั่นหน้า หน้าจิก อย่าทำกลัว ภาษจีนเก่งไม่เก่งไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าทำเหลอหลาเด็ดขาด ทำเทพเข้าไว้ในบางสถานการณ์ แล้วชั้นก็ได้ครอบครองตั๋วรถทัวร์มาโดยดี ค่ารถคนละ 44.50 หยวน(ประมาณ220บาท)
ดีใจช่วยเพื่อนร่วมทริปรอดและ ก็ขึ้นมาเพื่อไปขึ้นรถบนตึกในสถานีขนส่งนี้ ขึ้นมาชั้นสอง เราก็จะเห็นพอดี สังเกตที่ตั๋วว่ารถเราอยู่เลขช่องไหน อันนี้ดียังไม่ต้องเดินนาน แต่ถ้าจะขึ้นรถไฟ ต้องเผื่อเวลาเดินไปชานชาลาสักครึ่งชมนะคะ เพราะบางสถานีรถไฟ เข้าไปลึกมาก และรถออกตรงเวลาเป๊ะ อย่าเดินเอ้อละเหยละ นี่ไม่ใช่รถไฟไทยค่ะ
ขึ้นมาและ โอเครอยู่ไม่สะอาดมากและไม่ซกมกมาก เอ๊ะ!ยังไง ทั้งคันแม่มมีแค่เจ็ดคน เกร๋ๆ นอนเหยียดไปยาวๆ นั่งชมครึ่งถึง
ใครจะมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แนะนำคุณสามารถแพลนมา 5วัน4คืนได้นะคะ แบ่งเที่ยวสามเมือง เซี่ยงไฮ้ ซูโจว หังโจว พออยู่แล้ว ถ้าจะเอาโหดอีกหน่อย เพิ่มหนานจิงไปด้วย ไปดูประวัติศาสตร์สงครามจีน-ญี่ปุ่น แต่พี่เค้าบอกว่าฮาร์บินมีให้ดูเยอะกว่าหนานจิง ส่วนเราก็ซวยสุด ไปตอนนั้นดันถ่ายละครกันพอดี อดเข้าไปดู ง่อวว ทริปหน้าไม่พลาดแน่
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จัดอะไรเบาๆก่อนละกัน มาๆรีวิวอาหารของแต่ละนาง
พี่คนหนึ่งเลือก ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นน้ำขลุกขลิก
พี่อีกคนนึงนางเลือก เกี๋ยวจิ้มซอสเปรี๊ยวเผ็ด รสชาติคล้ายน้ำจิ้มขาหมู
น้องอีกคนสั่งข้าวหน้าเป็ด กลับได้ข้าวน่องไก่ หน้าตาไม่น่าทานเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ฮ่าๆ มีงี้ด้วย
ส่วนอิชั้น หมูสามชั้นทอด และซุปไก่ดำ บำรุงร่างกาย ดูเฮลตี้สุดๆอะ เจอหมูเข้าไปก็ไม่รู้กี่ร้อยแคลอรี่และ
ปลื้มค่าครอบชีพของที่นี่มากอะ ของกินถูกกว่าเซี่ยงไฮ้ด้วย เมืองเที่ยวก็เยอะกว่า คนก็ดูอัธยาศัยดีกว่า รถแท๊กซี่ก็มิตเตอร์ถูกว่า 11หยวน เซี่ยงไฮ้14หยวน กลางคืน18หยวน
แล้วเราก็ไปจองตั๋วกลับทันทีก่อนจะออกเที่ยว เพราะหมดแล้วหมดเลย ไม่ได้กลับ พรุ่งนี้ทำงาน อยู่จีนไม่เหมือนอยู่ไทยคะ ไม่ใช่มีตลอด ต้องจองก่อน วางแผนไว้ก่อนเสมอ ไม่งั้นคืนพลาด มาถึงนี่ก็เกือบบ่ายสอง รถรอบสุดท้ายทุ่มนึง มีเวลาเที่ยวสี่ชมเท่านั้น เราเลยปักหมุดกันที่ 山塘街 นั่นก็คือย่านซานถังนั่นเอง ซึ่งก็เป็นแนวๆตลาดน้ำบ้านเรา แค่ไม่มีเรือพายมาขายของ แต่เป็นเมืองโบราณ มีเรือพายนำเที่ยว สองข้างทางขายของกินมากมาย ใครรักกการกิน ต้องมาเลย ไม่ผิดหวังแน่ค่ะ เอาจริงๆซูโจวมีที่เที่ยวเยอะมาก คราวที่แล้วเราก็แพ๊คเป้มาเที่ยวคนเดียวที่โจวจวง ไปอ่านได้ที่นี่นะคะ
https://ppantip.com/topic/35503711
ต่อไปนี้คือการรีวิวของกินล้วนๆ ใครใจไม่แข็งพอ แนะนำอย่าเปิดอ่านตอนกลางคืน ฮ่าๆ
..........................
