คงไม่มีใครปฏิเสธว่า The Wolverine เป็น Superhero ตัวแรกๆ ที่โผล่มาบนจอภาพยนตร์ และสร้างความประทับใจให้คนดูได้อย่างดีมาถึง 17 ปีโดยไม่มีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเลย ด้วยคาแรคเตอร์ที่อินดี้และดูดุๆ ดิบๆ และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ทำให้คนดูหลายๆ คนเก็บ Wolverine เข้าไปไว้ในอ้อมใจ และปฏิเสธไม่ได้ว่า Logan คือหนังที่หลายๆ คนรอคอยอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2029 โลแกน และศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ซาเวียร์ (โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์) จะต้องรับมือกับการสูญเสียของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ เมื่อ นาธาเนียล เอสเซ็ก (มิสเตอร์ซินนิสเตอร์) ประธานบริษัท Essex Corp ส่งนักฆ่า Reavers ออกทำลายล้างเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ พร้อมกับพลังพิเศษที่มีในตัวเริ่มเสื่อมถอยลง ชาร์ลส์ ซาเวียร์ ต้องเผชิญหน้ากับโรคความจำเสื่อม ส่วน โลแกน ก็ต้องพบกับความเจ็บปวดจากการที่พลังในการฟื้นฟูตัวเองก็ลดถอยลง ทั้งคู่ต้องร่วมกันปอกป้องเด็กสาวที่มีพลังพิเศษเช่นเดียวกับ โลแกน ซึ่งต้องการพลังในการเยียวยา และกรงเล็บอันแข็งแกร่ง จากองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์ในพลังของเธอ
ต้องบอกก่อนเลยว่า Logan ถึงแม้ timeline ของหนังจะเกิดขึ้นในปี 2029 (ปีเดียวกับคนเหล็ก Terminator นี่หน่า) แต่หนังไม่ได้ออกแนว SciFi ล้ำยุคเลยแม้แต่น้อย แต่หนังกลับทำเป็นเหมือนอารมณ์ประมาณหนังคาวบอยย้อนยุคด้วยซ้ำ เปิดมาหนังแสดงให้เห็นเลยว่า Superhero อย่าง Wolverine และ Professor X ก็เป็นแค่คนธรรมดาที่มีวันอ่อนแอเช่นกัน หนังแทบจะไม่ได้กล่าวถึงความสามารถพิเศษอะไรของตัวละครเหล่านี้มากนัก แต่กลับไปโฟกัสเรื่องของเด็กน้อย Laura หรือ X-23 มากกว่า
ด้วยตัวเนื้อหาหลักๆ ของหนังมันค่อนข้างหนักและตึงเครียดพอสมควร หนังทั้งเรื่องเลยออกมาเป็นอารมณ์ที่ค่อนข้างหม่นเอามากๆ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับบหนัง Marvel ที่มีมุขตลกตลอดเวลาแทบจะทุกเรื่อง แต่กับเรื่องนี้หนังกลับใส่ดราม่าเข้าไปเยอะมากด้วยซ้ำ การแสดงอันทรงพลังของ Hugh Jackman ยิ่งทำให้คนดูอินกับหนังอย่างสุดใจ พอถึงฉากดราม่านี่แทบจะน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ตัว Patrick Stewart ถึงจะมีบทไม่ได้เยอะมาก แต่กลับมีพลังสะกดคนดูไว้ได้อยู่หมัด และหนูน้อย Dafne Keen ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหนูไม่ธรรมดา
ฉากแอ็คชั่นเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของหนังอย่างที่สุด เพราะมันทั้งโหด ดิบ เถื่อนสุดๆ เรียกว่า Logan นี่เป็นหนังที่ออกไปทาง Superhero สายดาร์คด้วยซ้ำ แถมฉากต่อสู้ต่างๆ ยังทำออกมาได้ลื่นไหล ดูสนุกสุดๆ ถึงแม้มันจะโหดกว่า X-Men ปกติเยอะมาก แต่ก็น่าประทับใจ
