ทำไมเป็นงี้ไปได้ ไม่เห็นด้วยเลย สิ่งที่ควรจะเป็นคือเปลี่ยนจากตู้ที่หยอดเหรียญอย่างเดียว เป็นตู้ที่รับได้ทั้ง cash, coin & credit/debit card ต่างหากถึงจะเรียกว่าพัฒนาระบบอย่างยั่งยืน นี่กลับกลายเป็นก้าวถอยหลังขัดกับนโยบาย Thailand 4.0 ยุคดิจิตอล ฯลฯ ที่รัฐบาลกำลังโปรโมทอย่างหนักหน่วง หรือเราจะเข้าผิดเองหรือยังไง ทั้งโลกเขากำลังก้าวเข้าสู้ less cash economy ไม่ใช่หรือ เหตุไฉน ผู้บริหารบีทีเอสถึงได้มีวิสัยทัศน์สวนทางกับความเป็นไปของสากลโลกอย่างนี้ อย่าว่าเลย อ้างถึง การที่บีทีเอสต้องแบกรับค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตทั้งที่คนเติมเงินเอาไปใช้ซื้อของซะมากกว่า เท่าที่รู้มาบีทีเอสเป็นเส้นทางสัมปทานที่ได้รายได้และกำไรเยอะที่สุด ส่วนต่างที่เรียกว่ากำไรเนี่ยเจียดไปจ่ายเพื่อความสดวกสะบายของประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ได้เลยหรือรวมถึงภาพลักษณ์ความเป็นprofessionalของประเทศในด้านขนส่งมวลชน (ไม่รับบัตรเนี่ยคือแบบประเทศโลกที่สามเลยมั้ยหละ อยากจะเจริญ แต่แค่นี้ก็เป็นข้อแม้ทำไม่ได้ อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร เขาwelcome card หมดอะ และบัตรเขาก็ใช้ไปซื้อของ จ่ายค่าแท็กซี่ รถเมล์อะไรได้อีก ไม่เห็นเขามาคิดงกเลยว่า กรูต้องแบกภาระค่าธรรมเนียมให้พวกแกไปจ่ายให้ภาคส่วนอื่นมันไม่โอเคงี้) ทั้งๆที่ก็เคยทำมาได้ตั้งนาน บีทีเอสก็ไม่ได้รายได้น้อยลง หรือขาดทุนหนิ ถ้าจะขาดทุนก็คงขาดทุนกำไร นี่ยังไม่นับรายได้อันมหาศาลจากการขายโฆษณาของบีทีเอส เรียกว่าส่วนไหนใครจะซื้อพี่ขายหมดจ้าา จะพื้นจะหลังคาจะบนรางพี่ก็ขายน้าา นอกจากจาก (จอ) audio visualแล้ว เดี๋ยวนี้มีแทรกขายเป็น audio ปล่อยมาเป็นระยะๆด้วยนะจ๊ะ ใครขึ้นบ่อยๆก็คงจะได้ยิน โมษณาของเว็บe-commerce สีแดงๆที่ทุ่มซื้อเกือบจะทั้งสถานีหลายๆสถานีเลยหละ แค่นี้ปชชตาดำๆอย่างดิฉัน ก็มิอาจประเมินตัวเลขของรายได้ตรงนี้ได้แล้วข่าา ดังนั้นสรุปจากภาพรวมแล้ว บีทีเอส กรุ๊ป ก็ไม่น่าจะเผชิญภาวะขาดทุนใดๆหรือมีปัญหาเรื่องการเงินใดๆที่จะสมเหตุสมผลกับการลดรายจ่ายค่าธรรมเนียมรูดcard โดยการยกเลิกหากจะเต็มแค่เงินอย่างเดียว เหตุผลเดียวที่ดิฉันมองเห็นก็คือ ทางบีทีเอสหิวกำไรมากๆค่ะ ลดตัดรายจ่ายทุกทาง ในขณะที่ขายโฆษณามากขึ้นทุกที./ ไม่ทราบว่ามีกฎหมายไหนควบคุมโฆษณาบนพื้นที่หรือในระบบขนส่งมวลชนไหมคะ **smile**

ปล. ธุรกิจผูกขาดอย่างนี้ ปชชไม่มีสิทธิ์เลือกหรือปฏิเสธอะไรหรอกค่ะ ดิฉันก็ยังคงต้องใช้บริการบีทีเอสต่อไป ก็ได้แต่ขอพื้นที่ระบายความอัดอั้นสักนิด กว่าสัมปทานจะหมดก็อีก 10ปี++ แต่ก็แอบหวังให้ รฟม. เข้ามาทำแทนจังเลยค่ะ รู้สึกประทับใจมากกว่าจากที่ได้ขึ้น MRTค่ะ