..................................
ของกินเด่นๆ ขึ้นชื่อซูโจวก็ต้อง ปลาเปรี้ยวหวาน
แต่เวลาเราไปไหนจะชอบสั่งปลาผักกาดดองทุกครั้ง酸菜鱼 เราโคตรชอบกินปลาผักกาดดอง เปรี๊ยวเผ็ดสะใจ
ส่วนอันนี้เรียกว่า 青团ภาษาไทยเรียกว่าไรงะ เซี่ยงไฮ้มีร้านนึงดังมากต่อแถวกันสามสี่ชม ข้างในเป็นไว้หมูหยอง เคยมีคนไปต่อแถวซื้อมาให้กิน ลูกแรกก็อน่อยดีนะ แต่พอลูกสองสามและสี่เริ่มจะอ้วก มันมีน้ำมัน มันๆด้วย
อันนี้ก็ไม่เคยเห็นในเซี่ยงไฮ้ แป้งเย็นอบ 烤冷面 ทำนานมาก เพราะใส่หลายไส้ ถือแค่แผ่นเดียวแป้งเดียวอิ่มเลย ไส้จุใจจริงๆ
อันนี้ก็ต่อแถวนานไม่แพ้กัน ข้าวเกรียบราดซอส เผ็ดหวาน อร่อยดีค่ะ แปลกดี ไม่เคยกินที่เซี่ยงไฮ้ เอาเป็นว่าแนะนำให้ลางาน หรือหาวันหยุดมาเที่ยวจีนเลย สามสี่เมืองที่บอกไป คุณจะได้กินอาหารพื้นที่ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว
พีดสุดอันนี้ไปเมืองไหนก็ต้องเจอ แค่กลิ่นก็พีคและ เหม็นตั้งแต่หน้าซอย มันคือ เต้าหู้เหม็น นั่นเอง แต่ละเมืองแต่ละมณฑลก็จะมีสูตรต่างกันไป เมื่อก่อนมาจีนบ่อยๆ ได้กลิ่นจะเป็นลม คบกับแฟนคนจีนช่วงนั้นโดนสั่งห้ามกิน ถ้ากินไม่ต้องเข้าบ้าน พอเลิกกันเท่านั้นแหละ กินแม่มเลย อยากลองมานานและ ฮ่าๆ อร่อยแฮะ เอาจริงๆและมันเหม็นเฉยๆแต่รสาติเกร๋เลยแหละ ราดน้ำจิ้มข้นๆ ยิ้งเต้าหู้ดำรสยิ่งเข้มข้นกว่าเต้าหูเหม็นสีเหลือง พูดและน้ำลายจะไหล
รีวิวอาหารที่เหลือที่เราว่าเฉยๆ และบริเวณรอบๆเมืองโบราณซานถัง
ทริปเซี่ยงไฮ้-ซูโจว ครึ่งวัน เน้นกินโหด
นางทั้งสามอยู่บ้านเอเอฟหลังเดียวกัน มีแต่เราคนเดียวระหกระเหินอยู่ชานเมือง วันนี้เรานัดกันเจอสถานีรถไฟตอน10โมงเช้า ที่สถานีรถไฟ มาถึงยังไม่เจอผู้ใด เลยซัดอาหารเช้ารอไปพลางๆ จะเรียกมันภาษาไทยว่าไรดีล่ะ นัง手抓饼โส่ว จา ปิ่ง 。。。เรียกมันว่าเครปเมืองจีนละกัน เลือกไส้ได้สารพัด แฮม ไส้กรอก ชีส ไก่ หมูหยอง บลาๆ ราดซอส มะเขือเทศ ซอสพริก มายองเนสตามใจ แถมผักกาด แตงกวา ให้ แม่มไส้งงปนกันไปหมด มีขายกันให้เกลื่อนตามรสเคลื่อนที่ เห็นทุกวันจนเอียน ไม่รู้คนจีนแม่มกินได้ไงทุกวัน