สุดท้ายถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ถ้าเทียบกับ X-Men อันไหนดีกว่า ผมว่ามันคนละแนวเลยล่ะ เพราะเรื่องนี้เน้นความ real ในชีวิตมากขึ้น มีความดาร์คของอารมณ์หนังสุดๆ แทบจะไม่มีอารมณ์ของความเป็น Superhero ที่มีพลังพิเศษด้วยซ้ำ แต่หนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงกว่ากลับสะกดคนดูที่ชอบหลับในโรงอย่างผมได้อยู่หมัดเลยล่ะ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่เพจเลยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Logan - ปิดฉาก Wolverine อย่างน่าประทับใจ กับหนัง Superhero ของ Marvel ที่มีความดาร์คและครบรส
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2029 โลแกน และศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ ซาเวียร์ (โปรเฟสเซอร์เอ็กซ์) จะต้องรับมือกับการสูญเสียของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ เมื่อ นาธาเนียล เอสเซ็ก (มิสเตอร์ซินนิสเตอร์) ประธานบริษัท Essex Corp ส่งนักฆ่า Reavers ออกทำลายล้างเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ พร้อมกับพลังพิเศษที่มีในตัวเริ่มเสื่อมถอยลง ชาร์ลส์ ซาเวียร์ ต้องเผชิญหน้ากับโรคความจำเสื่อม ส่วน โลแกน ก็ต้องพบกับความเจ็บปวดจากการที่พลังในการฟื้นฟูตัวเองก็ลดถอยลง ทั้งคู่ต้องร่วมกันปอกป้องเด็กสาวที่มีพลังพิเศษเช่นเดียวกับ โลแกน ซึ่งต้องการพลังในการเยียวยา และกรงเล็บอันแข็งแกร่ง จากองค์กรที่ต้องการใช้ประโยชน์ในพลังของเธอ
ต้องบอกก่อนเลยว่า Logan ถึงแม้ timeline ของหนังจะเกิดขึ้นในปี 2029 (ปีเดียวกับคนเหล็ก Terminator นี่หน่า) แต่หนังไม่ได้ออกแนว SciFi ล้ำยุคเลยแม้แต่น้อย แต่หนังกลับทำเป็นเหมือนอารมณ์ประมาณหนังคาวบอยย้อนยุคด้วยซ้ำ เปิดมาหนังแสดงให้เห็นเลยว่า Superhero อย่าง Wolverine และ Professor X ก็เป็นแค่คนธรรมดาที่มีวันอ่อนแอเช่นกัน หนังแทบจะไม่ได้กล่าวถึงความสามารถพิเศษอะไรของตัวละครเหล่านี้มากนัก แต่กลับไปโฟกัสเรื่องของเด็กน้อย Laura หรือ X-23 มากกว่า
ด้วยตัวเนื้อหาหลักๆ ของหนังมันค่อนข้างหนักและตึงเครียดพอสมควร หนังทั้งเรื่องเลยออกมาเป็นอารมณ์ที่ค่อนข้างหม่นเอามากๆ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับบหนัง Marvel ที่มีมุขตลกตลอดเวลาแทบจะทุกเรื่อง แต่กับเรื่องนี้หนังกลับใส่ดราม่าเข้าไปเยอะมากด้วยซ้ำ การแสดงอันทรงพลังของ Hugh Jackman ยิ่งทำให้คนดูอินกับหนังอย่างสุดใจ พอถึงฉากดราม่านี่แทบจะน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ตัว Patrick Stewart ถึงจะมีบทไม่ได้เยอะมาก แต่กลับมีพลังสะกดคนดูไว้ได้อยู่หมัด และหนูน้อย Dafne Keen ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหนูไม่ธรรมดา
ฉากแอ็คชั่นเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของหนังอย่างที่สุด เพราะมันทั้งโหด ดิบ เถื่อนสุดๆ เรียกว่า Logan นี่เป็นหนังที่ออกไปทาง Superhero สายดาร์คด้วยซ้ำ แถมฉากต่อสู้ต่างๆ ยังทำออกมาได้ลื่นไหล ดูสนุกสุดๆ ถึงแม้มันจะโหดกว่า X-Men ปกติเยอะมาก แต่ก็น่าประทับใจ
สุดท้ายถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ถ้าเทียบกับ X-Men อันไหนดีกว่า ผมว่ามันคนละแนวเลยล่ะ เพราะเรื่องนี้เน้นความ real ในชีวิตมากขึ้น มีความดาร์คของอารมณ์หนังสุดๆ แทบจะไม่มีอารมณ์ของความเป็น Superhero ที่มีพลังพิเศษด้วยซ้ำ แต่หนังที่มีความยาว 2 ชั่วโมงกว่ากลับสะกดคนดูที่ชอบหลับในโรงอย่างผมได้อยู่หมัดเลยล่ะ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่เพจเลยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/