หนังนำเสนอเรื่องราวในอนาคตแต่เนื่องด้วยมันไปไกลพอสมควรจาก Timeline ล่าสุดที่เราได้ชมกันในตอนจบของ Day of Future Past มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ตอนแรก เท่าที่ผมสังเกตดูหนังค่อนข้างตอบคำถามได้เกือบหมด แต่ก็ยังมีคำถามที่ยังคาใจอยู่อีกพอสมควรหรือทำไมต้องสร้างเรื่องราวออกมาแบบนี้ทั้งๆที่ภาค Day of Future Past ก็อุตส่า Reset ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว
จุดที่แข็งที่สุดและแข็งมากๆยิ่งกว่าอะดาแมนเทียมสำหรับภาคนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นในหนังชุด X-MEN มาก่อนนั่นคือความสมจริงสมจัง เช่น กรงเล็บอะดาแมนเทียมตอนฟันหรือแทงคนมีเลือดสาดกับเขาบ้างแล้วหรือแม้กระทั่งตอนชักกรงเล็บออกมาก็ยังพอเห็นมีเลือดจากร่างกายติดออกมาบ้าง คิวบู๊และแอ็คชั่นก็มีความดิบ เถื่อน รุนแรงค่อนข้างสูง โหดจริง แรงจริง เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ยุคนี้เนื่องจากต้องทำให้เด็กดูได้ ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์อีกอย่างว่าเมื่อเป็นเรท R และใส่ความรุนแรงได้เต็มที่ ทำให้อรรถรสในการชมนั้นสนุกขึ้นเป็นกองเพราะแนวซุปเปอร์ฮีโร่ก็เน้นความเว่อเกินจริงกับฉากแอ็คชั่นอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น Logan ค่อนข้างเน้นหนักไปที่อารมณ์ตัวละครค่อนข้างมาก สภาพตัวละครหลักของเราค่อนข้างแย่มากๆ และนักแสดงสื่อมันออกมาได้ดีโดยเฉพาะ Hugh Jackman ที่แสดงได้ดูโทรมและซังกะตายมากๆ มันทำให้คนดูรับรู้ถึงความเจ็บปวดของตัวละครตัวนี้ไปด้วย รวมถึงอารมณ์เศร้าหรือปมในจิตใจของตัวละครต่างๆก็สื่อออกมาได้ดี
ส่วนหนึ่งสำหรับผมจุดอ่อนคือบทร้าย Pierce ของ Boyd Holbrook ที่ท่าดีแต่ทีเหลวมากๆ ทั้งที่ตอนต้นดึงความสนใจได้ดีมากๆ พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเลย ตัวละคร Dr. Rice ก็ไม่อินเท่าไหร่ ปกติถ้าผมเจอตัวร้ายที่กระจอกแบบนี้ผมจะรู้สึกว่าหนังดูไม่ค่อยสนุก แต่นี่กลับไม่ใช่เพราะความสนใจตกไปอยู่ที่ความอยากรู้อยากเห็นในแต่ละสิ่งที่เปลี่ยนไปของภาคนี้มากกว่า อยากรู้ที่มาที่ไปเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นและเมื่อหนังเฉลยออกมาก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นมีเหตุมีผล และหนังยังมีเซอร์ไพรที่จะทำให้คุณต้องร้องเฮ้ย what the fk ดึงดูดความน่าสนใจของคนดูได้เป็นอย่างมากและทำให้หนังถึงจุดพีคสุดๆ
ตัวหนังเองก็ยังคงมีบางจุดที่แอบเนือยๆเหมือนกันแต่ก็ยังพอไหลไปได้ อีกสิ่งที่ค่อนข้างขัดใจผมเลยคือตอนจบที่ดึงอารมได้พีคมากๆแล้วแต่ผมกลับรู้สึกว่าตัดจบเข้าเครดิตเร็วเกินไปเหมือนเรายังซึมซับอารมณ์ที่พาเรามาขนาดนี้ยังได้ไม่เท่าไหร่กลับขึ้นเครดิตมาซะแล้ว
Logan จะเรียกว่าหนังแอ็คชั่นเต็มปากก็ไม่ได้ ดราม่าเต็มปากก็ไม่ได้ มันผสมในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน หากถามว่า Logan เป็นหนังชุด X-MEN ที่ดีที่สุดหรือไม่ สำหรับผมคิดว่ายังไม่ใช่ ยังไม่สามารถเทียบ Day of Future Past ได้ แต่ Logan ก็ยังเป็นหนังดีและสนุกระดับหนึ่ง แฟนๆ X-MEN ควรจะไปดูเพื่อส่งท้ายบทบาท Wolverine ของ Hugh Jackman เพราะอนาคตถึงจะมีคนใหม่มา ก็ไม่น่าจะมีใครที่เหมาะสมเท่าแกที่สุดแล้ว
พล็อตเรื่อง 8/10
ดำเนินเรื่อง 8/10
ตัวละคร 7.5/10
สรุป 8/10
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ -
https://www.facebook.com/NangDMeReview/
[CR] [Review-No Spoil] Logan โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน
หนังนำเสนอเรื่องราวในอนาคตแต่เนื่องด้วยมันไปไกลพอสมควรจาก Timeline ล่าสุดที่เราได้ชมกันในตอนจบของ Day of Future Past มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ตอนแรก เท่าที่ผมสังเกตดูหนังค่อนข้างตอบคำถามได้เกือบหมด แต่ก็ยังมีคำถามที่ยังคาใจอยู่อีกพอสมควรหรือทำไมต้องสร้างเรื่องราวออกมาแบบนี้ทั้งๆที่ภาค Day of Future Past ก็อุตส่า Reset ให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว
จุดที่แข็งที่สุดและแข็งมากๆยิ่งกว่าอะดาแมนเทียมสำหรับภาคนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นในหนังชุด X-MEN มาก่อนนั่นคือความสมจริงสมจัง เช่น กรงเล็บอะดาแมนเทียมตอนฟันหรือแทงคนมีเลือดสาดกับเขาบ้างแล้วหรือแม้กระทั่งตอนชักกรงเล็บออกมาก็ยังพอเห็นมีเลือดจากร่างกายติดออกมาบ้าง คิวบู๊และแอ็คชั่นก็มีความดิบ เถื่อน รุนแรงค่อนข้างสูง โหดจริง แรงจริง เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ยุคนี้เนื่องจากต้องทำให้เด็กดูได้ ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์อีกอย่างว่าเมื่อเป็นเรท R และใส่ความรุนแรงได้เต็มที่ ทำให้อรรถรสในการชมนั้นสนุกขึ้นเป็นกองเพราะแนวซุปเปอร์ฮีโร่ก็เน้นความเว่อเกินจริงกับฉากแอ็คชั่นอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้น Logan ค่อนข้างเน้นหนักไปที่อารมณ์ตัวละครค่อนข้างมาก สภาพตัวละครหลักของเราค่อนข้างแย่มากๆ และนักแสดงสื่อมันออกมาได้ดีโดยเฉพาะ Hugh Jackman ที่แสดงได้ดูโทรมและซังกะตายมากๆ มันทำให้คนดูรับรู้ถึงความเจ็บปวดของตัวละครตัวนี้ไปด้วย รวมถึงอารมณ์เศร้าหรือปมในจิตใจของตัวละครต่างๆก็สื่อออกมาได้ดี
ส่วนหนึ่งสำหรับผมจุดอ่อนคือบทร้าย Pierce ของ Boyd Holbrook ที่ท่าดีแต่ทีเหลวมากๆ ทั้งที่ตอนต้นดึงความสนใจได้ดีมากๆ พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเลย ตัวละคร Dr. Rice ก็ไม่อินเท่าไหร่ ปกติถ้าผมเจอตัวร้ายที่กระจอกแบบนี้ผมจะรู้สึกว่าหนังดูไม่ค่อยสนุก แต่นี่กลับไม่ใช่เพราะความสนใจตกไปอยู่ที่ความอยากรู้อยากเห็นในแต่ละสิ่งที่เปลี่ยนไปของภาคนี้มากกว่า อยากรู้ที่มาที่ไปเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นและเมื่อหนังเฉลยออกมาก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นมีเหตุมีผล และหนังยังมีเซอร์ไพรที่จะทำให้คุณต้องร้องเฮ้ย what the fk ดึงดูดความน่าสนใจของคนดูได้เป็นอย่างมากและทำให้หนังถึงจุดพีคสุดๆ
ตัวหนังเองก็ยังคงมีบางจุดที่แอบเนือยๆเหมือนกันแต่ก็ยังพอไหลไปได้ อีกสิ่งที่ค่อนข้างขัดใจผมเลยคือตอนจบที่ดึงอารมได้พีคมากๆแล้วแต่ผมกลับรู้สึกว่าตัดจบเข้าเครดิตเร็วเกินไปเหมือนเรายังซึมซับอารมณ์ที่พาเรามาขนาดนี้ยังได้ไม่เท่าไหร่กลับขึ้นเครดิตมาซะแล้ว
Logan จะเรียกว่าหนังแอ็คชั่นเต็มปากก็ไม่ได้ ดราม่าเต็มปากก็ไม่ได้ มันผสมในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน หากถามว่า Logan เป็นหนังชุด X-MEN ที่ดีที่สุดหรือไม่ สำหรับผมคิดว่ายังไม่ใช่ ยังไม่สามารถเทียบ Day of Future Past ได้ แต่ Logan ก็ยังเป็นหนังดีและสนุกระดับหนึ่ง แฟนๆ X-MEN ควรจะไปดูเพื่อส่งท้ายบทบาท Wolverine ของ Hugh Jackman เพราะอนาคตถึงจะมีคนใหม่มา ก็ไม่น่าจะมีใครที่เหมาะสมเท่าแกที่สุดแล้ว
พล็อตเรื่อง 8/10
ดำเนินเรื่อง 8/10
ตัวละคร 7.5/10
สรุป 8/10
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ - https://www.facebook.com/NangDMeReview/