กินจนหมด พวกนางก็ยังไม่มา ยืนมองคนจีนบ่นไปมา เจือกขึ้นผิดฝั่ง แล้วของนางนึกว่าย้ายบ้าน อยากจะเข้าช่วยนะ แต่ด้วยร่างเล็กๆของชะนีคงไม่ไหว คือต้องบอกว่าใครอยู่เซี่ยงไฮ้จะนัดเจอเพื่อนที่สถานีรถไฟ นัดกันให้ดีๆ ว่าโผล่มาเจอกันฝั่งไหน เหนือหรือใต้ ไม่งั้นเดินกลับขาลาก ซึ่งชะนีก็แอบหึกเหิมใจ สถานการณ์ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราแน่นอน เพราะมาอยู่ที่นี่ก็ปีกว่าและ หึๆ ยิ้มมุมปาก สักพักจ้า วีแชทเข้า นางบ้านเอเอฟมาถึงกันและ ถามอยู่ไหน นัดกันไว้ประตู1ไม่เห็นเจอ…เราผู้ซึ่งรอประตู1เหมือนกัน ก็โวยวายกลับ ขึ้นมายังล่ะ โผล่ขึ้นมาเห็นเลย เสื้อขนเป็ดยืนแดงอยู่ตรงทางออกเนี่ยคะ จนดูและท่าไม่ได้การ เลยแชร์โลเคชั่นกลุ่มแบบเรียวไทม์ สรุปได้แว้ ประตู1แม่มเจือกมีสองที่อีก มีประตู1จากสาย1 และประตู1จากสาย4 พลาดได้ไงวะตรู เสียชื่อหมดเลย สุดท้ายไม่พ้นโดนเพื่อนด่ารัวจร้า ขึ้นมาผิดฝั่ง ขอโต๊ดดเพื่อนๆทุกคนที่ต้องเดินกลับมาหา แง่ว
โอเครค่ะ ทริปจะเริ่มและ หลังจากนัดกันสิบโมง กว่าจะครบทีมตอนสิบเอ็ดโมง ไม่ได้เอาพาสปอร์ตมาหนึ่ง เราก็คิดว่าโอเครไม่น่าเป็นไรมั้ง มีรูปพาสปอร์ตในมือถือก็ได้ เพราะเมื่อก่อนเราใช้วิธีนี้เค้าก็ให้เข้า พอกำลังต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ พี่คนนึงหน้าเริ่มซี๊ด นึกว่าจะเป็นลม เลยถามแกเป็นไร….เอ่อ ผมก็ลืมเอาพาสปอร์ตมาเหมือนกัน !!นั่นไง สองและ คุณพี่ตัวตั้งตัวดีนำทริปด้วยนะเนี่ย ฮ่าๆ กุมขมับเลย เอาไงดี แยกย้ายมะ กลับบ้านไปนอน ไม่ไปแม่มและ จบทริปรีวิวเที่ยวเซี่ยงไฮ้-ซูโจวแล้วจร้า สวัสดี
.................
.................................
เฮ้ย!!ไม่ๆเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆหรอกหน่ะ กว่าจะมาจากชานเมืองได้ เราคิดว่าเอางี้ มีสองทาง กลับไปบ้านพร้อมกันสองคนไปเอาพาสปอร์ตมา ไม่มีเค้าก็ไม่ให้ขึ้นรถไฟจิ อีกทางนึงคือ เดี๋ยวเราจะเนียนไปต่อแถวซื้อบัตรรถทัวร์ ถ้านางไม่ขอพาสปอร์ตก็เนียนๆไป ขึ้นรถทัวร์ไปก็ได้ ช้ากว่าหน่อย ถ้ารถไฟความเร็วสูง จากเซี่ยงไฮ้-ซูโจว ประมานครึ่งชม ส่วนรถทัวร์ ประมานหนึ่งชมครึ่ง ไปถึงก็บ่ายโมงครึ่ง หมดไปครึ่งค่อนวันและ –เมื่อเราวางแผนเสร็จก็ตามแผน วิ่งข้ามไปอีกฝั่งนึงสถานีขนส่ง เอาจริงๆเราเป็นคนชอบแพลนทริปนะ ถ้าให้เราแพลนทริป รับรองกิจกรรมเที่ยวแน่นเอี๊ยด ไม่ได้หลับไม่ได้นอนแน่ๆ เราเป็นพวกแบบมาทั้งทีต้องเที่ยวให้คุ้ม เพื่อนๆเลยไม่ค่อยอยากมาเที่ยวกับเราเท่าไหร่ เพราะเหนื่อย ฮ่าๆ
ตัดมาที่สถานีขนส่ง เราเลือกลงไปซื้อใต้ดิน ซึ่งเข้าใจว่ามันนจะขายสองที่บนตึกด้วย แต่เราดูว่าใต้ดินมันดูไม่เป็นทางการ น่าจะเนียนๆไม่ตรวจพาสปอร์ตได้ ….วิเคราะห์ ฉลาดเริ่ดจริงช้านน ฮ่าๆ จนถึงคิวก่อนหน้าๆก็จะเห็นคนจีนยื่นบัตรประชาชน เริ่มใจเสีย เอาไงดี??ไม่เป็นไร ใจดีสู้เสือไว้ จนถึงคิวเรา จองเวลาเสร็จปุ๊บช่วงกำลังจ่ายเงิน นางขอดูพาสปอร์ต เอาแล้วไงคะ ทริปล่มชัวร์ๆ เรายื่นของเราไปแค่เล่มเดียว นางถามของคนอื่นหล่ะ ……ด้วยความไหวพริบค่อนข้างไว เพราะเริ่มรู้นิสัยของคนจีน เลยตอบไปว่า เพื่อนคนที่เหลือรอข้างบนแล้ว นางเจ็บขา บลาๆแถลไปเรื่อย กฎของการอยู่ที่นี่ คือเมิงต้องมั่นใจ มั่นหน้า หน้าจิก อย่าทำกลัว ภาษจีนเก่งไม่เก่งไม่ใช่ปัญหา แต่อย่าทำเหลอหลาเด็ดขาด ทำเทพเข้าไว้ในบางสถานการณ์ แล้วชั้นก็ได้ครอบครองตั๋วรถทัวร์มาโดยดี ค่ารถคนละ 44.50 หยวน(ประมาณ220บาท)
ดีใจช่วยเพื่อนร่วมทริปรอดและ ก็ขึ้นมาเพื่อไปขึ้นรถบนตึกในสถานีขนส่งนี้ ขึ้นมาชั้นสอง เราก็จะเห็นพอดี สังเกตที่ตั๋วว่ารถเราอยู่เลขช่องไหน อันนี้ดียังไม่ต้องเดินนาน แต่ถ้าจะขึ้นรถไฟ ต้องเผื่อเวลาเดินไปชานชาลาสักครึ่งชมนะคะ เพราะบางสถานีรถไฟ เข้าไปลึกมาก และรถออกตรงเวลาเป๊ะ อย่าเดินเอ้อละเหยละ นี่ไม่ใช่รถไฟไทยค่ะ
ขึ้นมาและ โอเครอยู่ไม่สะอาดมากและไม่ซกมกมาก เอ๊ะ!ยังไง ทั้งคันแม่มมีแค่เจ็ดคน เกร๋ๆ นอนเหยียดไปยาวๆ นั่งชมครึ่งถึง
ใครจะมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้แนะนำคุณสามารถแพลนมา 5วัน4คืนได้นะคะ แบ่งเที่ยวสามเมือง เซี่ยงไฮ้ ซูโจว หังโจว พออยู่แล้ว ถ้าจะเอาโหดอีกหน่อย เพิ่มหนานจิงไปด้วย ไปดูประวัติศาสตร์สงครามจีน-ญี่ปุ่น แต่พี่เค้าบอกว่าฮาร์บินมีให้ดูเยอะกว่าหนานจิง ส่วนเราก็ซวยสุด ไปตอนนั้นดันถ่ายละครกันพอดี อดเข้าไปดู ง่อวว ทริปหน้าไม่พลาดแน่
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จัดอะไรเบาๆก่อนละกัน มาๆรีวิวอาหารของแต่ละนาง
พี่คนหนึ่งเลือก ก๋วยเตี๋ยวหมูเส้นน้ำขลุกขลิก
พี่อีกคนนึงนางเลือก เกี๋ยวจิ้มซอสเปรี๊ยวเผ็ด รสชาติคล้ายน้ำจิ้มขาหมู
น้องอีกคนสั่งข้าวหน้าเป็ด กลับได้ข้าวน่องไก่ หน้าตาไม่น่าทานเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ฮ่าๆ มีงี้ด้วย
ส่วนอิชั้น หมูสามชั้นทอด และซุปไก่ดำ บำรุงร่างกาย ดูเฮลตี้สุดๆอะ เจอหมูเข้าไปก็ไม่รู้กี่ร้อยแคลอรี่และ
ปลื้มค่าครอบชีพของที่นี่มากอะ ของกินถูกกว่าเซี่ยงไฮ้ด้วย เมืองเที่ยวก็เยอะกว่า คนก็ดูอัธยาศัยดีกว่า รถแท๊กซี่ก็มิตเตอร์ถูกว่า 11หยวน เซี่ยงไฮ้14หยวน กลางคืน18หยวน
แล้วเราก็ไปจองตั๋วกลับทันทีก่อนจะออกเที่ยว เพราะหมดแล้วหมดเลย ไม่ได้กลับ พรุ่งนี้ทำงาน อยู่จีนไม่เหมือนอยู่ไทยคะ ไม่ใช่มีตลอด ต้องจองก่อน วางแผนไว้ก่อนเสมอ ไม่งั้นคืนพลาด มาถึงนี่ก็เกือบบ่ายสอง รถรอบสุดท้ายทุ่มนึง มีเวลาเที่ยวสี่ชมเท่านั้น เราเลยปักหมุดกันที่ 山塘街 นั่นก็คือย่านซานถังนั่นเอง ซึ่งก็เป็นแนวๆตลาดน้ำบ้านเรา แค่ไม่มีเรือพายมาขายของ แต่เป็นเมืองโบราณ มีเรือพายนำเที่ยว สองข้างทางขายของกินมากมาย ใครรักกการกิน ต้องมาเลย ไม่ผิดหวังแน่ค่ะ เอาจริงๆซูโจวมีที่เที่ยวเยอะมาก คราวที่แล้วเราก็แพ๊คเป้มาเที่ยวคนเดียวที่โจวจวง ไปอ่านได้ที่นี่นะคะ https://ppantip.com/topic/35503711
ต่อไปนี้คือการรีวิวของกินล้วนๆ ใครใจไม่แข็งพอ แนะนำอย่าเปิดอ่านตอนกลางคืน ฮ่าๆ
..........................
..................................
ของกินเด่นๆ ขึ้นชื่อซูโจวก็ต้อง ปลาเปรี้ยวหวาน
แต่เวลาเราไปไหนจะชอบสั่งปลาผักกาดดองทุกครั้ง酸菜鱼 เราโคตรชอบกินปลาผักกาดดอง เปรี๊ยวเผ็ดสะใจ
ส่วนอันนี้เรียกว่า 青团ภาษาไทยเรียกว่าไรงะ เซี่ยงไฮ้มีร้านนึงดังมากต่อแถวกันสามสี่ชม ข้างในเป็นไว้หมูหยอง เคยมีคนไปต่อแถวซื้อมาให้กิน ลูกแรกก็อน่อยดีนะ แต่พอลูกสองสามและสี่เริ่มจะอ้วก มันมีน้ำมัน มันๆด้วย
อันนี้ก็ไม่เคยเห็นในเซี่ยงไฮ้ แป้งเย็นอบ 烤冷面 ทำนานมาก เพราะใส่หลายไส้ ถือแค่แผ่นเดียวแป้งเดียวอิ่มเลย ไส้จุใจจริงๆ
อันนี้ก็ต่อแถวนานไม่แพ้กัน ข้าวเกรียบราดซอส เผ็ดหวาน อร่อยดีค่ะ แปลกดี ไม่เคยกินที่เซี่ยงไฮ้ เอาเป็นว่าแนะนำให้ลางาน หรือหาวันหยุดมาเที่ยวจีนเลย สามสี่เมืองที่บอกไป คุณจะได้กินอาหารพื้นที่ไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว
พีดสุดอันนี้ไปเมืองไหนก็ต้องเจอ แค่กลิ่นก็พีคและ เหม็นตั้งแต่หน้าซอย มันคือ เต้าหู้เหม็น นั่นเอง แต่ละเมืองแต่ละมณฑลก็จะมีสูตรต่างกันไป เมื่อก่อนมาจีนบ่อยๆ ได้กลิ่นจะเป็นลม คบกับแฟนคนจีนช่วงนั้นโดนสั่งห้ามกิน ถ้ากินไม่ต้องเข้าบ้าน พอเลิกกันเท่านั้นแหละ กินแม่มเลย อยากลองมานานและ ฮ่าๆ อร่อยแฮะ เอาจริงๆและมันเหม็นเฉยๆแต่รสาติเกร๋เลยแหละ ราดน้ำจิ้มข้นๆ ยิ้งเต้าหู้ดำรสยิ่งเข้มข้นกว่าเต้าหูเหม็นสีเหลือง พูดและน้ำลายจะไหล
รีวิวอาหารที่เหลือที่เราว่าเฉยๆ และบริเวณรอบๆเมืองโบราณซานถัง